กลั้นตด แล้วสุขภาพเสีย จะตดเลยก็เกรงใจคนรอบข้าง แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรกันดีละเนี่ย?!?
ก็คนมันจะตด ใครเล่าจะไปห้ามได้ … แต่จะตดเลยก็เกรงใจชาวบ้านชาวช่อง
จะกลั้นเอาไว้ก่อน ก็กลัวสุขภาพจะเสีย! แล้วแบบนี้จะทำอย่างไรกันดีละเนี่ย !?
ขอเสียงคุณพ่อคุณแม่ที่ชอบประสบกับปัญหานี้หน่อยค่ะ รับรองว่าเยอะแน่ ๆ ก็คนมันจะตดนี่นา จะไปทำอย่างไรได้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะวันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะมานำเสนอเทคนิกการตดแบบเนียน ๆ ชนิดที่เรียกได้ว่าไม่มีใครสามารถจับเราได้แน่นอนมาฝากกันค่ะ ซึ่งรับรองเลยว่า คลิปที่นำมาฝากในวันนี้ ฮา … น้ำหมาก (อุ้ย! ไม่ใช่ค่ะ) ฮา … กระจายแน่นอน!
แต่ก่อนจะไปดูคลิปที่ว่านั้น เราควรมาดูโทษของการกลั้นตด!! กันก่อนค่ะ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะกำลังสงสัยว่า กลั้นแล้วส่งผลเสียอย่างไรกับสุขภาพเรา อยากรู้ไปหาคำตอบนี้กันค่ะ
อ่านต่อ >> ข้อเสียของการ กลั้นตด!
กลั้นตด ส่งผลเสียอย่างไรกับสุขภาพ?
คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่า การกลั้นนั้น ส่งผลเสียมากมายกับร่างกายของเราเลยละค่ะ ยกตัวอย่างเช่น
- โรคลำไส้แปรปรวน
- ระบบดูดซึมอาหารทำงานผิดปกติ
- การแพ้อาหารที่มีส่วนประกอบของแลคโตส (lactose) เช่น นมวัวและโยเกิร์ต
- ภาวะที่เกี่ยวของกับกระเพาอาหาร เช่น การที่อาหารเป็นพิษ เป็นต้น
เพราะอะไรเราถึงไม่ควรกลั้นไว้?
- การตดนั้นช่วยลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่อาการดังกล่าวก็ส่งผลทำให้เรารู้สึกอึดอัดไม่สบายตัวได้ ดังนั้น ปลดปล่อยมันออกมาเถอะค่ะ
- ส่งผลเสียกับลำไส้ “ตด” ถือเป็นกลไกลตามธรรมชาติของมนุษย์ที่มีไว้เพื่อเป็นการกำจัดแก๊สของเสียออกจากร่างกาย หากเราทำการกลั้นเอาไว้มาก ๆ ก็อาจจะส่งผลให้ร่างกายของตัวเรานั้นทำงานผิดปกติ ทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพเราในระยะยาวได้
- ดมตดแล้วสุขภาพดี มีงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Exeter จากประเทศอังกฤษได้ค้นพบว่า ตดของคนเรานั้นมีแก๊สไฮโดรเจนซัลไฟด์อยู่ ซึ่งเจ้าแก๊สที่ว่านี้ สามารถช่วยให้ไมโทคอนเดรียไม่ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงต่อเซลล์ในร่างกาย
อ่านต่อ >> จริงหรือ?! กลิ่นตด สามีและลูกช่วยลดความเสี่ยงต่อการติดโรค
นอกจากนี้ ตด ยังสามารถบอกสุขภาพของเราได้อีกด้วยนะคะ ดังนั้น อย่าไปอั้นมันเลยค่ะ ปลดปล่อยมันออกมา แต่จะปล่อยระเบิดทั้งที มันต้องมีศิลปะกันหน่อย!!
ชมคลิปสุดฮา! ตดอย่างไรไม่ให้มีใครจับได้!
ชมคลิป! เทคนิกการตดอย่างมีศิลปะ
6 เทคนิกป้องกันการตด
1. ไม่กินอาหาร หรือ ดื่มน้ำเร็วเกินไป เพราะระหว่างการกินเราจะกลืนอากาศเข้าไปด้วย และยิ่งกินอาหารเร็วเท่าไหร่ก็จะกลืนลมมากตามไปด้วย
2. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีแก๊ส จำพวก เบียร์ โซดา และน้ำอัดลม เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มปรุงสำเร็จ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของน้ำเชื่อมฟรัคโทสอเช่น เครื่องดื่มกระป๋อง น้ำผลไม้กระป๋อง เพราะบางคนอาจดูดซึมน้ำตาลชนิดนี้ได้น้อย จึงอาจทำให้ท้องอืดหรือผายลมได้มากขึ้น
4. หยุดสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่คือการดูดอากาศเข้าไปนั่นเอง
5. ลดอาหารที่มีกำมะถัน ได้แก่ อาหารที่มีส่วนประกอบจำพวก เนื้อสัตว์ ไข่ กระหล่ำปลี ซึ่งจะทำให้เกิดแก๊สที่มีกลิ่นเหม็นนั่นเองค่ะ
6. ลดการรับประทานถั่วสดและผักสด เพราะในอาหารจำพวกนี้อาจมีน้ำตาลที่ร่างกายไม่สามารถย่อยได้ แบคทีเรียในลำไส้จึงทำหน้าที่ย่อยน้ำตาลพวกนี้แทน และทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ ฉะนั้นจึงควรกินถั่วและผักที่ปรุงสุก
เพราะการตด และเรอ เป็นเรื่องธรรมชาติของร่างกาย ที่เป็นกระบวนการ การขับแก๊สส่วนเกินออกมา ดังนั้น ก็คงห้ามไม่ได้เพียงแต่ได้แต่หลีกเลี่ยงทำได้อย่างสุภาพ ไม่ให้เป็นที่น่ารังเกียจจนเกินไปนั่นเอง คราวนี้ละค่ะ ต่อให้เราจะตดอย่างไร คนอื่นก็ไม่มีทางจับได้ แถมสุขภาพร่างกายดีเป็นเลิศอีกด้วย
เครดิต: Rabbit
อ่านต่อเรื่องอื่นที่น่าสนใจ:
- สีของฉี่ บ่งบอกสุขภาพ พร้อม 10 ประโยชน์ที่รู้แล้วต้องอึ้ง!
- ห่วงลูกต้องอ่าน! นี่คือ “วิธีอ่านฉลากโภชนาการ” เพื่อสุขภาพที่ดีของลูก!
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่