AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

เปิดใจซิงเกิ้ลมัมคนเก่ง “บีม” วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ

จากเด็กสาวที่เคยวาดฝันเส้นทางชีวิตเหมือนผู้หญิงทั่วไป…เรียนจบ ทำงาน แต่งงาน มีลูก ใช้ชีวิตครอบครัวพ่อแม่ลูก แต่ในความจริงเมื่อเธอเติบโตขึ้นมา จนเข้าวัยกลางคน หลายอย่างไม่ได้เป็นอย่างฝันที่วาดไว้ ชีวิตรักไม่ได้สวยงาม เรื่องมีลูกจึงค่อยๆหายไปจากความคิด แต่ชีวิตพลิกผัน วันที่เธอลืมเรื่องมีลูกไปแล้ว ลูกเลือกมาอยู่กับเธอโดยไม่ทันตั้งตัว และวันนั้นเธอก็เข้มแข็งพอที่จะประกาศให้สาธารณะชนรู้ว่าเธอพร้อมที่จะเป็น “ซิงเกิ้ลมัม”

           

            เลือกเส้นทางคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว

“ชีวิตบีมผ่านปัญหามาเยอะมากค่ะ โดยเฉพาะตอนที่คุณพ่อ (ศุภกรณ์ ศรีสวัสดิ์ หรือดี๋ ดอกมะดัน) ป่วยและเสียชีวิต ซึ่งบีมว่ามันเป็นมรสุมลูกใหญ่ที่สุดในชีวิตแล้ว หลังจากนั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเจอปัญหาอะไร บีมว่ามันเล็กน้อยมาก และเราจะผ่านมันไปได้ รวมถึงเรื่องลูกด้วยค่ะ” คุณบีมเริ่มต้นเล่าถึงเส้นทางการเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวให้เราฟัง “ตอนที่รู้ว่าท้องแวบแรกก็คิดเหมือนกันว่าคงต้องแต่งงานแล้วล่ะ เพราะฝ่ายชายเขาก็พร้อมจะรับผิดชอบ แต่พอพูดคำว่าแต่งงาน คือเราไม่ได้มีความสุขเหมือนคนที่กำลังจะได้เป็นเจ้าสาว เราแต่งเพราะเราจะต้องดูแลรับผิดชอบลูก เราก็ถามตัวเองว่านี่คือทางที่เรามีความสุขใช่ไหม

“สิ่งที่เราเป็นห่วงไม่ใช่ชื่อเสียงของตัวเอง แต่เราเป็นห่วงคุณแม่ ห่วงครอบครัว ห่วงชื่อเสียงพ่อ แต่พอแม่ถามว่า “จะแต่งงานเนี่ยรักเขาหรือเปล่า คิดว่าแต่งไปแล้วจะมีความสุขไหม” เราตอบว่า ไม่ แต่แต่งเพราะต้องดูแลลูก แม่พูดขึ้นมาเลยว่า “ถ้าแต่งด้วยเหตุผลนี้ ไม่ต้องแต่งเลยนะ ไม่ต้องแต่งเพื่อชื่อเสียงพ่อ ไม่จำเป็น แม่เชื่อว่าถ้าพ่อยังอยู่ พ่อก็จะคิดแบบนี้เหมือนกัน ถ้าเกิดแต่งไปแล้วลูกไม่มีความสุข อย่าเลย”

ที่สำคัญที่สุดก็คือน้องโซร ถ้าเขาเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ได้รักกันแล้ว เขาก็คงจะไม่มีความสุข ถึงแม้ว่าเขาจะเล็กอยู่ แต่เขาก็คงจะรับรู้ได้ สัมผัสได้ถึงบรรยากาศที่มันไม่อบอุ่นไม่น่าอยู่ แล้วบีมก็ลองสังเกตบ้านที่เป็นซิงเกิ้ลมัมกับบ้านที่มีทั้งพ่อแม่ ก็มีหลายบ้านที่เขาทะเลาะกัน มีปัญหากัน แต่อยู่ด้วยกัน เขาก็ไม่มีความสุข เพราะฉะนั้นให้ชัดเจนไปเลยดีกว่า ว่านี่พ่อ นี่แม่ ซึ่งไม่ได้เป็นสามีภรรยากันนะ แต่เราพร้อมที่จะให้จะให้ความรักเขาอย่างเต็มที่

พอเราตัดสินใจว่าจะทำตามความรู้สึกของตัวเอง พอคิดว่าจะเลี้ยงลูกเอง มันมีความสุขขึ้นมาเลย มันโล่งมาก สบายใจมาก ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าคนภายนอกจะรู้สึกอย่างไรนะ แต่ตอนนั้นบีมรู้สึกว่าไม่สนใจแล้ว ครอบครัวเรามีความสุข บีมมีความสุขกับชีวิตของบีมแบบนี้ พอใจแล้วค่ะ”

           

            ชุลมุนในห้องคลอด

“บีมคลอดธรรมชาติค่ะ เป็นความตั้งใจของเราอยู่แล้ว บีมอยากจะรับรู้โมเมนต์ที่แม่บอกว่า “มันเจ็บมากเลยนะเธอ ผ่าไหม” (หัวเราะ) แล้วก็หาข้อมูลมาแล้วว่าคลอดเองดีนะ มันเป็นธรรมชาติ และบีมว่าธรรมชาติดีที่สุด อีกอย่างบีมแข็งแรงมาก สามารถคลอดเองได้

วันที่จะคลอด ประมาณ 9 โมงเช้า คุณหมอมาตรวจ ปากมดลูกเปิดแค่ 2 เซ็น หมอก็บอกว่าท้องแรก เดี๋ยวบ่าย 3 หมอมาใหม่ นอนตามสบายเลยค่ะคุณแม่ พยาบาลก็มาบอกว่าถ้าเจ็บบอกนะคะ ขอยาได้ เราก็ค่ะๆ ตอนแรกมันปวดเหมือนปวดท้องประจำเดือนแต่ยังไม่ถี่ แต่พอสักพักเริ่มถี่ แต่บีมก็ทน จิกหมอน ตอนนั้นสัก 11 โมงได้ ปวดก็ทนเพราะหมอบอกอีกนาน แต่มันทนไม่ไหวแล้ว ร้องโอ๊ยยยขึ้นมา พอเบล (น้องสาว) เห็นพี่โอ๊ยก็เรียกพยาบาลเลยค่ะ บอกปกติพี่หนูอดทนมาก ไม่เคยโอ๊ยมาก่อน ช่วยเรียกหมอมาดูด่วน

อ่านต่อ “เปิดใจซิงเกิ้ลมัมคนเก่ง “บีม” วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ” คลิกหน้า 2

 

พยาบาลก็เข้ามาถามว่ามีลมเบ่งหรือยังคะ อะไรคือมีลมเบ่งคะ (หัวเราะ) เราก็ถามกลับไม่เข้าใจ พยาบาลอธิบายว่าเวลาปวดแล้วมันจะมีลมเบ่งอัตโนมัติ อ่อๆ ใช่ค่ะมาแล้วค่ะ พอพยาบาลมาดู โอ้โหนี่เต็มที่แล้ว ขึ้นขาหยั่งเลยค่ะคุณแม่ ทำไมไม่บอกก่อนคะ นี่จะคลอดแล้ว

เราก็ทนไงเพราะเราไม่รู้ว่าแบบนี้คือใช่แล้ว หมอก็วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา อย่าเพิ่งเบ่งนะคะ ฉีดยาชาก่อน เป็นโมเมนต์ที่แปลกดี คือเป็นคนที่มีความอดทนสูง ก็หมอบอกอีกนานเราก็ทน (หัวเราะ)

ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ดี เราได้เข้าใจการปวดท้องคลอดลูก ว่ามันเป็นอย่างไร ถ้าถามบีมว่าการที่เรารักแม่มากขึ้น ไม่ใช่ตอนที่เราคลอดลูกหรอกค่ะ อาจเพราะว่าบีมเจ็บท้องไม่นานก็คลอด แต่ตอนที่เราได้เลี้ยงลูกนี่แหละ รักแม่มากเลย เพราะเราจะเข้าใจ ว่ามันเหนื่อยมากกก ช่วงแรกที่ตอนเลี้ยงเอง แผลก็ยังเจ็บ จะลุกจะนั่งก็ลำบาก เจ็บมาก เข้าใจหัวอกคุณแม่เลยว่าท่านเสียสละแค่ไหน”

 

            น้ำตาของแม่

            “ตอนที่เห็นหน้าลูกครั้งแรก ก็ไม่ได้ซึ้งน้ำตาไหล แค่เฮ้ยนี่คือลูกเรา หน้าเหมือนเราตอนเด็กๆเลย ไม่รู้เข้าข้างตัวเองหรือเปล่านะ(หัวเราะ) พอพยาบาลอุ้มไปเช็ดเนื้อเช็ดตัว เสียงร้องหวีดแหลมมาก เสียงดังฟังชัด เราก็โล่งใจลูกแข็งแรงดี

พอตอน 2 ทุ่ม เราต้องเดินไปให้นมเอง โซรก็เริ่มงับ ดูดเต้า ตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีน้ำนมอะไรหรอก แต่มันเป็นสัมผัสที่มีความสุขที่สุด ตอนแรกเราคิดว่าถ้าลูกเข้าเต้ามันต้องจั๊กจี้แน่ๆเลย แต่พอถึงเวลาจริงๆ แล้วไม่เลย มันเป็นโมเมนต์ที่อบอุ่นมาก ชอบมาก เป็นสายใยของแม่ลูก มองเขาดูดนมเรา นอนหลับมีความสุข ตอนนี้ก็เริ่มซึ้งล่ะ แต่ยังไม่น้ำตาไหล เพราะเป็นคนที่ร้องไห้ยาก (หัวเราะ)

แต่พอกลับบ้าน น้องโซรเขามีภาวะตัวเหลือง กลับมาบ้านสองวัน ก็ต้องกลับไปตรวจที่โรงพยาบาลอีกรอบ หมอก็บอกให้นอนส่องไฟหนึ่งคืนนะ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่เป็นไรอยู่แล้ว แต่พอเห็นลูกนอนส่องไฟ … น้ำตาไหลพรากเลย เบลกับแม่หันมามอง แล้วก็ถามร้องทำไม หลังจากนั้นก็ร้องกัน 3 คนเลย พยาบาลต้องเอาทิชชูมาให้ เราก็ขอโทษนะคะ รู้ว่าลูกไม่เป็นอะไร แต่อยู่ๆก็สงสารลูก กลับบ้านมาก็ร้องต่อ คิดถึงลูก คือบีมรักเขามาก ไม่อยากให้ห่างไปไหน พอเจอแบบนี้ก็กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริงๆ”

 

            “ลูก” คือพลังที่ยิ่งใหญ่

            “ตั้งแต่คลอดน้องโซรมา บีมกับคุณแม่และเบล ก็จะช่วยกันเลี้ยง ถ้าเราติดงาน ก็อยากให้คนในครอบครัวดูแลเขา เพราะฉะนั้นจะไม่มีใครพลาดสักโมเมนต์เดียวของเขา เราจะได้เห็นพัฒนาการของลูกในทุกๆวัน

ถามว่าเหนื่อยไหม…เหนื่อยมากนะ การเป็นแม่คนนี่เหนื่อยมากเลย ช่วงเดือนแรกๆที่เลี้ยงเอง ไม่ได้นอนไม่ได้กิน น้ำหนักลดฮวบ นี่น้ำหนักน้อยกว่าตอนที่ก่อนท้อง เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ว่าเป็นความเหนื่อยที่มีความสุข

บีมก็เคยนั่งๆอยู่แล้วน้ำตาไหล ทำไมฉันเหนื่อยขนาดนี้ (หัวเราะ) หรือในบางวันให้คุณแม่ช่วยเลี้ยงแล้วเขาเหนื่อย พอเห็นแม่เหนื่อย เราก็เสียใจ แต่ว่าพอคิดอีกที ตอนเหนื่อยก็เหนื่อย แต่โมเมนต์ที่เขายิ้ม หัวเราะ เขาหัดเรียกแม่ เขาเริ่มตั้งไข่ เริ่มเดิน เขาทำให้เราหัวเราะ มันเป็นความเหนื่อยที่มีความสุข คือเวลาที่สุขมันก็จะสุขมากๆ เป็นความสุขที่เงินซื้อไม่ได้ มันคุ้มค่ากับความเหนื่อยที่ผ่านมา ส่วนตัวคุณยายที่บ่นว่าเหนื่อยๆ แต่พอน้องโซรเข้ามากอดเข้ามาหอม ก็หายเหนื่อย มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมาก เพิ่มพลังให้เรามากๆ

บีมเชื่อว่าคนเป็นแม่ในวันที่เหนื่อยที่สุดหรือคิดว่าฉันไม่ไหวแล้ว มันจะมีก๊อก 2 ก๊อก 3 มาเอง ไม่รู้ว่าเอาแรงเอาพลังมาจากไหน แล้วคนที่บอกว่าไม่คิดว่าตัวเองจะเป็นแม่คนได้ ลองมีสิคะเป็นได้ทุกคน สัญชาตญาณมันจะมาทันที ความเข้มแข็งหรือพลังจะเข้าร่างเลย (หัวเราะ) นอนไม่ถึง 2 ชั่วโมง ฉันก็ใช้ชีวิตอยู่ได้ สามารถอาบน้ำภายใน 3 นาทีได้ ไม่มีเวลาส่วนตัว ทุกอย่างให้ลูกหมด แต่ทั้งหมดมันคือความสุข”

 

อ่านต่อ “เปิดใจซิงเกิ้ลมัมคนเก่ง “บีม” วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ” คลิกหน้า 3

            “น้องโซร” โซ่ทองคล้องใจทุกคนในครอบครัว

            “ตอนนี้น้องโซรอายุ 1 ขวบ 2 เดือน พัฒนาการดีค่ะ พูดเป็นคำๆ เรียกแหมะๆ (แม่ๆ) ตอนนี้อะไรก็แหมะๆ อย่างเดียวเลย ตลอดทั้งวัน แล้วเป็นเด็กสั่งได้ สวัสดี ยิ้มหวาน บ๊ายบาย ดีใจตบมือ คือทำได้หลายอย่าง ตอนนี้คุณยายเริ่มบ่นว่าเหนื่อยมาก เริ่มไล่จับไม่ทัน

ส่วนน้าเบลเป็นหน่วยเอนเตอร์เทน เขาทำงานเป็นครูสอนแอคติ้งเด็ก วันๆก็สอนหลานให้ยิ้ม หัวเราะเริงร่า แล้วถ่ายรูปเก็บไว้ เพราะเราจะถ่ายรูปน้องโซรกันทุกวัน แล้วลง IG เหมือนเป็นไดอารี่ส่วนตัวให้เขา เขียนบันทึกกันตั้งแต่วันแรกที่โซรเกิด ไว้ให้เขามาดูตอนโต

ซึ่งบีมว่าเขาเป็นโซ่ทองคล้องใจของครอบครัวจริงๆ นะ มีช่วงเวลาที่บีมเหนื่อย คุณยายก็เหนื่อย แล้วเรางอนกัน เราก็เสียใจว่าทำแม่เหนื่อย เลยนั่งร้องไห้ น้องโซรเขานั่งอยู่ข้างๆ เขาก็ยิ้มให้ เดินเข้ามากอดมาหอมเรา จังหวะมันได้มากเลย ตอนนั้นก็หายงอนกันทันที เขาเป็นพลัง เป็นกำลังใจเป็นทุกๆอย่างจริงๆค่ะ”

 

            ถ้ารักก็ต้องกล้าบอก

“ย้อนไปสมัยที่คุณพ่อยังอยู่ บ้านเราจะสไตล์คนไทย พ่อบีมเขาเป็นคนไม่ค่อยแสดงออกทางคำพูดว่ารักลูกอย่างนั้นรักลูกอย่างนี้ แต่เรารู้อยู่แล้วว่าเขารักเรามาก เขาจะชอบไปชมเรากับคนอื่น แต่ถ้าอยู่ต่อหน้าเขาไม่พูดว่าเขาภูมิใจอะไรในตัวเรา แต่เราจะได้รู้จากคนอื่น ว่าพ่อรักเรามาก ภูมิใจในตัวเรามาก

หลังจากพ่อเสียไปแล้วเราไปเจอสมุดโทรศัพท์ของพ่อที่เขียนกลอนให้ลูกๆ อ่านจบแล้วบีมร้องไห้หนักมาก คือตอนอยู่ไม่พูดกันแล้วเขียนบอกไว้ แล้วมาเห็นตอนวันที่ไม่อยู่แล้ว

พอมีลูกบีมก็จะทำสิ่งที่พ่อแม่เราไม่ค่อยทำกัน คือบอกรักเขาทุกวัน แม่รักน้องโซรมากนะลูก บีมพยายามทำให้เขารู้ อยากจะบอกเขา ให้เขามีความสุขที่แม่รักเขาขนาดนี้ อยากบอกรักเขาบ่อยๆ อยากจะกอดอยากจะหอมจนกว่าจะถึงวันที่เขาไม่ยอมให้เรากอดหอมเขาแล้ว คือมันเป็นสิ่งที่เราอยากทำกับพ่อ แต่ไม่ได้ทำ ตอนนี้ก็เลยทำกับลูกแทน เพราะเราก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง อยากให้เขารับรู้ว่าแม่รักเขามากเลย เราก็เลยบอกเขาทุกวันว่าแม่รักเขา”

 

            ความภาคภูมิใจของซิงเกิ้ลมัม

“ลูกเป็นกำลังใจที่ดีที่สุดค่ะในวันที่เราท้อหรือเหนื่อย เวลาที่เราเห็นเขา มันจะมีพลังขึ้นมาเลย สำหรับคุณแม่ที่เป็นซิงเกิ้ลมัมเหมือนบีม หรือคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ อย่ากลัวนะคะ บีมเชื่อว่าคนที่ทำหน้าที่เป็นแม่คนได้ มันเป็นหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว ผู้หญิงเป็นเพศที่เข้มแข็งมาก เราถึงทำหน้าที่นี้ได้ ทุกคนมีพลังอยู่ในตัว ค้นพบมันให้ได้ค่ะ หามันให้เจอ รับรองว่าคุณจะภูมิใจในตัวเองมากๆ ที่เห็นลูกเติบโตมาด้วยความรัก ด้วยการเลี้ยงดูของเรา การเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวหรือซิงเกิ้ลมัมเป็นคำที่น่าภูมิใจมากนะคะ เป็นคำที่จำกัดความของคนเก่ง คนที่เข้มแข็งและมีพลังมากที่สุดเลยค่ะ”

 

 

 

Profile Family

คุณแม่บีม วรานิษฐ์ จิราโรจน์เจริญ อาชีพนักแสดงและพิธีกร

น้องโซร เด็กชายอาทิตศ์ฌาน จิราโรจน์เจริญ วัย 1 ขวบ 2 เดือน

 

เรื่องและภาพโดย : กองบรรณาธิการอมรินทร์เบบี้แอนด์คิดส์