ในยุคสมัยนี้ จะเห็นว่าเด็กๆมีความสามารถที่หลากหลายมากขึ้น บางคนมีความสามารถพิเศษในหลายด้านพร้อมกัน เด็กยุคนี้จึงถูกเร่งให้เรียนทั้งวิชาการ และกิจกรรมนอกหลักสูตรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ร้อง เล่น เต้น กีฬา งานศิลปะ และกิจกรรมอื่นๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ผู้ใหญ่ หรือผู้เป็นพ่อเป็นแม่ หยิบยื่นให้ทั้งสิ้น เพราะอยากให้ลูกๆเป็นเด็กที่เก่งรอบด้าน
ซึ่งเด็กบางคนก็แฮปปี้กับกิจกรรมที่ทำ แต่ก็ไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะมีความสุขกับการสิ่งต่างๆเหล่านี้ ความหวังดีของพ่อแม่ อาจจะกำลังส่งผลร้าย ทำให้ลูกมีปัญหาสุขภาพทางจิต ที่เรียกว่า ภาวะเด็กถูกเร่งหรือ Hurried Child
ด้าน แพทย์หญิงเบญจพร ตันตสูติ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น เจ้าของเพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา ก็ได้โพสต์เตือนคุณพ่อ คุณแม่ ให้ระวัง เพราะลูกของคุณอาจเข้าข่าย ภาวะเด็กถูกเร่งได้
อ่านต่อหน้า 2 >>>>> ลักษณะของเด็กที่มี ภาวะเด็กถูกเร่ง เป็นอย่างไร
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ภาวะเด็กถูกเร่ง จะมีลักษณะดังนี้
*** เด็กที่ถูกเร่งให้เรียนเร็วกว่าปกติ โดยที่วัยอาจจะยังไม่พร้อมเท่าที่ควร หรืออาจจะมีสติปัญญาพร้อม ดูฉลาดน่าจะเรียนได้ แต่ถ้าเรียนมากเกินไปโดยไม่เหมาะสมกับวัย ก็มีโอกาสเสี่ยงได้
*** เด็กที่มีกิจกรรมนอกหลักสูตรมากมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่พ่อแม่ให้เรียน เช่น กิจกรรมประเภทดนตรี กีฬา และกิจกรรมอื่นๆ ในแบบที่มากเกินไป
*** เด็กที่ต้องทำอะไรเหมือนผู้ใหญ่ก่อนวัย เช่น เด็กที่พ่อแม่อยากผลักดันให้เข้าวงการบันเทิง ทั้งที่อาจจะยังไม่พร้อม และเป็นการกดดันเด็กเกินไป
คุณพ่อคุณแม่ จะสังเกตได้อย่างไรว่าลูกกำลังมี
ภาวะเด็กถูกเร่ง Hurried Child
แม้เด็กจะไม่พูดตรงๆ แต่เด็กจะแสดงอาการ ที่บ่งบอกว่ากำลังเครียด และกดดัน ซึ่งเวลาเด็กเครียด จะไม่เหมือนผู้ใหญ่เครียดที่สามารถระบาย และพูดความรู้สึกได้ แต่สำหรับเด็กเล็ก อาจจะบรรยายความรู้สึกเป็นคำพูดได้ยาก แต่เด็กก็จะแสดงอาการ ความเครียด หรือกดดัน ออกมาหลายทาง
- อาการทางกาย ปวดหัว ปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน อารมณ์ เปลี่ยนแปลงง่าย อาจจะหงุดหงิดง่าย ร้องไห้ งอแง หนักขึ้น ก็จะเป็นพฤติกรรมต่อต้าน ดื้อ ซนมากขึ้น
- ไม่สนใจอะไรที่เคยชอบ ซึมๆ บางคนที่เคยอยากไปโรงเรียน ก็ไม่อยากไปเรียน เด็กที่เคยชอบทำการบ้าน ก็ไม่อยากทำการบ้าน เด็กบางคนพูดโกหกมากขึ้น มีพฤติกรรมถดถอย พึ่งพาพ่อแม่มากขึ้น
- ถ้าพ่อแม่ไม่เข้าใจ ยิ่งไปตำหนิ ไปดุว่า เด็กก็จะยิ่งเครียดและอาจจะกลายเป็นโรควิตกกังวล ซึมเศร้า ส่งผลต่อการสูญเสียคุณค่า สูญเสียความภูมิใจในตัวเองได้
วิธีแก้ไข เด็กที่มีภาวะเด็กถูกเร่ง พ่อแม่ควรทำอย่างไร
อ่านต่อหน้า 3 >>>
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
วิธีแก้ไข ภาวะเด็กถูกเร่ง
วิธีที่ดีที่สุดของการแก้ไข ก็คือการเริ่มจากตัวคุณพ่อ คุณแม่นั่นเอง
- ควรให้ความพอดีสมดุล ระหว่าง การเรียน หรือกิจกรรมนอกหลักสูตร และการ ให้ลูกมีอิสระในการเลือกที่จะทำในสิ่งที่เขาชอบมากกว่า จะบังคับลูกให้ทำในสิ่งที่เราต้องการ
- การที่เด็กมีเวลาทำ หรือเล่น ในสิ่งที่เขาสนใจ จะทำให้เด็กเกิดจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ และทำให้อารมณ์ดี โดยเฉพาะการเล่นแบบอิสระ
- เวลาที่เด็กเรียนหนังสือแล้วมันอาจจะยาก พ่อแม่ควรให้กำลังใจ อย่าไปกดดัน เพราะยิ่งกดดัน เด็กจะยิ่งเครียด หรือ ถ้าเด็กทำอะไรได้ดี หรือมีความพยายาม ก็อย่าลืมที่จะแสดงความชื่นชม ให้ความสนใจในสิ่งที่เขาทำ
- ในเรื่องการเรียนต่างๆ หากเขาเริ่มรู้สึกเหนื่อย ไม่อยากทำ ไม่สนใจ อาจมีความกังวล ท้อแท้บ้าง บางครั้ง พ่อแม่ก็อาจจะต้องให้เขาหยุดพัก กับการทำสิ่งตรงนั้นก่อน
- อย่าลืมว่าบรรยากาศการเรียนที่ดี จะต้องเป็นบรรยากาศที่ผ่อนคลายในระดับหนึ่ง โดยเฉพาะในเด็กเล็ก จะทำได้ดีเมื่อเป็นเรื่องที่สนุกสนาน แล้วเมื่อเขาโตขึ้น ก็ค่อยพัฒนา และฝึกหัด เด็กจะค่อยๆ รับความเครียดที่มากขึ้นได้เอง
- แต่ถ้าพ่อแม่รู้สึกว่าจัดการลำบาก หรือพ่อแม่เครียดมาก ก็น่าจะต้องปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อประเมินปัจจัยเชิงลึกต่างๆ ต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก แพทย์หญิงเบญจพร ตันตสูติ เพจ เข็นเด็กขึ้นภูเขา
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
อยากให้ลูกมีพัฒนาการดี พ่อแม่ต้องทำ 5 สิ่งนี้ให้กับลูก!
รวม 84 พฤติกรรม ทำร้ายจิตใจลูก สร้างบาดแผลในใจให้ลูกไปจนโต
เลี้ยงลูกด้วยศิลปะ ช่วยสร้างจินตนาการเปิดโลกแห่งการเรียนรู้