AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เผย! ของใช้ใกล้ตัว 15 ชนิด มีเชื้อโรคสะสมมากที่สุด

คุณพ่อคุณแม่ทราบหรือไม่ ของใช้ใกล้ตัว ที่คุณใช้และสัมผัสอยู่เป็นประจำนั้น! เต็มไปด้วยสิ่งสกปรกมากมาย แล้วจะมี ของใช้ใกล้ตัว อะไรบ้างที่เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเยอะที่สุด ตามมาดูกันเลยค่ะ

ความสกปรกย่อมมากับเชื้อโรคต่าง ๆ ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดความเจ็บป่วย ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่าเชื้อโรคเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆ แล้วเชื้อโรคอันตรายบางชนิดก็อยู่กับ ของใช้ใกล้ตัว โดยที่เราคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

เผย! ของใช้ใกล้ตัว 15 ชนิด ที่พ่อแม่ต้องระวัง
มีเชื้อโรคสะสมมากที่สุด

ทราบหรือไม่? มีสิ่งของบางอย่าง ของใช้ใกล้ตัว หรือ สถานที่บางสถานที่ ที่คุณพ่อคุณแม่ไม่คิดว่าจะเป็นที่อยู่ของเชื้อโรคได้ก็อาจจะเป็นที่ที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคอันตรายก็เป็นได้ ด้วยความปรารถนาดี Amarin Baby & Kids จึงมีได้นำข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับแหล่งที่สกปรกและเป็นแหล่งของเชื้อโรคที่มีอยู่ในของใช้ใกล้ตัว โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ตัวมาบอกค่ะ เพื่อป้องกันให้ตัวคุณเองและลูกน้อยมีสุขอนามัยที่ดี ห่างใกล้จากเชื้อโรค

โดยของใช้ใกล้ตัวต่อไปนี้… เป็นของที่อยู่ใกล้ตัวและคุณพ่อคุณแม่ใช้บ่อยมากที่สุด ซึ่งหากไม่ดูแลให้ดีอาจเป็นที่สะสมเชื้อโรค และเมื่อลูกน้อยไปสัมผัสหรือเข้าใกล้ก็อาจทำให้ป่วยได้ง่าย โดย ของใช้ใกล้ตัว ทั้ง 15 อย่างนี้เป็นข้อมูลจาก Health Media ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังได้แนะนำวิธีใช้ที่ถูกต้อง ไว้ดังนี้…

Must read : หมอชี้ 4 อาการร้าย! ที่บอกว่าลูกคุณเป็น โรคภูมิแพ้
Must read : 9 จุดเสี่ยงภูมิแพ้ในบ้านที่ลูกน้อยควรหลีกเลี่ยง

สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

สำหรับของใช้ใกล้ตัว อย่าง สบู่ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่คุณพ่อคุณแม่ไว้วางใจใช้ล้างมือหรืออาบน้ำถูตัวเพื่อห่าเชื้อโรคนั้น มีข้อมูลจาก เอฟดีเอ ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า สารไตรโคลซาน (Triclosan) ที่เป็นส่วนประกอบในสบู่ชนิดนี้ ไม่ได้มีประสิทธิภาพเพียงฆ่าเชื้อแบคทีเรียเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อระดับฮอร์โมนในสัตว์ทดลอง และส่งผลต่อการดื้อยาของแบคทีเรียด้วย ฉะนั้น ก่อนซื้อควรอ่านฉลากให้มั่นใจก่อนทุกครั้ง

แปรงสีฟัน

แปรงสีฟัน ของใช้ใกล้ตัว ที่แม้ว่าจะเป็นเครื่องมือในการทำความสะอาดเชื้อโรคในช่องปาก แต่ตัวแปรงสีฟันเองก็มีการสะสมเชื้อโรคอันเนื่องมาจากการใช้งาน และการเก็บที่ผิดวิธี สมาคมทันตกรรม ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า ควรเปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ทุกๆ 3 เดือน เพื่อประสิทธิภาพในการทำความสะอาดซอกฟัน และป้องกันการสะสมของเชื้อโรค

ฟองน้ำล้างจาน

จากข้อมูลงานวิจัย พบว่า การใช้ฟองน้ำทำความสะอาดไมโครเวฟ หลังจากการอบเนื้อ หรือไก่ หากซักฟองน้ำไม่สะอาด และผึ่งไว้จนแห้งสนิท อาจเป็นแหล่งเพาะเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียอย่างรุนแรงได้

อ่านต่อ >> “รวมของใช้ใกล้ตัวที่พ่อแม่ต้องระวัง มีเชื้อโรคสะสมมากที่สุด” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

มือถือ / สมาร์ทโฟน

เชื่อหรือไม่ว่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตนี่ล่ะคือแหล่งสะสมเชื้อโรคชั้นดี มีการวิจัยพบว่าบนจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตมีเชื้อโรคสะสมมากกว่าโถส้วมถึง 20 เท่า ! โดยเฉพาะเชื้อโรค E. coli และ Staphyloccocus aureus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังต่าง ๆ โรคปอดอักเสบ และการติดเชื้อในกระแสเลือด เชื้อโรคเหล่านี้ถูกนำมาติดโดยการใช้นิ้วสัมผัสบนจอโทรศัพท์โดยไม่ได้ล้างก่อน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รักษาสุขอนามัยถึงขนาดล้างมือบ่อย ๆ และไม่ยอมทำความสะอาดหน้าจอบ่อย ๆ ทำให้เชื้อโรคสะสมอยู่บนจอโทรศัพท์ ซึ่งกว่าจะรู้ตัวก็สายไปเสียแล้ว

วิธีการแก้ไข เพียงทำความสะอาดหน้าจอโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตด้วยน้ำยาทำความสะอาดจอทัชสกรีนโดยเฉพาะอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และล้างมือทุกครั้งก่อนและหลังใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพราะเป็นการยั้บยั้งเชื้อโรคได้ดีที่สุด นอกจากนี้ไม่ควรใช้โทรศัพท์ร่วมกับใครเพื่อป้องกันเชื้อโรคติดต่ออีกด้วย

อีกทั้งยังมีงานวิจัยรายงานว่า การใช้โทรศัพท์เป็นเวลานานมีความสัมพันธ์กับการเกิดโรคซึมเศร้า และวิตกกังวล ฉะนั้น ในหนึ่งสัปดาห์ควรเก็บสมาร์ทโฟนของคุณไว้ในลิ้นชักห่างตัวสัก 2-3 ครั้ง เพื่อให้สมองได้หยุดพักผ่อน

ลิปกลอส

ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า เครื่องสำอางที่มีการใช้กับปาก จะมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียจำนวนมาก ฉะนั้นหลังการเปิดใช้ 6 เดือน หรือหมดอายุ คุณแม่ควรโละทิ้งดีกว่านะคะเพื่อที่ไม่เป้นอันตรายต่อปากของเรา และต่อลูกน้อยเมื่อเวลาที่คุณแม่ไปกอดหอมลูก

ชุดชั้นใน เสื้อชั้นใน

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเต้านม ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำว่า ไม่ควรเสื้อชั้นในตัวเก่าที่ใช้แล้วจนยางยืด เพราะจะทำให้ปวดหลัง และเต้านมหย่อนยาน ไม่กระชับ นอกจากนี้แม้ว่าบริษัทผู้ผลิตเสื้อชั้นในจะระบุให้ตากในที่ร่ม แต่ต้องให้ลมแดดเข้าถึง มีอากาศถ่ายเท ไม่เช่นนั้น ชุดชั้นในอาจติดเชื้อรา หรือเชื้อโรคจากการอับชื้นได้

กระเป๋าสะพาย เป้ กระเป๋าสตางค์

คุณแม่มักใช้กระเป๋าชนิดต่าง ๆ ในการเก็บข้าวของ แต่หารู้ไม่ว่าภายในกระเป๋าคือแหล่งกักเก็บเชื้อโรคที่คาดไม่ถึงเชียวล่ะ โดยมีการวิจัยพบว่าบริเวณก้นกระเป๋านั้นเต็มไปด้วยเชื้อโรคมากกว่าหมื่นตัว นอกจากนี้กระเป๋าสตางค์ก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่อันตรายไม่แพ้กัน ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้มาจากธนบัตรและเหรียญนั่นเอง เชื้อโรคส่วนใหญ่ที่พบล้วนเป็นอันตราย ได้แก่ Staphylococcus สาเหตุของทำให้เกิดตาแดง นอกจากนี้ยังมีเชื้อ Salmonella และ E.coli ที่ก่อให้เกิดโรคอาหารเป็นพิษ และท้องเสียอีกด้วย

วิธีการรักษาความสะอาดก็ไม่ยาก เพียงนำกระเป๋าไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและหมั่นทำความสะอาดกระเป๋าบ่อย ๆ ด้วยทิชชู่เปียกที่มีสารเชื้อแบคทีเรีย นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการนำกระเป๋าไปวางในที่ที่สกปรกด้วย

เงิน

ไม่ว่าจะเป็นธนบัตรหรือเหรียญต่างก็เต็มไปด้วยเชื้อโรคที่ส่งผ่านกันมามือต่อมือ ซึ่งเป็นแหล่งเชื้อโรคที่ผู้คนละเลยมากที่สุด โดยผลการศึกษาจากคณะนักวิทยาศาสตร์ของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ระบุว่า บนธนบัตร 1 ใบ จะมีเชื้อแบคทีเรียสะสมโดยเฉลี่ย 26,000 ตัว ซึ่งเชื้อโรคเหล่านี้มีผลอันตรายกับผู้ที่มีภูมิต้านทานโรคต่ำ

ทั้งนี้ แม้ว่าคุณแม่จะไม่สามารถทำความสะอาดธนบัตรหรือเหรียญที่รับมาได้ แต่การรักษาความสะอาดที่ดีที่สุดคือการล้างมือทุกครั้งที่จับหรือสัมผัสกับเงิน และคอยระวังป้องกันไม่ให้ลูกน้อยหยิบเงินเข้าปาก เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองจากเชื้อโรคเหล่านั้นค่ะ

น้ำหอมปรับอากาศ

สถาบันวิจัยแห่งชาติ UC Berkeley and Lawrence Berkeley National Laboratory ระบุว่า สารพาททาเลต (Pthalate) ส่วนประกอบในบรรจุภัณฑ์พลาสติกของน้ำหอมปรับอากาศที่ใช้ในบ้าน มีผลรบกวนการทำงานของต่อมไร้ท่อ ระบบสืบพันธุ์ และการเจริญเติบโตของทารก ฉะนั้นการเลือกใช้กลิ่นจากธรรมชาติ และปรับห้องให้อากาศถ่ายเท ก็ไม่ต้องเสี่ยงอันตรายจากสารเคมี

อ่านต่อ >> “รวมของใช้ใกล้ตัวที่พ่อแม่ต้องระวัง มีเชื้อโรคสะสมมากที่สุด” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

สวิตช์ไฟ 

สวิตช์ไฟ ถือเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคที่ใช้อยู่ทุกวันแต่ก็ละเลย จากการศึกษาในประเทศอังกฤษพบว่า บนสวิตช์ไฟมีเชื้อแบคทีเรียถึง 217 ตัวต่อตารางนิ้ว โดยเฉพาะสวิตช์ไฟห้องน้ำนั้นมีเชื้อโรคอาศัยอยู่มากกว่าหลายเท่าตัว ทำให้เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคชั้นดีไปสู่บุคคลอื่น ๆ จากการสัมผัสอีกด้วย

รู้แบบนี้แล้ว อย่าละเลยทำความสะอาดสวิตช์ไฟเด็ดขาด เพียงใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง และควรระวังไม่ให้ลูกน้อยเปิดปิดสวิตช์ไฟ ด้วยตัวเอง หรือเอามือเข้าปากหลังสัมผัสกับสวิตช์ไฟนะตะ ก็จะช่วยทำให้สวิตช์ไฟของเราสะอาดและปราศจากเชื้อโรคค่ะ

เก้าอี้

อาจไม่ใช่ของใช้ใกล้ตัว ที่มีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรกมากมายเท่าไหร่ แต่เก้าอี้ ก็ทำให้เสียสุขภาพได้ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญอาชีวอนามัย มหาวิทยาลัยเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่าการที่คุณพ่อคุณแม่นั่งติดเก้าอี้เป็นเวลานาน ส่งผลให้เป็นโรคเอ็นซีดี (NCDs) มะเร็ง และซึมเศร้า ฉะนั้นควรเปลี่ยนอิริยาบถมาเป็นการยืน หรือเดิน ทุกๆ 1-2 ชั่วโมง

รีโมท

แน่นอนว่าคุณพ่อคุณแม่หยิบจับรีโมทกันอยู่บ่อย ๆ แต่หารู้ไม่ว่ามันคือแหล่งสะสมเชื้อโรคเช่นกัน เพราะน้อยคนจะนึกถึงว่ารีโมทเป็นสิ่งที่ควรทำความสะอาดด้วยเช่นกัน ทำให้บรรดาเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มาจากสัมผัสโดยตรงกับมือของเราซึ่งยังไม่ผ่านการล้างทำความสะอาดตามสุขอนามัยที่ถูกต้อง สะสมอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของรีโมท

วิธีการทำความสะอาดก็ไม่ยาก เพียงแค่ใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคเช็ดทำความสะอาดบ่อย ๆ และควรจะล้างมือก่อนและหลังจับรีโมทเพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย ที่สำคัญต้องคอยระวังไม่ให้ลูกน้อยนำรีโมทเข้าปากด้วยนะคะ เพราะรีโมทถือเป็นของใช้ใกล้ตัว ไอเทมสุดฮิตที่ลูกชอบเล่นและนำเข้าปาก ซึ่งนั้นอาจทำให้เชื้อโรคมากมายหยุดเข้าไปในร่างกายของลูกน้อยได้

มือจับประตู ลูกบิด

คือ จุดอันตรายจากเชื้อโรคอีกจุดหนึ่งที่ถูกมองข้าม  ร้อยทั้งร้อยเชื่อว่ามากกว่า 90% ของเชื้อโรคอาศัยอยู่ โดยเฉพาะมือจับประตูและลูกบิดประตูบ้าน แต่การหมั่นล้างมือและเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคบ่อย ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 -3 ครั้ง เป็นการช่วยทำให้มือจับประตูและลูกบิดปราศจากเชื้อโรคได้

ผ้าเช็ดตัว

เป็นสิ่งที่พ่อแม่ลูกไม่ควรใช้ร่วมกัน เพราะในผ้าเช็ดตัวนั้นมีเชื้อโรค Staphylococus ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคผิวหนังซุกซ่อนอยู่ นอกจากนี้ หากปล่อยให้ผ้าเช็ดตัวชื้นเป็นเวลานานก็จะทำให้เกิดเชื้อราอีกด้วย คุณพ่อคุณแม่ควรเปลี่ยนผ้าเช็ดตัวของตัวเองและลูก อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อสุขอนามัยที่ดี และควรนำผ้าเช็ดตัวไปตากในที่แห้งทุกครั้งหลังจากเชื้อ เพื่อให้ไม่เกิดเชื้อรา

หมอนและเตียงนอน

เครื่องนอนที่คุณพ่อคุณแม่และลูกน้อยใช้เพื่อพักผ่อนในทุก ๆ คืนนั้นก็ใช่ว่าจะไม่มีเชื้อโรคหรือสิ่งสกปรก เพราะในทุกคืนที่นอนหลับผิวของเราก็จะผลัดเซลล์ที่ตายออก ซึ่งตกอยู่บนเตียงนอนและหมอน นอกจากนี้ยังมีบรรดาเศษสิ่งสกปรกและเชื้อโรคต่าง ๆ ที่มาจากกิจกรรมที่เราทำบนเตียงนอน ไม่ว่าจะเป็นการนอนโดยไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า การนำของมาวางไว้ หรือแม้แต่การนำอาหารขึ้นมากินบนเตียงนอน และเมื่อนอนในเวลากลางคืนก็ไม่ใช่เรื่องยากที่เชื้อโรคเหล่านั้นจะเข้าสู่ร่างกายของเรา

อย่างไรก็ตาม แสงแดดและน้ำร้อนสามารถทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคที่อยู่บนหมอนและเตียงนอนได้ เพียงนำปลอกหมอนและผ้าปูที่นอนมาซักด้วยน้ำร้อนสัปดาห์ละครั้ง และหมั่นนำเอาหมอนและเตียงนอนมาตากแดดบ่อย ๆ เท่านี้ก็เป็นการกำจัดเชื้อโรคและเศษสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ค่ะ

เมื่อรู้แล้วว่า ของใช้ใกล้ตัว ล้วนเต็มไปด้วยแหล่งสะสมเชื้อโรคมากมาย คุณพ่อคุณแม่ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้งานกับ ของใช้ใกล้ตัว อย่างนี้ให้ถูกต้องตามหลักอนามัย เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และสุขภาพดี …ทั้งนี้สิ่งที่ป้องกันเชื้อโรคต่าง ๆ รอบตัวได้นั่นก็คือการรักษาความสะอาดและสุขอนามัยของตนเองรวมทั้งสิ่งของ สถานที่ต่าง ๆ ใกล้ตัวอยู่เสมอ ไม่ใช่เรื่องยากที่พ่อแม่และลูกน้อยจะหลีกไกลจากการเจ็บป่วย เริ่มต้นง่าย ๆ เพียงแค่ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งหลังสัมผัสกับสิ่งสกปรก เพียงแค่นั้นเราก็จะมีสุขภาพที่ดีได้ค่ะ

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก : www.sanook.com , health.kapook.com