ไม่มีเงินเลี้ยงลูก กลัวลูกไม่ได้ใช้ของดี กลัวน้อยหน้าคนอื่น … ปัญหานี้แก้ไขได้!! แค่ทำตาม 9 วิธีนี้
คนเราทุกคนเกิดมา ย่อมมีบุญวาสนาที่ต่างกัน การที่เรามีเงินน้อยหรือ ไม่มีเงินเลี้ยงลูก แล้วกลัวว่าจะเลี้ยงลูกออกมาได้ไม่ดีนั้น ไม่ใช่ความคิดที่ถูกต้องเลยละค่ะ … จริงอยู่ที่ “เงิน” กลายเป็นปัจจัยที่ 6 สำหรับชีวิตของคนเรา แต่นั่นก็ไม่ได้สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องตัดสินความดี หรือความสำเร็จได้ ดังจะเห็นได้จากคนดังหลาย ๆ คน ที่เริ่มจากศูนย์ แต่ด้วยความขยัน กตัญญูและอดทน ทำให้พวกเขากลายเป็นคนที่มีชื่อเสียง มีทรัพย์สินเงินทองมากมายได้
แต่สิ่งที่ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมาพูดถึงในวันนี้นั้น ไม่ใช่การใช้มูลค่าเงินในการเลี้ยงลูก หากแต่เป็นการเลี้ยงลูกอย่างพอเพียง มีเท่าไหนใช้เท่านั้น และที่สำคัญแค่ปฏิบัติตาม 9 วิธีนี้ รับรองค่ะว่าสามารช่วยแก้ปัญหา ไม่มีเงินเลี้ยงลูก หรือมีน้อย ได้แน่!
“มีลูกหนึ่งคน จนไป 10 ปี!!” อีกหนึ่งคำกล่าวที่ติดปากคนเป็นพ่อเป็นแม่ทุกคน … แน่นอนค่ะว่า ยุคนี้สมัยนี้ ด้วยค่าเงินที่สูงขึ้น ประกอบกับปัญหาทางเศรษฐกิจที่ยังคงคาราคาซังกันอยู่ จะหยิบจับ หรือขยับอะไรทีก็ยังต้องคิดแล้วคิดอีก ยิ่งกำลังจะมีลูกหรือมีลูกแล้วด้วยนี่ยิ่งแล้วใหญ่ เพราะอาจจะสามารถทำให้ชีวิตทั้งชีวิตของคนเป็นพ่อเป็นแม่เปลี่ยนได้เลยเช่นกัน และตัวกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงนั้นก็คือ “เงิน”
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะกำลังประสบปัญหาที่ว่า “ไม่มีเงินเลี้ยงลูก” หรือกลัวว่าการมีเงินอันน้อยนิดจะไม่สามารถทำให้ลูกได้ดีหรือประสบกับความสำเร็จได้เหมือนกับคนอื่น ๆ แล้วด้วยความรักลูก ก็เลยต้องไปหยิบยืมเอาเงินในอนาคตมาใช้ จนก่อให้เกิดหนี้ พอได้เงินมาเท่าไร ก็ต้องเอาไปใช้หนี้หมด … แบบนี้ก็คงจะไม่ค่อยถูกต้องเสียเท่าไร … ไม่เป็นไรค่ะ ผ่านมาแล้วให้มันผ่านไป จากนี้ไปแค่ปฏิบัติ 9 วิธีนี้ให้ได้ รับรองทั้งคุณพ่อคุณแม่และลูกไม่ลำบากแน่นอนค่ะ
ไม่มีเงินเลี้ยงลูก กลัวลูกไม่ได้ดี แก้ได้ด้วย 9 วิธีนี้!
1. เลือกของใช้มือสอง
สมัยนี้จะเห็นว่า คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ เลือกซื้อเสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ (บางชนิด) ในลักษณะเป็นของมือสอง … เนื่องจากราคาไม่แพง ประกอบกับความคิดที่ว่า เด็กโตไว จะให้ไปซื้อของมือหนึ่งมาใช้ก็กลัวเสียดายเงิน หรืออาจจะต้องใช้เงินเยอะ … หากคุณพ่อคุณแม่มีความคิดเช่นนี้ละก็ ถือว่าเป็นคุณมาถูกทางแล้วละค่ะ เด็กโตไวจริง การที่เราจะต้องไปซื้อเสื้อผ้าตัวละเป็นพัน หรือห้าร้อย หกร้อย แล้วได้แค่ตัวเดียวนั้น สู้ไปซื้อเสื้อผ้ามือสองเด็ก ใช้เงินเท่ากันแต่ได้ปริมาณที่มากกว่า ไม่ดีกว่าหรือ … หากคุณพ่อคุณแม่พอมีเงินบ้างละก็ จัดได้ว่าก็ดีค่ะคุ้มดี แต่อาจจะต้องเลือกและทำความสะอาดด้วยวิธีการฆ่าเชื้อกันด้วยนะคะ … แต่จะดีกว่าไหมคะ ถ้าหากเราใช้ของมือสองโดยไม่เสียเงินเลยสักบาทเดียว!
นั่นหมายถึงว่า คุณพ่อคุณแม่จะต้องยอมรับของที่คนอื่นมอบหรือส่งต่อให้โดยไม่คิดมาก เพราะหลาย ๆ ครอบครัวที่เขาพอมีพอกินหรือมีมากนั้น ชอบโละเสื้อผ้าของลูกกันอยู่บ่อย ๆ ค่ะ เนื่องจากซื้อมาเยอะแล้วใส่ไม่ทันบ้าง หรือลูกโตไวแล้วใส่ไม่ได้บ้าง จึงอยากที่จะส่งต่อให้เด็กคนอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนรู้จัก หากคุณพ่อคุณแม่โชคดี ได้รับการส่งต่อมาละก็ เผลอ ๆ ได้ของดีมือหนึ่งเลยเสียด้วยซ้ำนะคะ ดังนั้น หากคนรู้จักของคุณพ่อคุณแม่ต้องการหยิบยื่นน้ำใจนี้ให้ละก็ อย่าปฏิเสธเลยค่ะ รับน้ำใจของเขาไว้จะดีกว่า เพราะสิ่งนี้จะสามารถช่วยทำให้เราประหยัดเงินไปได้มากเลยทีเดียว
2. ทำหลักประกัน
อย่าลืมนะคะ เด็ก ๆ ไม่สบายบ่อย แล้วเวลาเข้าโรงพยาบาลรักษาทีก็เสียเงินไม่ใช่น้อย หากคุณพ่อคุณแม่พอที่จะมีเงินเก็บ หรือสามารถเก็บได้ละก็ การซื้อประกันสุขภาพให้กับลูกนี่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากจริง ๆ ค่ะ ยกตัวอย่างเช่น คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียเงินให้กับบริษัทประกันเป็นรายปี รายสามเดือน หรือรายเดือน เป็นจำนวนเงินประมาณ 9,000 บาท (ขึ้นอยู่กับอายุของลูกและคุณพ่อคุณแม่และทุนประกันนะคะ) พอลูกเข้าโรงพยาบาลครั้งนึง แน่นอนค่ะว่า เราจะต้องเสียเงินมากกว่านี้แน่นอน จะดีกว่าไหม ถ้าหากเรายอมเสียเงินก้อนนี้มากกว่าเงินค่ารักษาพยาบาลทั้งก้อน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเท่าไร … แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนที่บริษัทหรือที่ทำงานมีสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลบุตรตรงนี้ให้ บอกเลยสั้น ๆ ค่ะว่า “คุณโชคดีมาก!”
3. ซื้อแต่ของที่จำเป็น
ไม่มีเงินเลี้ยงลูก หรือมีเงินน้อย การเลือกซื้อแต่ของที่จำเป็นจริง ๆ นั้น สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากเลยละค่ะ คุณพ่อคุณแม่อาจจะบอกว่า ของสำหรับลูกมันจำเป็นไปหมดทุกอย่างนั่นแหละ ไม่มีอะไรที่ไม่จำเป็นหรอก … อันนี้ก็ไม่เถียงค่ะ แต่ความจำเป็นบางอย่าง อาจจะไม่ได้จำเป็นอะไรเลยสำหรับลูก แต่เป็นการตอบสนองความต้องการของคุณพ่อคุณแม่เองมากกว่า ยกตัวอย่างเช่น เตียงนอนเด็ก ครอบครัวไหนมีเงินซื้อก็ซื้อเถอะค่ะ อันนี้ก็เงินของคุณเอง แต่ถ้าหากไม่มีหรือมีน้อย เราจะซื้อไปทำไมละคะ ในเมื่อ เราก็สามารถให้ลูกน้อยของเรานอนร่วมเตียงเดียวกับเราได้ หากแต่คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องมีความระมัดระวังให้มากขึ้น เป็นต้น
4. ประดิษฐ์ของใช้เอง
ข้อนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งข้อ ที่นอกจากจะใช้เงินน้อย หรือบางอย่างอาจจะไม่ต้องใช้เงินแล้ว ยังเป็นการสร้างความภูมิใจให้กับตัวของคุณพ่อคุณแม่เองอีกด้วยนะคะ ยกตัวอย่างเช่น เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่นึกถึงก็คือ คอกกั้น หลายคนมองหาซื้อคอกกั้นไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งหรือมือสอง … ราคาน่ะเหรอคะ ก็ลดหย่อนกันไปตามสภาพ แต่จะดีกว่าไหมคะ ถ้าหากคุณพ่อจะสร้างคอกกั้นที่ว่านี้ด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนค่ะว่า ใช้งบประมาณนิดเดียว แต่ใช้งานได้เหมือนกัน แถมยังภูมิใจกว่าเป็นไหน ๆ
5. ทำอาหารรับประทานเอง
การทำอาหารรับประทานเอง ถือเป็นการประหยัดเงินที่ดีและปลอดภัยที่สุด เพราะเราสามารถมั่นใจได้ว่า อาหารที่เราทำให้ลูกได้รับประทานนั้น สด ใหม่ ปราศจากผงชูรส หรือสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ แน่นอน และนอกจากจะใช้เงินไม่มากแล้ว ยังถือเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันได้อีกด้วยนะคะ แต่ถ้าหากวันไหนอยากรับประทานของอร่อย ๆ นอกบ้านบ้าง อันนี้ก็ไม่ว่ากันค่ะ ถือเสียว่าเป็นการซื้อความสุข และเปลี่ยนบรรยากาศด้วย … แต่อย่าบ่อยเกินไปนะคะ มิเช่นนั้น เงินอาจจะหมดโดยไม่รู้ตัว แล้วมานั่งเสียดายทีหลังได้
6. หารายได้เสริม
สมัยนี้สบายค่ะ งานพิเศษเยอะแยะ หรือถ้าไม่อยากทำงานพิเศษละก็ หาขายของออนไลน์ หรือช่องทางต่าง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ อีกทั้งยังสร้างเงินให้กับเราได้อย่างมหาศาลอีกด้วย (ถ้าหากเราทำถูกต้องและตรงความต้องการของท้องตลาด) ทีนี้ละจาก ไม่มีเงินเลี้ยงลูก คุณพ่อคุณแม่อาจจะกลายเป็นมีเงินมากพอที่จะส่งเสียลูก หรือมอบสิ่งดี ๆ ให้กับลูกไปเลยก็ได้
7. ให้กินนมแม่
การให้ลูกด้วยนมแม่นั้น นอกจากจะดีต่อสุขภาพลูกแล้ว ยังดีต่อสุขภาพของเงินในกระเป๋าคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย ลองคิดดูสิคะว่า นมสมัยนี้มีแต่ราคาแพง ๆ เด็กคนนึงต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมถึงจะพอเหมาะกับปริมาณที่ร่างกายต้องการ … แล้วเราต้องใช้เงินเท่าไรละ ในการซื้อนมเหล่านั้นมาให้ลูก ดังนั้น หากเลือกได้ การให้นมแม่กับลูกนั้น สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มากในระดับหนึ่งเลยละค่ะ แทนที่จะเอาเงินไปซื้อนมผสม สู้เก็บเงินส่วนนั้นเอาไว้สำหรับนมวัวแท้ ที่ลูกจะต้องรับประทานในอนาคตข้างหน้าจะดีกว่าไหมละคะ
8. สอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของเงิน
เมื่อลูกเริ่มโตและรู้เรื่องมากขึ้น สิ่งหนึ่งเลยที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนควรสอนและปลูกฝังก็คือ “คุณค่าของเงิน” ค่ะ ถึงแม้ว่าเงินนั้นจะมีค่าเพียงแค่ 1 บาท แต่การเก็บเงิน 1 บาทนั้นให้ได้ทุก ๆ วันก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้มากมายมหาศาล สำหรับข้อนี้ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่างด้วยนะคะ ทำให้ลูกเห็นเป็นประจำทุกวัน ครั้นพอถึงเวลาเอาเข้าบัญชีธนาคาร การพาลูกไปฝากด้วย พร้อมกับให้ดูมูลค่าเงินที่ฝากเข้าไป พอไปสมทบกับเงินที่มีอยู่นั้น เชื่อเถอะค่ะว่า ลูกจะรู้สึกภูมิใจ และอยากที่จะเก็บต่อไปเรื่อย ๆ จนไม่อยากถอนเลยก็ว่าได้
9. อย่าตุนผ้าอ้อม
อีกหนึ่งข้อสำคัญก็คือ อย่าซื้อตุนผ้าอ้อมไว้มากจนเกินไปจนทำให้บ้านกลายเป็นศูนย์กับเก็บสินผ้า … พอห้างสรรพสินค้าลดที ก็ซื้อตุนไว้เยอะ ๆ แบบนี้ขอเถอะค่ะ … เพราะลูกโตไวกว่าที่คุณคิดเยอะ บางทีการซื้อมาเก็บตุนเอาไว้มากเกินไป ก็อาจทำให้เราใช้ไม่ทันได้ ดังนั้น ซื้อแต่พอดี ๆ หรือถ้าลูกอยู่บ้าน ไม่ต้องใส่ก็ดีนะคะ แค่ขยันซักผ้าอ้อมบ่อยหน่อย ก็สามารถเก็บเงินในกระเป๋าไปได้เยอะเลยละค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ กับ 9 วิธีแก้ปัญหา ไม่มีเงินเลี้ยงลูก … เชื่อเถอะค่ะว่า แต่ละวิธีที่ทีมงานนำมาฝากในวันนี้ สามารถช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณพ่อคุณแม่ไปได้มาก … แทนที่เราจะเอาเงินของเราที่ได้มาหมดไปกับสิ่งของที่ไม่จำเป็น สู้เราเก็บเงินก้อนนั้นไว้ใช้สำหรับการซื้อความรู้ให้กับลูกไม่ดีกว่าหรือคะ
อ้างอิง: Momjunction
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่