AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

5 พฤติกรรมพ่อแม่ ทำลูกเครียดร้องไห้

พฤติกรรมพ่อแม่ ทำลูกเครียดร้องไห้

เด็กคือผ้าขาวบริสุทธิ์ทั้งกายและใจ แต่ทราบกันหรือไม่ว่า ลูกน้อยที่เป็นเสมือนแก้วตาดวงใจนั้น  อาจมีเรื่องเศร้าสะเทือนใจจากบางการกระทำ พฤติกรรมพ่อแม่ ทำลูกเครียดร้องไห้ ฝังลึกอยู่ในใจไปจนโต ทีมงาน Amarin Baby & Kids ขอเป็นหนึ่งเสียงที่อยากให้พ่อแม่เลี้ยงลูกด้วยความรัก ความเข้าใจ เพื่อลดผลกระทบร้ายแรงที่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของเด็กๆ กันค่ะ

 

พฤติกรรมพ่อแม่ ทำลูกเครียดร้องไห้

พฤติกรรมการกระทำของพ่อแม่ บางครั้งเกิดจากความตั้งใจ หรืออาจจะไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อทำลงไปแล้วล้วนเกิดผลกระทบ ต่อตัวลูกอย่างแน่นอน ผู้เขียนมีเพื่อนสนิทกันมาก เธอผู้นี้เป็นคนที่ชอบเด็กผู้ชายมาก เมื่อมีลูกคนแรกเป็นผู้ชายจึงถูกใจ ทั้งเธอและสามีทำทุกอย่าง ให้ทุกอย่างกับลูกชาย พอตั้งท้องลูกคนที่สองคลอดออกมาเป็นผู้หญิง ถามว่าคนเป็นแม่รักลูกไหม แน่นอนว่ารัก แต่อาจจะรักได้ไม่เท่าที่รักลูกคนโต ซึ่งเพื่อนผู้เขียนไม่เคยรู้ตัวเลยว่าการให้ของขวัญ หรือทำกับข้าวที่ลูกชอบ ส่วนมากแล้วจะนึกถึงลูกชายมากกว่า เพราะคิดว่าลูกสาวยังเล็กไม่น่าจะคิดน้อยใจอะไรได้

เรื่องเศร้ามีอยู่ว่าเมื่อลูกสาวอยู่ประถม 1 คุณครูให้เด็กวาดรูปอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับพ่อแม่ลูก รูปที่สาวน้อยวาดออกมาคือ พ่อแม่พี่ชายยืนจับมือกัน โดยมีสาวน้อยนั่งอยู่ด้านหลังเศร้าๆ ภาพนี้สะเทือนความรู้สึกนึกคิดของเด็กตัวเล็กๆ ได้มากมาย จนสุดท้ายคุณครูต้องเรียกพ่อแม่มาคุย โชคดีที่คุณครูจบจิตวิทยาเด็กมาด้วย งานนี้เลยได้ทำความเข้าใจกับเพื่อนสาวผู้เขียนมากมายหลายอย่าง
วันนี้สาวน้อยผู้น่ารักอายุ 9 ขวบแล้ว ดีใจที่ได้เห็นรอยยิ้ม และเสียงหัวเราะ แต่ที่ยินดีคือ เพื่อนสาวของผู้เขียนได้ให้ความสำคัญกับลูกเท่ากัน และไม่ปล่อยให้ลูกสาวต้องนั่งเศร้าซึมอีกแล้ว ที่โชคดีคือพี่ชายก็รักน้องสาวมากด้วย

นี่เป็นแค่ตัวอย่างที่เกิดขึ้นจริง และได้รับการแก้ไขได้ทันเวลา เพราะหากพ่อแม่ไม่รู้ตัว และยังขืนทำให้ลูกเสียใจต่อไปเรื่อยๆ เมื่อถึงวันที่เขาเติบโตขึ้นก็จะกลายเป็นคนที่ไม่มีความสุข รู้สึกไม่สนุก เพราะคิดว่าทุกคนในครอบครัวไม่รัก ไม่ใส่ใจ การที่เด็กมีเรื่องฝังอยู่ในใจ ย่อมเกิดผลเสียมากกว่าผลดีอยู่แล้วใช่ไหมคะ

เอาเป็นว่าเราลองไปดูเพิ่มเติมกันอีกว่ามีพฤติกรรม หรือการกระทำจากพ่อแม่อะไรอีกบ้างที่ทำให้ลูกเครียด จนเก็บไปคิดเสียใจร้องไห้ ได้อีกบ้าง…

 

5 พฤติกรรมพ่อแม่ ทำลูกเครียดร้องไห้

1. ภาพข่าวน่าหดหู่ ทำลูกสะเทือนใจ

อย่างที่ทราบกันดีว่าการจัดเรทรายการทีวีต่างๆ ทั้งละคร เกมโชว์ สารคดี การ์ตูน ฯลฯ ที่ทำขึ้นมาส่วนหนึ่งก็เพื่อให้เด็กๆ ได้ดูรายการที่เหมาะสม หรือหากบางข่าว บางรายการที่ล่อแหลม ควรต้องมีพ่อแม่ ผู้ดูแลเด็กคอยให้คำแนะนำที่ถูกต้องอย่างเหมาะสมกับเด็กๆ ด้วย

แต่ถ้าพ่อแม่คิดว่าไม่เป็นไรหรอก ให้ลูกดูไปเถอะ ก็แค่ข่าว ก็แค่ละคร ดูไปเดี๋ยวเด็กก็ลืม ไม่นะคะ พ่อแม่ห้ามคิดแบบนี้ เพราะไม่ว่าจะเป็นข่าว หรือละครที่มีเนื้อหา มีภาพรุนแรง ยิ่งเป็นผู้หญิงผู้ชายตบตีกัน หรือใช้คำพูดด่าทอกันรุนแรง ฯลฯ เด็กดูแล้วจำเก็บไปคิดนะคะ ไม่อย่างนั้นจะมีเด็กอยากเป็นซูเปอร์แมนแล้วกระโดดลงมาจากหน้าต่าง เพราะคิดว่ากระโดดลงมาไม่เจ็บ เดี๋ยวก็ลุกขึ้นได้อย่างในหนัง ในละคร ในการ์ตูนบางเรื่องที่ปีนตึก ปีนโต๊ะ ตกลงมาไม่เจ็บ หัวไม่แตก เด็กก็เชื่อตามนั้นนะคะ ที่สำคัญเด็กบางคนที่เซนซิทีฟ (sensitive) คือเร็วต่อความรู้สึก หรือการกระทำ ก็เก็บเอาไปคิดมาก กลัวฝังใจ สะเทือนอารมณ์ร้องไห้เลยก็มี

ฉะนั้นอะไรที่ไม่เหมาะสมกับเด็ก พ่อแม่ต้องสอน ต้องให้ความรู้ลูกอย่างถูกต้อง ที่สำคัญควรป้อนแต่สิ่งที่สร้างสรรค์ช่วยพัฒนาการสติปัญญา ส่งเสริมจินตนาการที่ดีให้กับลูกจะดีมากกว่าค่ะ

Credit Photo : Shutterstock

2. ทะเลาะกันต่อหน้าลูกบ่อยๆ

ขอร้องเลยว่าพ่อแม่อย่าทะเลาะกันต่อหน้าลูก หรือลับหลังลูกแล้วมีคนมาเล่า มาถามลูกว่าพ่อแม่เธอทะเลาะ ตีกันด้วยเรื่องอะไร? คำถาม หรือภาพที่ลูกเห็นเองกับตา รู้ไหมว่าลูกเสียใจแค่ไหน เขาจะคิดอยู่ตลอดเวลาว่าทำไมพ่อแม่ไม่รักกันเหมือนพ่อแม่ของเพื่อน ทำไมพ่อแม่ด่ากันด้วยคำหยาบคาย ทำไมพ่อต้องตีแม่ ทำไมแม่ต้องด่าพ่อ ภาพเหล่านี้ไม่ได้สร้างสรรค์จรรโลงใจลูกให้มีความสุขเลยค่ะ

ทะเลาะกันต่อหน้าลูกเป็นพฤติกรรมที่เลวร้ายสุดแย่ ที่พ่อแม่หยิบยื่นให้ลูก ส่งไปทำร้ายใจลูกให้อ่อนแอลงทุกวัน คุณลองคิดดูซิว่า ถ้าลูกต้องตื่นไปโรงเรียนตอนเช้าแล้วเห็นพ่อแม่ด่ากันข้ามหัวลูกไปมาตอนกินข้าว แล้วแบบนี้ลูกจะเรียนรู้เรื่องได้อย่างไร ผลการเรียนก็ย่ำแย่อย่างไม่ต้องเดาเลยค่ะ

พลังเครียดที่ลูกรับรู้ได้จากสภาพแวดล้อมภายในบ้าน นอกจากจะไปตอกย้ำให้ลูกเครียดตามไปด้วยแล้ว รู้ไหมคะว่าสมองที่เครียด ใจที่อึดอัด ลูกทำได้อย่างเดียวร้องไห้ระบายออกมา แต่การร้องไห้ตอนที่สมองเครียด เป็นผลเสียต่อการเรียนรู้ของลูกได้มากนะคะ รู้แบบนี้แล้ว คุณจะไม่คิดถึงใจลูก และหยุดทะเลาะหันหน้ากลับมาคุยกันดีๆ หรอกหรือคะ?

อ่านต่อ >> 5 พฤติกรรมที่พ่อแม่มักทำให้ลูกเสียใจ หน้า 2

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

Credit Photo : Shutterstock

3. ตีลูกด้วยอารมณ์ ใช้ความรุนแรง

การที่พ่อแม่โมโห หงุดหงิด พาเอาความเครียดมาจากที่ทำงาน หรือใครทำอะไรให้ไม่ได้ดั่งใจ แล้วมาพาลใส่กับลูก เอะอะ โวยวาย แล้วลงไม้ลงมือตีลูกด้วยความรุนแรง ทั้งไม้เรียว ทั้งสายยาง ไม้ก้านมะยม หรือใช้ไม้แขวนเสื้อผ้าตีลูก  รู้ไหมว่าไม่ใช่แค่กายลูกที่เจ็บ แต่หัวใจลูกก็เจ็บปวดเสียใจมากด้วยนะคะ การที่พ่อแม่ชอบตีลูกจะด้วยเหตุผล หรือไม่มีเหตุผล รู้ไหมว่าได้สร้างความหวาดกลัวให้กับลูก ยิ่งถ้าเป็นเด็กที่ถูกพ่อแม่ตีมาตั้งแต่เล็กๆ เขาจะเติบโตขึ้นมาอย่างคนที่มีปมด้อย และชอบใช้ความรุนแรงกับคนอื่น ดังนั่นก่อนทำโทษลูก พ่อแม่ลองคิดหาวิธีการทำโทษอื่นๆ ดูก่อน เพื่อจะได้ลดความรุนแรงที่ใช้กับลูก ลดการสร้างบาดแผลในใจลูกด้วยค่ะ

4. ใช้วาจาที่หยาบคายกับลูกตลอดเวลา

พ่อแม่บางคนชอบใช้คำพูด “มึงๆ กูๆ” กับลูก หรือไม่ก็ว่าลูกว่า “โง่เป็นควาย” , “อีเด็กเปรต” , “ไอ้เด็กนรก” ฯลฯ คำสรรพนาม หรือคำว่าด่าเหล่านี้ รู้ไหมว่าไม่ได้ส่งผลดีกับตัวลูกเลย เขาจะคิดได้อย่างเดียวและตลอดเวลาว่า ทำไมแม่ถึงเรียก ถึงด่า ถึงชอบว่าเขา แม่ไม่รักเขาหรืออย่างไร แล้วจะต้องทำยังไงแม่ถึงพูดด้วยดีๆ

ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาจากตัวลูกค่ะ แต่มาจากพฤติกรรมความเคยชินของพ่อแม่ ที่อาจคิดว่า ก็ลูกฉัน ฉันจะเรียก จะพูดอะไรกับลูกก็ได้ ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่คิดแบบนี้ บอกได้เลยว่าคุณได้สร้างสิ่งสะเทือนใจฝังไว้ให้ติดตัวลูกไปจนโต แล้วรู้ไหมว่า ลูกจะเติบโตขึ้นอย่างเด็กที่ไม่มั่นใจ ไม่กล้าคิด ไม่กล้าแสดงความคิดเห็น เพราะกลัวถูกพ่อแม่ ถูกคนรอบข้างว่า ประณามหยามเหยียด

ถ้าคุณเป็นพ่อแม่ที่รักลูก อยากให้ลูกเติบโตขึ้นไปได้ ประสบความสำเร็จ ควรให้คำพูดที่ลูกฟังแล้วดีต่อหัวใจ มีแรงบันดาลใจ จนเกิดความอบอุ่นขึ้นในหัวใจ เพื่อใช้ในการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างมั่นคง จะดีมากๆ เลยค่ะ

5. ต้องเห็นพ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่เล็ก

ภาพที่สวยงามสำหรับเด็กๆ ก็คือ การได้เห็นโต๊ะกินข้าวที่บ้านมีพ่อแม่นั่งกินด้วย มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะ ได้มีวันหยุดทำกิจกรรมกันระหว่างพ่อแม่ลูก วันประชุมผู้ปกครอง วันพ่อ วันแม่ ได้เห็นทั้งพ่อและแม่มาร่วมงานอย่างพร้อมหน้า ในวันที่เหนื่อยล้า ได้อ้อมกอดจากทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน ฯลฯ นี่คือความสุข ความอบอุ่นใจของลูกที่แท้จริงที่เขาอยากได้จากพ่อกับแม่

แต่วันที่สวยงามก็ไม่ได้มีจริงอย่างยั่งยืนเสมอไป  เพราะมีเด็กน้อยอีกหลายครอบครัวที่ต้องมาอยู่กับแม่ 4 วัน กลับไปอยู่กับพ่อ 3 วัน ช่วงวันหยุดก็ไม่ได้ทำกิจกรรมแบบพ่อแม่ลูก  เพราะพ่อกับแม่หย่ากันแล้ว ที่สำคัญพ่อแต่งงาน แม่แต่งงานมีครอบครัวใหม่ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้วคนที่เป็นพ่อแม่ไม่สามารถ หรือไม่ได้ให้ความรักกับลูกได้มากเหมือนเคย อาจทำให้เด็กน้อยคนนึกเสียใจ และเฝ้าคิดตลอดเวลาว่า เขาเกิดมาด้วยความรักจากพ่อแม่หรือเปล่า ทำไมพ่อกอดน้องใหม่ แต่ไม่กลับมากอด มารับที่โรงเรียนได้เหมือนแต่ก่อน ทำไมแม่มีน้องใหม่แล้วอะไรๆ ก็ให้แต่น้องใหม่

จริงๆ ปัญหาการหย่าร้างจะไม่เป็นพิษต่อหัวใจของเด็กน้อยอีกหลายๆ คนที่กำลังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ หากพ่อแม่ยังให้ความรัก ความอบอุ่นกับลูกเหมือนเดิม ให้เขารู้สึกได้ว่าถึงพ่อแม่ไม่อยู่ด้วยกันแล้ว ก็ไม่ได้มีอะไรขาดหายไปจากชีวิตเขาเลย เพราะในหนึ่งสัปดาห์ คุณสามารถหาเวลาหนึ่งวันพาลูกไปทานข้าวที่มีพ่อแม่และลูกไปด้วยพร้อมหน้าพร้อมตากัน ให้เขารู้สึกว่าพ่อแม่ก็ยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่เหมือนเดิม การหย่าร้างอาจเป็นเหมือนปมในใจเด็กได้ แต่พ่อแม่สามารถแก้ปมนั้นออกง่ายๆ เพียงแค่ทำทุกอย่างให้เหมือนเดิม เวลาเจอหน้ากันอย่าทะเลาะ อย่าโทษกันต่อหน้าลูก อย่าทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเขาเป็นปัญหาของพ่อแม่ก็เท่านั้นเองค่ะ

พ่อแม่ที่รัก หากอยากให้ลูกๆ เติบโตขึ้นอย่างคนที่มีความแข็งแรง ความแกร่ง ทั้งกาย ใจ พ่อแม่ต้องหยิบยื่นให้แต่สิ่งที่ดีกับลูกเท่านั้น  พฤติกรรมแย่ๆ ที่ร้ายต่อใจลูก ขอให้หยุด ขอให้ทิ้งไป …ด้วยความใส่ใจและห่วงใยค่ะ

 

 

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก

7 พฤติกรรมแม่ท้อง กระตุ้นลูกในครรภ์ฉลาด
ตีลูก ความเชื่อที่ผิดๆ ของพ่อแม่คนไทยกับการลงโทษลูก
10 การกระทำพ่อแม่ ทำร้ายจิตใจลูก แบบไม่รู้ตัว!!!

 

 


ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก
baby.kapook.com