AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

13 คาถาการเลี้ยงลูกที่ดี ที่พ่อแม่ควรรู้!

13 คาถาการเลี้ยงลูกที่ดี

คาถาการเลี้ยงลูกที่ดี …เพราะ “ลูก” เป็นรางวัลชีวิตที่มีค่าสำหรับพ่อแม่ แต่การเป็นพ่อแม่ไม่ใช่เรื่องง่าย พ่อแม่หลายคนรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าจากความกดดันที่เกิดขึ้นจากการดูแลลูก

พ่อแม่ส่วนมากไม่ได้เตรียมตัวต่อสิ่งเหล่านี้มาก่อน ในขณะที่พ่อแม่ปรารถนาที่จะเลี้ยงดูลูกให้มีความสุข เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความสามารถในการดำเนินชีวิต ทำให้บ่อยครั้งพ่อแม่รู้สึกว่าตนเองหมดหนทางในการดูแลลูกและเกิดความกดดัน จนต้องใช้วิธีที่รุนแรงในการจัดการลูก

การเลี้ยงลูกที่ดี

เด็ก ๆ ทุกคนที่เกิดมา ต่างก็มีนิสัยที่ติดตัวมาแต่กำเนิดต่าง ๆ กัน มีพื้นฐานทางจิตใจและอารมณ์แตกต่างกัน มีความถนัด ความชอบ มีพรสวรรค์ต่างกัน มีระดับสติปัญญาแตกต่างกัน มีความสามารถทางกายภาพ มีศักยภาพแตกต่างกัน และ  มีบุญกรรมโชควาสนาที่แตกต่างกันด้วย ฉะนั้นพ่อแม่ไม่ควรคาดหวังให้ลูกของตนเป็นได้อย่างลูกของคนอื่น และที่สำคัญไม่ควรเอาลูกของตนไปเปรียบเทียบกับลูกของคนอื่น

Must readมองคนจากภายนอก เมื่อการปฏิบัติต่อเด็ก “รวย” “จน” แตกต่างกัน

ในกระบวนการเรียนรู้เพื่อที่จะทำหน้าที่พ่อแม่ พ่อแม่ต้องการการสนับสนุนข้อมูล การฝึกฝนตนเอง และกำลังใจจากคนรอบข้างในครอบครัว ชุมชนและสังคม พ่อแม่ต้องการวิธีการและทักษะการเลี้ยงดูลูกที่เหมาะสม ซึ่งก็เป็นไปได้ไม่ยากเกินไปสำหรับพ่อแม่ที่จะพัฒนาทักษะให้กับลูก กระตุ้นพฤติกรรมที่เหมาะสมให้เกิดขึ้น และมีทักษะในการจัดการพฤติกรรมที่เป็นปัญหา รวมทั้งช่วยให้พ่อแม่รู้สึกสนุกในการเลี้ยงดูลูก และยังช่วยให้พ่อแม่ลดการดูแลลูกด้วยวิธีการที่ไม่เหมาะสมลง สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ต้องตระหนัก 5 ประการ ดังนี้

1. จัดสิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยและน่าสนใจ

สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัย มีลักษณะของความปลอดภัยทางกายภาพและความรู้สึกปลอดภัยด้านจิตใจ บรรยากาศในครอบครัวที่เต็มไปด้วยความรักความเอาใจใส่ การดูแลตอบสนองความต้องการของลูกอย่างเหมาะสมตามวัย สิ่งแวดล้อมที่ปลอดภัยช่วยให้เด็กมีความมั่นคง อบอุ่นใจ กระตือรือร้นที่จะค้นหาเรียนรู้ สิ่งแวดล้อมต้องมีความน่าสนใจด้วย จะช่วยสนับสนุนให้การเรียนรู้ของเด็กเกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวาง ความน่าสนใจของสิ่งแวดล้อมเกิดจากความหลากหลายของกิจกรรมที่พ่อแม่ทำร่วมกับลูก

2. กระตุ้นการเรียนรู้ที่เหมาะสม

ด้วยการใส่ใจในการเรียนรู้ของลูก ทั้งด้านสติปัญญา อารมณ์ และสังคม พ่อแม่ควรช่วยให้ลูกเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นเหล่านี้ โดยการสังเกตลูก ส่งเสริมให้ลูกประสบความสำเร็จในการเรียนรู้

3. ฝึกวินัยด้วยความรัก

ในการฝึกวินัย พ่อแม่ต้องมีความสม่ำเสมอในการฝึก สนใจพฤติกรรมที่แสดงปัญหาและรีบแก้ไขตั้งแต่ต้น มีวิธีการสอนการปฏิบัติตนที่เหมาะสม การใช้วิธีฝึกที่จริงจังแต่นุ่มนวลทำให้เด็กเรียนรู้ที่จะมีความรับผิดชอบต่อพฤติกรรมตนเอง และสามารถควบคุมดูแลตนเองได้

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

4. ตั้งความหวัง

พ่อแม่มักมีความคาดหวังต่อตัวลูก ซึ่งพ่อแม่ที่เข้าใจจะสามารถยอมรับลูกตามพัฒนาการตามวัย นอกจากอายุและพัฒนาการตามวัย เด็กอาจมีลักษณะที่แตกต่างกันระหว่างบุคคล การยอมรับและเข้าใจ ช่วยให้พ่อแม่ฝึกลูกเรียนรู้ทักษะต่างๆ เช่น การขับถ่าย การรับประทานอาหาร การแต่งตัว แต่ถ้าความคาดหวังของพ่อแม่ที่มีต่อลูกเป็นความคาดหวังที่มากเกินไป เช่น ความคาดหวังว่าลูกจะเรียบร้อย เชื่อฟังตลอดเวลา เมื่อลูกไม่เป็นไปตามที่หวัง ทำให้พ่อแม่ผิดหวังและเกิดความขัดแย้งในการดูแลลูก และใช้อารมณ์ในการเลี้ยงดูลูก

5. ดูแลตนเองของพ่อแม่

การเป็นพ่อแม่เป็นเรื่องยาก หากพ่อแม่อยู่ภายใต้อารมณ์ที่เครียดและกังวลใจ แต่พ่อแม่จะพบว่าการดูแลลูกง่ายขึ้น สนุกขึ้น เมื่อพ่อแม่ดูแลตนเองด้วย โดย

5.1 การทำงานเป็นทีม การเป็นพ่อแม่จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น ถ้าพ่อแม่เห็นพ้องต้องกันในการฝึกวินัยลูก และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน พ่อแม่ควรได้พูดคุยปรึกษาหารือเรื่องการเลี้ยงดู

5.2 หลีกเลี่ยงการทะเลาะกันต่อหน้าลูก เด็กจะอ่อนไหวต่อความขัดแย้งของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะการทะเลาะกันบ่อยๆ ที่ไม่มีข้อยุติ หากมีปัญหาพ่อแม่ควรมีเวลาปรึกษาหารือกันตามลำพัง

Must readเตือน!! พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก กระทบพัฒนาการสมองของลูกน้อย

5.3 หากำลังใจ พ่อแม่ทุกคนต้องการกำลังใจจากคู่สมรส ครอบครัว เพื่อน หรือแม้แต่เพื่อนบ้าน การพูดคุยแลกเปลี่ยนความรู้สึกจะช่วยได้มาก

5.4 หาเวลาพัก การหาเวลาส่วนตัวเพื่อพักผ่อนเป็นเรื่องที่ทำได้ ควรหาคนดูแลลูกที่ไว้ใจได้ และใช้เวลาพักร่วมกันระหว่างพ่อแม่

ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการเลี้ยงลูกที่ดี ให้ถูกทาง เป็นคติสอนใจให้พ่อแม่ พิจารณาด้วยเหตุผล ยอมลำบากก่อน ค่อยสบายทีหลัง ย่อมดีกว่า สบายก่อนแล้วลำบากทีหลังนั้นเอง Amarin Baby & Kids จึงมีคาถาในการเลี้ยงลูก” 13 ประการ เพื่อช่วยเป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกที่ดีได้ ดังนี้…

อ่านต่อ >> “13 คาถา แนวทางในการเลี้ยงลูกที่ดี” คลิกหน้า 2

 13 คาถาการเลี้ยงลูกที่ดี

หลักการเลี้ยงลูกที่ดีนั้น พ่อแม่ควรเลี้ยงลูกให้มีความสุข  ให้ลูกช่วยเหลือตนเองได้ เป็นตัวของตัวเอง รู้จักผิดชอบชั่วดี รู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบของตนเอง เราจึงมี “คาถาในการเลี้ยงลูก” 13 ประการ เพื่อช่วยเป็นแนวทางในการเลี้ยงลูกที่ดีได้ ดังนี้คือ

เลี้ยงลูกด้วย “อารมณ์”……..ลูกจะถูกบ่มนิสัยพาลเกเร
เลี้ยงลูกด้วย “หย่อนยาน”……..ลูกจะรานหย่อนวินัย
เลี้ยงลูกด้วย “ตึงเกิน”……..ลูกจะเมินข้องคับใจ
เลี้ยงลูกด้วย “กลางไว้”……..ลูกจะได้แนวทางเดิน
เลี้ยงลูกด้วย “อบรม”……..ลูกจะสมสุขเจริญ
เลี้ยงลูกด้วย “ส่วนเกิน”……..ลูกจะเดินออกจากใจ
เลี้ยงลูกด้วย “ธรรมะ”……..ลูกจะละบาปทั้งหลาย
เลี้ยงลูกด้วย “อภัย”……..ลูกจะใจนักกีฬา
เลี้ยงลูกด้วย “ลำเอียง”……..ลูกจะเลี่ยงกติกา
เลี้ยงลูกด้วย “เงินตรา”……..ลูกจะพานอกลู่นอกทาง
เลี้ยงลูกด้วย “เหตุผล”……..ลูกจะคนจิตใจกว้าง
เลี้ยงลูก “ให้ถูกทาง”……..ลูกจะสร้างสิ่งดีงาม
เลี้ยงลูกด้วย “ตามใจ”……..ลูกจะไม่ปฏิบัติตาม

 

จาก 13 คาถาข้างต้นนั้นอยากแนะนำว่า พ่อแม่ต้องพัฒนาให้ลูกได้รับความสุข เพื่อให้ธรรมชาติในใจของมนุษย์ซึ่งก็คือ “ความอ่อนโยน” เกิดมากขึ้นในใจของลูก พ่อแม่ต้องรู้จักวิธีให้ความรักแก่ลูก ชมเชยให้กำลังใจ สบตาสร้างความเชื่อมั่น และโอบกอดหรือสัมผัสเพื่อถ่ายทอดความรักแก่กัน ซึ่งพ่อแม่บางคนขาดสิ่งเหล่านี้มาก เพราะมัวเน้นไปพัฒนาเรื่องความ “เก่ง” จึงมักพเด็กเก่ง ๆ มักขาดรัก ขาดความสุข และเห็นแก่ตัวมากขึ้น ดังนั้นแล้วข้อสำคัญที่พ่อแม่ต้องใช้ในการเลี้ยงลูก ควรมีลักษณะดังนี้ โดยเรียงความสำคัญอันดับ 1 – 4 คือ

1. มีความสุข เมื่อมีความสุขแล้วจะสอนง่าย ความฉลาดจะเพิ่มขึ้นเอง

2. เป็นคนดี มีคุณธรรม เหมือนมีกรอบให้กับตัวเองในการประพฤติตัวต่อไป ให้เป็นคนมีวินัย

3. นิสัยดี เข้ากับใคร ๆ ได้ง่าย เป็นที่รักของคนอื่น

4. เป็นคนเก่ง ตาม IQ ของเขาที่พึงจะมีได้ ส่วนใหญ่ได้จากกรรมพันธุ์จากพ่อแม่ พัฒนาได้ไม่มากนัก

Must read10 เคส เลี้ยงลูกดี แต่กลับทำให้เป็นเด็กมีปัญหา
Must read10 เคส เลี้ยงลูกดี แต่กลับทำให้เป็นเด็กมีปัญหา (ภาคสอง)

ซึ่งพ่อแม่ควรตระหนักถึงเรื่องเรื่องหนึ่งเอาไว้เสมอ เมื่อมีลูก เพื่อช่วยลดความคาดหวังและว้าวุ่นใจในการเลี้ยงลูกของพ่อแม่เอาไว้ว่า นั้นคือ

“ลูกมาจากเรา แต่ลูกไม่ได้เป็นของเรานะ”

แม้ว่าลูกจะมาจากพ่อแม่ แม่คลอดเขาออกมา แต่ชีวิตก็เป็นของเขาเอง พ่อแม่จะไปเป็นเจ้าของชีวิตของเขาไม่ได้ ลูกมีที่มาที่ไป เขามาจากกรรมของเขาเอง มีจิตวิญญาณของเขาเองทับซ้อนมาในอดีตชาติ พ่อแม่ได้แต่พยายามอบรม สั่งสอน และเลี้ยงดูให้เขาเติบโตเอาตัวรอดให้ได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่จะไปคาดหวังให้เขาเป็นอย่างที่พ่อแม่ต้องการไม่ได้หรอก เพราะเขามีที่มาที่ไปของเขาเองอยู่แล้ว และเขาก็ไม่ได้เป็นของพ่อแม่ด้วย พ่อแม่จะได้ลดความคาดหวังในตัวลูก และไม่โทษตัวเองเวลาเลี้ยงลูกไม่ได้ดังใจหรือไม่ดีดังใจนึก

และอีกประโยคหนึ่งคือ

“ให้พ่อแม่ทำหน้าที่เลี้ยงดู อบรม สั่งสอน ลูกให้ดีที่สุด ผลออกมาเป็นอย่างไรก็ไม่เป็นไร ถือว่าได้ทำหน้าที่ เก่งมาก และดีมากแล้ว”

เพื่อให้ยอมรับความจริงและไม่โทษตัวเอง ไม่โทษลูกหรือสิ่งแวดล้อมเมื่อเลี้ยงดูลูกไม่ได้ผลดังใจนึก เพราะมนุษย์แต่ละคนมีขีดจำกัดของความสามารถไม่เท่ากัน ทุกคนมีความไม่รู้ (อวิชชา) แตกต่างกัน และมีกรรมติดตัวมาแตกต่างกัน ผลของการทำหน้าที่ของพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกแต่ละคน…จึงไม่เท่ากัน แม้ในการเลี้ยงลูกฝาแฝดของพ่อแม่บ้านเดียวกัน ลูกแต่ละคนก็เติบโตมีคุณลักษณะไม่เท่ากัน

จาก 2 ข้อที่กล่าวมานี้ ก็จะช่วยให้พ่อแม่จะได้คลายกังวล ลดความเครียด รู้จักสร้างความสัมพันธ์กับลูกอย่างเหมาะสม ผลของการเลี้ยงดูออกมาเป็นอย่างไร ถูกใจหรือไม่ถูกใจ ก็ให้ถือว่าทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น เก่งมากและดีมากแล้ว ทั้งพ่อ แม่ และลูกด้วย อีกทั้วความสัมพันธ์และความสุขในครอบครัวพ่อ แม่ ลูก ก็จะดีขึ้นด้วย ไม่ว่าเลี้ยงลูกจะได้ผลออกมาอย่างไร สมใจหรือไม่สมใจพ่อแม่ก็ตาม

อย่างไรก็แล้วแต่ คาถาการเลี้ยงลูกที่ดี นี้เป็นเพียงแนวทางคำชี้แนะเพื่อให่พ่อแม่มีสติในการเลี้ยงลูก ทั้งนี้ทุกการเลี้ยงดูลูก ควรให้ความสำคัญให้ทั้งความรักและความเอาใจใส่ทุกครั้ง เพื่อให้ลูกตระหนักรู้ว่า ยังมีพ่อแม่ที่รักลูกแบบไม่มีเงื่อนไขเสมอมาและตลอดไป

อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก (อนุโมทนาธรรมจากหนังสือ ประสบการณ์ นวกะ3 – พ.กตปุญโญ ภิกขุ) และ www.thaihealth.or.th