เพราะลูกเรียนรู้ภาษาจากการฟังคุณพ่อคุณแม่พูด และลูกก็จะแสดงพฤติกรรมต่างๆ จากการเห็นและประพฤติตามอย่าง คุณพ่อคุณแม่จึงเป็นเหมือนกระจกเงาของลูก สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรทำกับลูก เช่น พฤติกรรมแย่ๆ ต่างๆ จึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังที่สุด
การอบรมสั่งสอนลูกวัยที่กำลังเรียนรู้ 1-4 ปี นับได้ว่าเป็นประตูสู่การเติบโตของลูกๆ เลยก็ว่าได้ สำหรับการเติบโตด้วยความรัก ความอบอุ่น และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างพ่อแม่นั้นเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะเด็กในวัยนี้จะมีความผูกพันทางจิตใจกับพ่อแม่มากๆ และจะซึมซับทุกอย่างผ่านการมอง การจดจำ และการรับรู้อารมณ์ได้ทั้งหมด อีกทั้งในสังคมปัจจุบันนี้ยังแวดล้อมไปด้วยอบายมุขมากมาย และมีหลายครั้งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่มักขาดสติ ขาดความยับยั้งชั่งใจ เผลอไผลไปกับอบายมุขเหล่านั้นได้โดยง่าย
หากคุณแสดงพฤติกรรมแย่ๆ ออกมาให้ลูกเห็น เด็กก็จะเลียนแบบพฤติกรรมแย่ๆ ของคุณ หรือหากเขาไม่แสดงออกในตอนนั้น แต่สิ่งต่างๆ ที่พ่อแม่ได้กระทำจะถูกเก็บเป็นภาพความทรงจำ เมื่อคราวที่เขาทำผิด เขาก็จะคิดว่าไม่เป็นไรเพราะพ่อกับแม่ยังทำได้ … ดังนั้นคุณควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านั้นเสีย สำหรับสิ่งที่ไม่ควรทำ หรือพฤติกรรมผิดๆ ทีพ่อแม่ไม่ควรทำให้ลูกเห็นจะมีอะไรบ้าง Amarin Baby & Kids จึงได้รวบรวมพฤติกรรมไม่ดีของพ่อแม่ที่อาจเผลอทำโดยไม่รู้ตัว และส่งผลเสียต่อลูกๆ ไว้ดังนี้ค่ะ
พฤติกรรมยอดแย่ ที่พ่อแม่ไม่ควรทำต่อหน้าลูก
1. อย่าสูบบุหรี่หรือดื่มของมึนเมาให้เด็กเห็น
บุหรี่และเหล้านอกจากจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างอีกด้วย เพราะคนที่อยู่ใกล้ตัวของคุณจะได้รับควันพิษจากบุหรี่ไปพร้อมกับคุณอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และหากคุณดื่มเหล้า ก็จะขาดสติ ทำให้แสดงพฤติกรรมที่แย่ๆ และไม่สามารถควบคุมได้ออกมา เมื่อเด็กรับรู้และเห็นเป็นประจำ จะทำให้เขาเห็นว่าการสูบบุหรี่หรือการดื่มเหล้าไม่ใช่เรื่องผิด
2. อย่าพูดคำหยาบ
คำพูดหยาบคายของพ่อแม่แม้จะเป็นเพียงคำสบถ ก็จะทำให้ลูกจดจำได้และเผลอพูดออกมาโดยไม่ได้สนใจความหมายหรือยังไม่เข้าใจความหมายของมัน ดังนั้น พ่อแม่ควรระมัดระวังคำพูดของตนเองเมื่ออยู่ต่อหน้าลูก เพราะเด็กเป็นวัยที่จดจำคำพูดของผู้ใหญ่ได้ดี
3. อย่าทะเลาะกันต่อหน้าลูก
การทะเลาะกันนอกจากจะเป็นการใช้คำพูดที่รุนแรงและอาจเผลอพูดคำหยาบคายออกมาต่อหน้าลูก จะไปสร้างบาดแผลในใจให้กับลูก ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเขาต้องอยู่ข้างใคร จะทำให้ลูกเกิดการสับสน และรู้สึกเหมือนขาดที่พึ่ง เพราะในความคิดของเด็กทุกคน ย่อมอยากเห็นพ่อแม่ของตัวเองนั้นรักกัน
อ่านต่อ > > “พฤติกรรมสุดแย่ที่พ่อแม่ไม่ควรทำต่อหน้าลูก” คลิกหน้า 2
4. การเล่นโทรศัพท์หรือแท็บเล็ตมากเกินไป
การที่เราติดโทรศัพท์จะทำให้ลูกติดตาม ทั้งยังส่งผลแย่ต่อสุขภาพโดยรวม และยังส่งผลต่อการพัฒนาส่วนต่างๆ ของลูกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสมอง หรือร่างกาย ดังนั้นวัยเด็กเป็นวัยที่ควรได้เล่นอย่างเหมาะสม เพื่อช่วยในการฝึกพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ และเรียนรู้ที่จะรักการอ่าน วางโทรศัพท์ลงแล้วหันมาเล่นกับลูกให้มากขึ้นนะคะ
5. อย่าดูถูกหรือล้อเลียนคนอื่นต่อหน้าลูก
การดูถูกคนอื่นหรือล้อเลียนคนอื่นต่อหน้าลูก เป็นพฤติกรรมที่แย่และไม่ควรทำ เพราะจะทำให้เด็กขาดการเคารพบุคคลอื่น คิดว่าตนเองดีที่สุด และไม่เห็นคุณค่าของบุคคลอื่น รวมทั้งไม่เห็นคุณค่าของตนเองอีกด้วย
6. อย่าโกหก
ถึงแม้ว่าลูกคุณจะยังเล็กแต่เขาก็มีความจำเป็นเลิศ เมื่อพ่อแม่ได้สัญญากับเขาไว้แล้ว ก็จะต้องรักษาสัญญานั้น เพราะหากคุณไม่รักษาสัญญา เด็กจะไม่ยอมเชื่อในสิ่งที่เราพูดอีก เป็นการลดความน่าเชื่อถือและความไว้เนื้อเชื่อใจกับพ่อแม่ลง
7. อย่าเก็บอารมณ์ต่างๆ มาลงกับลูก
ไม่ว่าคุณจะเครียดจากที่ทำงาน หรือทะเลาะกับสามีหรือภรรยา ก็ไม่ควรเอาอารมณ์เหล่านั้นกลับมาลงกับลูก เพราะเด็กไม่รู้ถึงปัญหาที่คุณได้พบเจอมา ก่อนเข้าบ้านควรวางปัญหาทุกอย่างไว้ เพราะการที่เรายิ้มแย้มแจ่มใสต่อหน้าลูกเสมอ เพื่อเป็นการสร้างลูกให้เป็นเด็กร่าเริงแจ่มใส อีกทั้งการเป็นเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีในหลายๆ ด้านของเด็ก เช่น ด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา
อ่านต่อ > > “พฤติกรรมสุดแย่ที่พ่อแม่ไม่ควรทำต่อหน้าลูก” คลิกหน้า 3
8. อย่าพูดถึงอีกฝ่ายในทางที่ไม่ดี
อาจมีหลายๆ ครั้งที่การโต้แย้งระหว่างคุณพ่อกับคุณแม่ยังสรุปไม่ได้ จึงมีอารมณ์ที่ยังคงโกรธเคืองกันอยู่ ซึ่งเวลาพูดคุยกับลูกถึงอีกฝ่าย ก็จะพูดถึงในทางไม่ดี เช่น พ่อแกหนะ ห่วย !!! , แม่แกหนะ โง่! , พ่อแกนี่ นิสัยต่ำทรามที่สุด! , แม่แกนี่ งี่เง่ามากเลย! เป็นต้น การพูดกับลูกแบบนี้ไม่ว่าฝ่ายไหนจะถูก หรือ ฝ่ายไหนจะผิด เมื่อลูกได้ยินได้ฟังคนที่ตนเองรักสองคน ว่ากล่าวหรือพูดถึงอีกฝ่ายในทางไม่ดี มันก็เหมือนทำร้ายจิตใจลูกตรงๆ ได้อีกเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังปลูกฝังให้ลูกจดจำภาพของอีกฝ่ายว่าเป็นคนไม่ดีอย่างที่ตนได้รับฟังมา
9. อย่าเผลอแสดงบทรักบนเตียงให้ลูกเห็น
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เด็กๆไม่ควรเห็นอยู่แล้ว หลายๆ ครอบครัวนอนรวมกัน ลูกอาจสะดุ้งตื่นมาเห็น ดังนั้นหากคุณพ่อคุณแม่คิดจะมีบทรักกันละก็ ไม่ควรมีบริเวณใกล้ๆ ลูก หรือบนเตียงเดียวกันกับที่ลูกนอน ถึงแม้ว่าลูกจะหลับแล้วก็ตาม ให้เลี่ยงไปห้องอื่นแทนจะดีกว่าค่ะ
10. การทำตัวนิ่งเฉยเมื่อลูกผิด
การที่ลูกแกล้งไปผลักคนอื่นล้ม, งอแง เกเรอย่างไม่มีเหตุผล, ทิ้งขยะไม่เป็นที่ หรือเดินเตะของล้มแล้วไม่ขอโทษ พฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้่พ่อแม่บางท่านอาจมองดูจะเป็นสิ่งเล็กน้อยสำหรับเด็ก แต่เมื่อปล่อยไปหลายๆ ครั้ง หรือทำจนเป็นนิสัยจะส่งผลกับพฤติกรรมระยะยาวของเด็กๆ ได้
11. อย่าแสดงอาการเหวี่ยงวีน
การที่คุณพ่อคุณแม่มีพฤติกรรมรุนแรงหรืออารมณ์แปรปรวน ย่อมส่งผลร้ายโดยตรงกับลูก เมื่อพ่อแม่ควบคุมสติและอารมณ์ตนเองไม่ได้ ย่อมทำให้ลูกควบคุมสติและอารมณ์ของตนเองไม่ได้เช่นเดียวกัน
อาการเหวี่ยงวีน โมโห เกรี้ยวกราด ตะคอกลูกเป็นประจำ จะทำให้ลูกซึมซับพฤติกรรมไม่ดีเหล่านั้นไปโดยไม่รู้ตัว
อ่านต่อ > > “พฤติกรรมสุดแย่ที่พ่อแม่ไม่ควรทำต่อหน้าลูก” คลิกหน้า 4
12. อย่าทำผิดกฎซะเอง
การที่คุณพ่อคุณแม่วางกติกาต่างๆ ของบ้านไว้ เพื่อต้องการให้เด็กๆ ทำตาม พ่อแม่ก็ควรตระหนักว่าตนเองก็ต้องทำตามกฎด้วย เช่น การทิ้งขยะให้เป็นที่ หรือเก็บของเมื่อใช้เสร็จแล้ว ทานข้าวเสร็จให้ล้างจาน หรือทำของตกให้เก็บ พฤติกรรมเหล่านี้ดูแล้วเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยแต่ส่งผลระยะยาวกับลูกในด้านการใช้ชีวิต การทำตามกฎ ไม่ฝืนกติกาของบ้าน เป็นการสร้างวินัยที่ดีให้กับลูกในการอยู่ร่วมกันในสังคมเมื่อเติบโตขึ้น หากพ่อแม่ทำผิดกฎซะเอง ก็จะให้ความน่าเชื่อถือลดลง ไม่มีประโชยน์อันใดที่จะสอนลูกให้ทำตามกฎที่วางไว้ได้
13. การให้ลูกช่วยปิดบังความลับของอีกฝ่าย
เช่น เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคน ลูกต้องไม่บอกคุณแม่ (หรือคุณพ่อ) แล้วพ่อจะให้ลูกทานขนมกรุบกรอบ แม้ว่าดูเป็นเรื่องไม่สำคัญและทำเพื่อให้ลูกรู้สึกว่าลูกเป็นคนโปรด แต่ลูกจะเรียนรู้ว่าการโกหก หรือการมีความลับกับคุณแม่ (หรือคุณพ่อ) เป็นสิ่งปกติและทำได้ และทำให้ลูกลดอำนาจและบทบาทของคุณแม่ลง ทำให้คุณแม่ (หรือคุณพ่อ) มีความยากลำบากในการสร้างวินัยหรือสั่งสอนลูก
14. อย่าแสดงอาการท้อแท้หรือสิ้นหวัง
คนเราไม่ได้เข้มแข็งเสมอไป แต่คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ไม่ควรแสดงความสิ้นหวังให้ลูกเห็น หรือแสดงอาการว่าไม่อยากเอาอะไรกับชีวิต รวมทั้งการคิดสั้นฆ่าตัวตาย เพราะพ่อแม่คือฮีโร่ของลูก คุณคือเสาหลัก และเป็นทั้งชีวิตจิตใจของลูก ถ้าคุณสิ้นหวัง ท้อแท้ให้ลูกเห็น ลูกก็จะซึมซับถึงความพ่ายแพ้ ความอ่อนแอ และสิ้นหวังนั้นของคุณไปด้วย
พฤติกรรมไม่ดีทั้ง 14 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรทำต่อหน้าลูก หากเราเคยกระทำข้อใดข้อหนึ่ง วันนี้ยังไม่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นใหม่ ควรสอนลูกว่าสิ่งไม่ดีที่ลูกเห็นนั้นไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง และจะไม่ทำให้ลูกเห็นอีก โปรดจงจำไว้ว่าการเป็นพ่อแม่ที่ดีคือการเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูก เพราะการทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดีของพ่อแม่จะช่วยสร้างให้ลูกเป็นเด็กดีมีความสุข และเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีภูมิต้านทานชีวิตที่เข้มแข็ง ขอจงอย่าลืมว่ามีสายตาเล็กๆ กำลังจ้องมองเราอยู่เสมอ Amarin Baby & Kids ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัวค่ะ