AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

ไหว้เจ้าที่ เพื่อเป็นสิริมงคลภายในบ้าน

ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ … อยากมีชีวิตที่ดี ทำมาค้าขึ้น อย่าลืม! สักการะบูชา ไหว้เจ้าที่ ที่บ้านด้วย!

 

 

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะรู้จักกันแล้วว่า “พระภูมิ เจ้าที่” นั้นคือใคร ส่งผลอย่างไรกับชีวิต ความเป็นอยู่ การทำมาค้าขายของเรา … แน่นอนว่า เท่าที่ทราบ หากเราสักการะดูแลท่านดี ท่านก็จะคอยช่วยปกป้องสมาชิกทุกคนที่อยู่ในบ้าน ให้แคล้วคลาดปลอดภัย มีแต่ความสุขความเจริญ

พระภูมิ เจ้าที่ คือใคร?

คนไทยมีความเชื่อว่า “พระภูมิ” หรือ “ภูมิเทวดา” มี หน้าที่รักษาอาณาเขตที่ดิน ที่เจ้าของได้อัญเชิญมาสิงสถิตบนศาลพระภูมิ เพื่อปกป้องคุ้มครองเจ้าของบ้านและบริวาร ให้อยู่เย็นเป็นสุขมีความเจริญ รุ่งเรือง ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนถึงยุคปัจจุบัน จากรุ่นไปสู่รุ่นเลยก็ว่าได้

อ่านต่อพระภูมิ เจ้าที่ และผีบ้านผีเรือน ต่างกันอย่างไร >>

 

 

หลาย ๆ ท่านอาจจะกำลังสงสัยอยู่ว่า แล้วพระภูมิ เจ้าที่ และผีบ้านผีเรือนนั้น ไม่เหมือนกันหรือ? คำตอบก็คือ ไม่เหมือนกันค่ะ รายละเอียดนั้นทีมงาน Amarin Baby and Kids ก็จะขอนำสรุปดังนี้

พระภูมิ  คือเทพเทวดาที่ถูกเชิญมาเพื่อให้คุ้มครองมนุษย์และสิ่งปลูกสร้าง บ้านส่วนมากนิยมอัญเชิญพระชัยมงคล (เป็นบุตรพระองค์หนึ่งของพระเจ้าพาลี ทำหน้าที่ดูแลรักษาเคหะสถาน บ้านเรือน) เช่นนี้ การจะอัญเชิญเทพเทวดาองค์ใดทั้งหมดขึ้นอยู่กับความเชื่อและศรัทธาในเทพเทวดาองค์นั้น

เจ้าที่ คือเป็นอีกภพภูมิซึ่งสถิตอยู่ในพื้นที่ของบ้าน แต่จะไม่เข้าตัวเรือนบ้าน เจ้าที่โดยมากจะอาศัยอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้นมานานแล้ว อาจจะก่อนสิ่งปลูกสร้างบ้านเรือนด้วยซ้ำ ลักษณะของศาลเจ้าที่มักจะเป็นเรือนที่มีฐานใหญ่กว่าศาลพระภูมิ อยู่ในระดับความสูงเพียงครึ่งหนึ่งของศาลพระภูมิ ภายในจะมีรูปปั้นตา-ยาย หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า ศาลตา-ยาย นั่นเอง
– เจ้าที่แท้ : เจ้าของที่เดิมที่ไม่ยอมไปเกิดใหม่ ซึ่งจะคอยปกปักรักษาที่ของตนเองอยู่อย่างนั้น
– เจ้าที่จร : คือวิญญาณเร่ร่อนที่อยู่โดยรอบบริเวณพื้นที่นั้น ๆ ดังนั้นก่อนการตั้งศาลเจ้าที่จึงจำเป็นต้องมีอาจารย์ตั้งศาลมาตรวจดูว่า มีวิญญาณเจ้าที่อยู่ในบริเวณนั้นหรือไม่ มิเช่นนั้นศาลเจ้าที่ตั้งไว้จะกลายเป็นศาลว่างเปล่า ไม่มีวิญญาณคอยดูแล

ผีบ้านผีเรือน คือเป็นภพภูมิที่ใกล้เคียงกับมนุษย์มาก มักถูกเรียกว่าภูมิเทวดา เทวดาภาคมนุษย์ ซึ่งอาศัยอยู่ในที่พักอาศัย หรือติดตัวเรามาตั้งแต่เริ่มแรก อาจจะเป็นบรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วที่คอยตามรักษารักษาเรา ส่วนมากจะอยู่ในอาคารบ้านเรือน  จึงถูกเรียกว่าผีบ้านผีเรือน นั่นเอง

นอกจากนี้ กับความเชื่อของคนไทยเรา ที่หากต้องการให้ลูกหลานมีความสุข สุขภาพแข็งแรงนั้น ว่ากันว่า ในช่วงเทศกาล หรืออาจจะเป็นพระใหญ่ เราควรที่จะสักการะบูชาท่านให้ดี เพื่อที่ท่านจะได้ช่วยปกป้องคุ้มครอง ซึ่งทีมงาน ก็ได้นำวิธีการไหว้ที่ถูกวิธีมาฝากกันค่ะ

วิธีการไหว้ที่ถูกต้อง >>

 

ทำไมเราถึงต้อง ไหว้เจ้าที่ กันด้วย?

ทำไมต้องไหว้เจ้าที่กลางบ้าน เจ้าที่ที่อยู่ในตัวบ้านคือเจ้าที่เจ้าทางเจ้าของบ้านของเรือน ซึ่งต่างกับศาลพระภูมิ ที่เป็นเจ้าที่ที่เราเชิญท่านลงมาเพื่อปกปักรักษา การไหว้ดังกล่าวจึงเป็นการไหว้เจ้าที่ที่มีอยู่แล้วในตัวบ้าน ดังนั้น เราจึงควรไหว้ทุก 3-6 เดือนต่อครั้ง (เป็นอย่างน้อย) เพื่อเป็นการขอขมาในบางครั้งที่ทำอะไรล่วงเกินไป โดยสามารถไหว้ได้เองทุกเวลาเที่ยงของวันอังคารและวันเสาร์ เพราะถือเป็นวันรับ โดยให้จัดเตรียมอุปกรณ์การไหว้ดังนี้

  1. ผลไม้ 9 อย่าง เพื่อความเป็นศิริมงคล ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดก็มีความหมายแตกต่างกันเช่น องุ่น เพื่อช่วยในเรื่องการเงิน หรือทรัพย์สมบัติที่เพิ่มพูนขึ้น กล้วย จะช่วยให้สิ่งต่าง ๆ ที่ทำง่ายขึ้น แก้วมังกร เพื่อช่วยในเรื่องการปกครองลูกน้องบริวารสำหรับเจ้าของกิจการ หรือสับปะรด เพื่อจะได้มีหูตากว้างไกล
  2. หมากพลู 9 คำ
  3. น้ำ 5 แก้ว
  4. ดาวเรือง 9 ดอก
  5. เทียน 1 คู่ ธูป 5 ดอก

จัดของแบบไหน?

ให้ใช้ผ้าขาวปูกลางบ้าน โดยหันหลังให้กับประตูหน้า แล้วเอาของทุกอย่างวางบนผ้าขาว จากนั้นให้จุดธูปเทียนแล้วกล่าวขอขมาว่า “ข้าแต่เจ้าที่เจ้าทาง เจ้าของที่เจ้าของทาง เจ้าของบ้านเจ้าของเรือนบ้านเลขที่…………. บ้านหลังนี้ วันนี้เป็นวันดี ข้าพเจ้า…..(ชื่อ-นามสกุล)….. นำเครื่องสักการะบูชามาตั้งถวาย เพื่อขอขมากรรม หากมีสิ่งใดก็ตามที่ข้าพเจ้าไได้ทำผิดไปทั้งตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งรู้ก็ดีไม่รู้ก็ดี ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมท่าน ขอท่านจงโปรดงดโทษ เว้นโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ และโปรดช่วย…. (อธิฐานขอตามปรารถนา)”

จากนั้นให้รอจนธูปหมด (ภายในบ้าน) แล้วค่อยดับเทียน และลาผลไม้ โดยวิธีการก็คือให้จับที่ตัวพานหรือถาดผลไม้แล้วพูดว่า “ขอแดนขอชานให้ลูกให้หลานกิน เพื่อความเป็นศิริมงคล” จากนั้นก็นำไปทานได้เลย

สำหรับครอบครัวไหนที่ทำกันเป็นประจำอยู่แล้วถือว่าเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่ถ้าหากบ้านไหน ครอบครัวไหน ยังไม่ได้เริ่มละก็ ลองทำกันดูนะคะ เพราะของแบบนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่จริง ๆ แต่เราก็จะมาหวังพึ่งพวกท่านอย่างเดียวไม่ได้ เราจะต้องทำตัวของเราเองให้ดีด้วยเช่นกัน

เครดิต: Sanook

อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids