เคยเจอปัญหา “แฟนคลับงอน” ไหมคะ? เหตุการณ์ที่ว่านี้มักเกิดขึ้นกับบ้านที่มีลูกมากกว่าสองคน โดยมี “พ่อ” หรือ “แม่” เป็นดาวเด่นประจำบ้าน… แม้จะภูมิใจเล็กๆที่ได้รับตำแหน่ง “ดาวเด่นประจำบ้านสิบปีซ้อน” แต่ดิฉันก็ยอมรับว่า ฉากแฟนคลับทะเลาะกันในที่สาธารณะเพราะ “อยากอยู่ใกล้แม่”มันช่างทรมานใจดาวมั่กมาก..กกก
แต่ดาวคนนี้ไม่ขอพ่ายแพ้ต่อพลังรักของแฟนคลับในเมื่อลูกๆเทใจให้ขนาดนี้ การจัดสรรเวลาและเทคิวให้แฟนคลับแต่ละคนอย่างลงตัว จึงเป็นเรื่องที่ดิฉันให้ความสำคัญ เพื่อความสุขของครอบครัวและสันติสุขของดาว..วว (ฮ่าๆๆ)
เริ่มต้นด้วยฉากเบสิกอย่าง “ศึกชิงเก้าอี้ดนตรี” ก่อนเลยค่ะ…เชื่อว่าหลายคนคงเผชิญกันมาแล้วไม่มากก็น้อย เมื่อลูกๆแย่งนั่งเก้าอี้ติดกับดาวเด่นประจำบ้าน! ฉากนี้อาจกินเวลาแค่ห้านาที หรือ ลากยาวกลายเป็นซีนต่อเนื่องจนจบมื้อก็ได้ เรียกว่า กินไม่อร่อย กร่อยไปทั้งมื้อเลยทีเดียว…
เมื่อเจอฉากนี้บ่อยเข้า แทนที่จะปล่อยให้แฟนคลับเอาแต่ทะเลาะกันออกสื่อ ดิฉันจึงเปลี่ยนมา “สร้างกติกาง่ายๆ” แต่ได้ผลอย่างสุดซึ้ง นั่นคือ “สลับกันนั่งติดกับแม่คนละมื้อ” โดยมีหมายเหตุว่า“ แม่จะไม่จำว่าครั้งที่แล้วใครได้นั่งติดกับดาราคิวทองอย่างแม่ เพราะแฟนคลับต้องจำกันเอง นะจ๊ะๆ” นี่คือกลเม็ดเล็กๆที่ดิฉันตั้งใจฝึกให้แฟนคลับตัวน้อยรู้จักแก้ปัญหาด้วยการ “เคารพกติกา” แทนที่จะใช้อารมณ์ และเรียนรู้ว่า หากเขามีความซื่อสัตย์ต่อผู้อื่น เขาก็จะได้รับความซื่อสัตย์ตอบแทนกลับมาเหมือนกัน…ทุกวันนี้กิจกรรมกินข้าวนอกบ้านจึงพบกับความอร่อยหรรษามากขึ้น เพราะเปรมกับปริมจะเป็นฝ่ายพูดคุยและเคลียร์กันเองว่า “ครั้งที่แล้วปริมได้นั่ง ครั้งนี้ถึงตาเปรมแล้ว” ไม่ต้องให้ดารากล้ำกลืนลงไปไกล่เกลี่ยเหมือนเก่า เย้ๆๆ
กรณีต่อมาก็คือ “การเทคิวดารา” ให้ลงตัว… แม้จะทำกิจกรรมพร้อมกันทั้งครอบครัว แต่หากลูกคนใดคนหนึ่ง มีความโดดเด่นในเชิงเรียกซีน ชนิดที่อีกคนแทบไม่มีตัวตนล่ะก็คงไม่ดีแน่… พูดให้เห็นภาพก็คือ บางครั้งลูกคนหนึ่งอาจจะดื้อมาก ซนมาก จนพ่อแม่ต้องหันไปคอยห่วง คอยดุ คอยดูแล หรือ ในทางตรงกันข้าม อาจเป็นคนคุยเก่ง เล่าเรื่องตลอดเวลา จนอีกคนไม่มีโอกาสพูดอะไรสักแอะ แบบนี้คงต้องหันมาใส่ใจแฟนคลับที่แอบน้อยใจอยู่เงียบๆบ้างแล้วล่ะค่ะ
แม้เราจะบอกลูกว่า “รักลูกเท่ากัน” แต่ลูกทุกคนก็ยังอยากมี “เวลาส่วนตัว” กับพ่อแม่ เพื่อได้รับ “ความรักแบบเต็มๆ” บ้างเหมือนกัน… การจัดเวลาให้ลูกแต่ละคน ไม่ได้แปลว่า ต้องทอดทิ้งให้อีกคนจ๋อยเศร้านะคะ เทคนิคของดิฉันก็คือ หากวันไหนต้องการพาใครไปออกเดตกับแม่ อีกคนจะได้ไปทำกิจกรรมสุดหรรษากับคุณพ่อ… ครั้งหนึ่งเปรมได้ไปเที่ยวเล่นกับเพื่อนของเขาโดยมีคุณพ่อเป็นคนพาไป โปรโมชั่นนี้ทำให้เปรมไม่ลังเลเลยที่จะแยกกับแม่ในวันนั้น ส่วนปริมเองก็ได้ไปออกเดตกับแม่อย่างมีความสุข…
ในวันออกเดตกับลูกแต่ละคน ดิฉันจะทำให้ลูกรู้สึกว่า วันนี้เป็น “วันของเรา” เริ่มจากให้ลูกเลือกร้านอาหารที่ชอบ ทำกิจกรรมที่ลูกสนใจ เดินจับมือกระหนุงกระหนิงด้วยกัน… ดิฉันสัมผัสได้ถึงความสุขที่ลูกมี “อิสระ” จากการเป็น “ภาพรวม” ของครอบครัว มาเป็น “ภาพโซโล่” ที่ฉายฉานอย่างสุขใจ… ลูกจะเล่าโน่นนี่นั่นอย่างไม่รู้เบื่อ (เพราะไม่มีอีกคนคอยมาขัดคอทุกห้านาที!) กินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย และคอยเอาใจแม่อย่างไม่ต้องเขิน (เพราะไม่มีอีกคนมาคอยแซว!)เมื่อลูกได้เป็นตัวของตัวเองเต็มที่ เราจะได้รู้จักลูกในมุมอื่นที่ไม่เคยเห็นมาก่อนแล้วจะพบว่าลูกมีมุมน่ารักๆซ่อนอยู่อีกมากทีเดียวค่ะ… หลังจากใช้เวลาด้วยกันอย่างเต็มที่แล้ว ลูกมักจะมากอดแล้วบอกว่า “วันนี้มีความสุขที่สุด” แค่นี้ดาราคิวทองก็สุขใจจนแทบจะกลายเป็นดาราเจ้าน้ำตาแล้วค่ะ…
แฟนคลับ “งอน”ก็เพราะแฟนคลับ “รัก” … จัดเวลาให้แฟนคลับแสนรักสักนิด ซีนแห่งความสุขก็อยู่แค่เอื้อมค่ะ
เรื่อง : คุณโอ ชิดชนก ทองใหญ่ ณ อยุธยา
ภาพ : Shutterstock