เป็นอีกหนึ่งครอบครัวที่บอกเลยว่า ดูน่ารักและอบอุ่นมากๆค่ะ สำหรับครอบครัวของนักร้องหนุ่ม ฮิวโก้ จุลจักร และภรรยาสาวฮาน่า กับลูกชายสุดหล่อทั้ง 2 คน เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากจะรู้ว่าบ้านนี้มี วิธีการเลี้ยงลูก อย่างไร? ถึงได้ดูอบอุ่นแบบนี้ ต้องอ่านเลยค่ะ
วิธีการเลี้ยงลูก ของพ่อฮิวโก้และแม่ฮาน่า
ถ้าใครที่ติดตามอินสตราแกรมของนักร้องหนุ่ม ฮิวโก้ จุลจักร และภรรยาสาวฮาน่า ทัศนาวลัย ก็จะต้องได้เห็นความน่ารักของลูกชายสุดหล่อทั้ง 2 คน นั่นก็คือ น้องฮาร์เปอร์ และน้องฮันเตอร์ ซึ่งแม้ว่าทั้งพ่อฮิวโก้และแม่ฮาน่า จะยุ่งมากๆ แต่ก็ยังเห็นว่าครอบครัวนี้มักจะชอบพาลูกๆไปท่องเที่ยวต่างจังหวัดเสมอ เมื่อมีเวลาว่าง ซึ่งสิ่งนี้แหละค่ะคือเคล็ดลับ วิธีการเลี้ยงลูก ด้วยธรรมชาติ ในแบบของครอบครัวนี้
ด้านคุณแม่ฮาน่าเอง ก็ไม่มีหวง เปิดเผยเลยว่าทั้งตนเองและสามี มีวิธีการเลี้ยงลูกๆ ก็คือการให้ลูกได้ซึมซับกับธรรมชาติให้มากที่สุดค่ะ
แม่ฮาน่า “เวลาที่มีทั้งหมดเป็นเวลาของครอบครัว ของลูก ของสามีค่ะ สามีเป็นคุณพ่อที่น่ารักมากในแบบของเขา ซึ่งฮาน่าและลูกๆ อบอุ่นมากๆ ค่ะ พวกเราชอบพาลูกๆ ไปใช้เวลาในวันหยุดร่วมกัน มีไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศบ้าง ชอบให้เหยียบดิน เหยียบทรายใกล้ชิดธรรมชาติ บ้านเราถ้าเลือกได้ไม่นิยมไปเดินเล่นที่ห้างสรรพสินค้า แต่เราชอบไปเดินเล่น ปั่นจักรยาน ที่สวนสาธารณะ หรือไปทะเลกันมากกว่าจะเป็นชีวิตในเมืองค่ะ การได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติส่งผลดีต่อลูกๆ คือเค้าจะเป็นเด็กที่มีความละเอียดอ่อน ใส่ใจคนรอบข้าง ไม่โฟกัสที่ตัวเอง แต่จะรู้จักการช่วยเหลือแบ่งปัน เหมือนเป็นการสร้างภูมิให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอกค่ะ”
คุณแม่บ้านไหนจะลองนำ วิธีการเลี้ยงลูก ด้วยธรรมชาติ แบบครอบครัวนี้ก็จัดไปเลยค่ะ เพราะแม่ฮาน่าบอกเลยว่าไม่มีหวง เพราะอยากให้ทุกๆครอบครัวได้มีวิธีการเลี้ยงลูกที่ดีแบบนี้ด้วยกันค่ะ
ข้อดีของ วิธีการเลี้ยงลูก ด้วยธรรมชาติ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ข้อดีของ วิธีการเลี้ยงลูก ด้วยธรรมชาติ
ยุคสมัยใหม่ที่มีเทคโนโลยีเข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตมากขึ้น ไม่เว้นแม้แต่การเลี้ยงลูกในปัจจุบัน ก็มักมีเรื่องของการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาเพื่อการเรียนรู้ แต่วิธีการเลี้ยงลูกด้วยการให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ และสัมผัสกับธรรมชาติบ้าง ก็มีข้อดีที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองข้ามเช่นกันค่ะ
ข้อดีการเลี้ยงลูกด้วยธรรมชาติ
- การคลุกคลีกับธรรมชาติจะช่วยให้ลูกอารมณ์ดี รู้สึกเบิกบาน ช่วยสร้างแรงบันดาลใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และสอนให้เด็กอยู่กับความจริง ไม่หลงกับกระแสของวัตถุมากจนเกินไป
- การที่ลูกอยู่ในอากาศที่ดีและสูดอากาศบริสุทธิ์ ส่งผลต่อสุขภาพร่างกายที่ดีอย่างมาก เพราะช่วยทำให้หัวใจ ปอด และระบบหมุนเวียนของเลือดทำงานได้ดี ซึ่งร่างกายก็จะแข็งแรงขึ้นด้วย
- ช่วยเรื่องพัฒนาการทางร่างกายชองลูกครบทุกสัดส่วน จากการที่ลูกได้วิ่งเล่นกับธรรมชาติ และยังเป็นการช่วยกระตุ้นให้เกิดภูมิต้านทาน ทำให้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงมากขึ้น
- ช่วยเรื่อง พัฒนาการทางด้านอารมณ์ เนื่องจากเมื่อลูกได้สัมผัสกับธรรมชาติ ลูกจะรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า มีความสุข ทำให้มีจิตใจอ่อนโยนขึ้น และสามารถปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่นได้
- เมื่ออวัยวะของลูกในส่วนต่างๆ ได้สัมผัสกับพื้นผิวธรรมชาติ หรือพื้นผิวที่แปลกใหม่ จะทำให้พัฒนาการทางสมองเกิดการตื่นตัว ส่งผลให้ระบบประสาททำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
- การให้ลูกได้รู้จักและเรียนรู้กับธรรมชาติรอบตัวลูก จะเป็นการช่วยเพิ่มพูนคำศัพท์ให้กับลูกมากขึ้น ซึ่งเป็นการส่งเสริมพัฒนาการทางสติปัญญา อีกทางให้กับลูกได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วว่า วิธีการเลี้ยงลูกด้วยธรรมชาตินั้น มีข้อดีอย่างไรต่อลูกบ้าง ก็มาดูกันต่อเลยค่ะ ว่า แล้วกิจกรรมที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาตินั้น มีวิธีใดบ้าง?
กิจกรรมธรรมชาติสำหรับลูก
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
กิจกรรมธรรมชาติสำหรับลูก
วิธีการเลี้ยงลูกแบบธรรมชาตินั้น ดีกับตัวลูกจริงๆค่ะ แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่ที่ยังนึกไม่ออกว่า จะมีวิธีการเล่นวิธีใดบ้าง ที่จะทำให้ลูกได้เรียนรู้และสัมผัสธรรมชาติได้มากขึ้น มาดูกันค่ะ
- ชวนลูกออกมานั่งรับอากาศดีๆ
ในวันที่อากาศดีๆ คุณแม่ๆลองชวนลูกมาปูเสื่อรับอากาศได้ค่ะ ซึ่งอาจจะเป็นนอกระเบียง สนามหญ้า หรือในสวนสาธารณะ ให้ลูกได้เรียนรู้มองท้องฟ้า ก้อนเมฆต่างๆ พูดคุยเล่นกับลูก หรืออาจจะเล่านิทานที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติให้ลูกฟังก็ได้ เพื่อให้ลูกได้มีจินตนาการ เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ และอย่าลืมสอดแทรกคำสอนให้ลูกรู้จักรักษาธรรมชาติด้วยก็จะดีมากค่ะ
- ให้ลูกสร้างสรรค์ศิลปะจากธรรมชาติ
เมื่อลูกถึงวัยที่ร่างกายเริ่มควบคุมกล้ามเนื้อมือ กล้ามเนื้อมัดเล็กได้ดีขึ้น เด็กๆจะรู้สึกอยากขีด เขียน อย่างที่หลายๆบ้านเจอ คือ ลูกๆมักจะขีดเขียนตามกำแพง ฝาผนังบ้าน แต่อย่าเพิ่งไปต่อว่า หรือดุลูกนะคะ เพราะลูกอาจจะเพียงแค่อยากทดลองความสามารถ ในการควบคุมกล้ามเนื้อของตน และระบายความคิดออกมาผ่านการขีดเขียนเท่านั้น คุณแม่ก็แก้ไขโดยการเตรียมกระดาษหรือสมุดไว้ให้ลูก พร้อมกับบอกให้ลูกรู้ว่า ลูกสามารถเขียนได้ในสมุดนี้
หรือคุณแม่อาจจะลองหากิจกรรมศิลปะมาให้ลูกเล่น พร้อมกับสอดแทรกเรื่องราวของการอนุรักษ์ธรรมชาติไปด้วย เช่น การใช้ก้านกล้วย หรือเก็บดอกไม้ ใบไม้ที่หล่นอยู่ใต้ต้น มาทำภาพพิมพ์ตามจินตนาการ ใช้สีผสมอาหารแทนสีสังเคราะห์ ก็จะช่วยลดการใช้สารเคมีบนโลกได้อีกทางหนึ่ง และปลอดภัยกับลูกน้อยด้วยค่ะ
- ปลูกฝังให้ลูกปลูกต้นไม้ ช่วยโลก
บางครั้งเด็กๆอาจเผลอชอบที่จะดึงใบไม้ หรือดอกไม้ตามสถานที่ต่างๆ เล่นด้วยความสนุก ดังนั้น การปลูกฝังให้ลูกปลูกต้นไม้ ก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์และดีมากๆ เพราะการปลูกต้นไม้ นอกจากจะช่วยลดภาวะโลกร้อนแล้ว กิจกรรมนี้ยังเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกรักธรรมชาติให้กับลูกน้อยได้อีกด้วย เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกรักและหวงแหนในสิ่งที่ตนเองสร้างขึ้นกับมือ
คุณแม่ๆทำได้โดยการหาโอกาสให้ลูกได้เป็นเจ้าของต้นไม้สักต้น โดยอาจจะเริ่มจากการนำถั่วเขียวมาเพาะเป็นถั่วงอกก่อนก็ได้ เพราะมีช่วงระยะการเติบโตที่สั้น เหมาะสำหรับเด็กเล็กๆ ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในระยะเวลาที่ไม่นานนัก ให้ลูกได้มีส่วนร่วม ตั้งแต่ขั้นตอนการเลือกเมล็ดถั่วที่ดี (ระมัดระวังไม่ให้ลูกหยิบเมล็ดถั่วเข้าจมูก เข้าปาก) การเตรียมดิน หรือกระดาษชำระชุบน้ำ และหมั่นสังเกตความเปลี่ยนแปลงทุกๆ วัน ตั้งแต่เป็นเมล็ด เริ่มผลิใบ และงอกออกมาเป็นถั่วงอกที่สมบูรณ์
- ให้ลูกได้รู้จักและใกล้ชิดกับสัตว์
การให้ลูกได้รู้จักและเรียนรู้ที่จะอยู่กับสัตว์เลี้ยงก็เป็นอีกหนึ่ง วิธีการเลี้ยงลูก ด้วยธรรมชาติที่ดีเลยค่ะ สำหรับครอบครัวที่มีสัตว์เลี้ยงในบ้านอย่าง สุนัข แมว หรือปลา ก็ลองชักชวนลูก ไปเรียนรู้การใช้ชีวิตแต่ละวันของสุนัขเลี้ยงในบ้าน ว่าสุนัขทำอะไรบ้าง มันกินข้าวหรือยัง หากเลี้ยงปลา ก็อาจจะให้อาหารปลา สังเกตปลา เป็นต้น
แต่สำหรับครอบครัวที่ไม่ได้เลี้ยงสัตว์ ก็แนะนำอาจเล่านิทานเกี่ยวกับสัตว์ หรือพาลูกน้อยไปเที่ยวสวนสัตว์เพื่อเรียนรู้ได้เช่นกันค่ะ วิธีนี้ยังช่วยให้ลูกเป็นเด็กที่มีจิตใจอ่อนโยนได้ด้วยค่ั
- ประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุธรรมชาติ
คุณแม่สามารถหาวัสดุจากธรรมชาติ แล้วชวนลูกมาทำของเล่นจากธรรมชาติกัน เช่น ขวดน้ำ เศษผ้า กระดาษ ที่กำลังจะทิ้งเป็นขยะ นำมาประดิษฐ์ของเล่นที่ช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกได้ และยังเป็นการช่วยให้คุณแม่ๆประหยัดค่าใช้จ่ายได้ด้วยค่ะ
ซึ่งกิจกรรมการทำของเล่นนั้น นอกจากจะช่วยฝึกพัฒนาการทางด้านร่างกาย กล้ามเนื้อมัดเล็ก และกล้ามเนื้อมัดใหญ่ และส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์แล้ว การนำเศษวัสดุเหลือใช้มาทำของเล่น ก็ถือได้ว่าเป็นกิจกรรมที่ช่วยลดจำนวนขยะบนโลก และยังส่งเสริมให้พ่อแม่ลูกได้ใช้เวลาร่วมกัน สร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวอีกด้วย
เป็นอย่างไรกันบ้างคะแม่ๆ สำหรับ วิธีการเลี้ยงลูกด้วยธรรมชาติ ที่จะเห็นได้ว่าส่งผลดีกับลูกน้อยแทบจะทุกด้านเลยก็ว่าได้ ดังนั้น นอกจากจะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกแล้ว ก็อย่าลืมที่จะส่งเสริมลูกด้วยวิธีทางธรรมชาติกันด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก sanook / motherandcare
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
วิธี เลือกของเล่นให้ลูก อย่างไรให้ปลอดภัย
ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กลูก ด้วยของเล่นประดิษฐ์สุดเริ่ด! แม่ๆทำเองได้ (มีคลิป)
สมองพิการ ภาวะผิดปกติในเด็ก รักษาได้หรือไม่?
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่