พ่อพาลูกฝาแฝด พรากไปจากอกยาย …ด.ญ.ฝาแฝด 2 คน ถูกพ่อแท้ๆ มารับเอาตัวไป ท่ามกลางเสียงร้องไห้อย่างน่าสงสาร เพราะเด็กน้อยทั้ง 2 ไม่ยินยอมไปจากยายและป้า เนื่องจากความผูกพันที่เลี้ยงกันมาตั้งแต่แบเบาะจนอายุ 7 ขวบ
เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2560 โลกโซเชียลได้มีการแชร์โพสต์โดยผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก Eggnoid Thanapat Boonaree ซึ่งเผยให้เห็นเหตุการณ์คนกลุ่มหนึ่งกำลังรุมแย่งเด็กหญิงไปจากยาย โดยผู้ใช้งานเฟซบุ๊กดังกล่าวระบุว่า แม่ของเด็กเสียชีวิตตั้งแต่คลอด และเด็กก็อาศัยอยู่กับยายมาตลอดจนถึง 7 ขวบ แต่อยู่ดีๆ พ่อของเด็ก ก็พาตำรวจและทนายมารับตัวเด็กเข้าไปอยู่ที่กรุงเทพฯ ด้วย ซึ่งฝ่ายยายก็ต้องยินยอมให้ไป แต่เด็กกลับร้องไห้ออกมาเพราะไม่อยากไปเพราะไม่คุ้นเคยกับพ่อ ทำให้เด็กหญิงทั้ง 2 ต่างร้องไห้เสียงดังลั่นเป็นที่น่าสงสารอย่างมาก
ทั้งนี้ ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายนี้ ยังโพสต์ด้วยว่า
“อยากทราบว่าทนายมีสิทธิมาดึงกระชากเด็กขึ้นรถหรือป่าวค่ะ #ขอคำแนะนำจากท่านที่มีความรู้ด้วยค่ะ คือเด็กไม่ยินยอมที่จะไปกับทางฝ่ายพ่อเลยเพราะไม่มีความผูกพันธ์กัน ทางทนายเราก้อไม่ทราบว่าเค้าเป็นทนายจริงหรือป่าวเพราะเค้าไม่เคยแสดงหลักฐานว่าเค้าเป็นทนายให้ทางเราทราบเลย #และทนายไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้หรือคะที่จะมาเอาเด็กไปแต่คุณเป็นทนายกลับดึงกระชากเด็กไปขึ้นรถ เด็กร้องไห้แทบจะตาย แต่พวกคุณไม่สงสารเลยหรอค่ะ #ทั้งที่เหตุเกิดขึ้นที่สถานีตำรวจอุทมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษทำไมทางตำรวจจึงยืนดูเฉยๆไม่ช่วยมาไกล่เกลี่ย หรือให้มาเจรจากันใหม่แต่คุณกลับมองดูเฉยๆ ทางเราได้มอบสิทธิให้ฝ่ายพ่อโดยชอบธรรม เพราะฝ่ายพ่อเด็กบอกว่าถ้าไม่มอบสิทธิให้เค้าแสดงว่าทางเรากีดกัน แต่ทางเรายินยอมให้เด็กไปแต่ต้องไปโดยยินยอมไม่ใช่การบังคับใจ”
ชมคลิป >> เหตุการณ์ พ่อพาตัวเด็กน้อย 2 ฝาแฝดไปจากยายและป้า คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อยากทราบว่าทนายมีสิทธิมาดึงกระชากเด็กขึ้นรถหรือป่าวค่ะ #ขอคำแนะนำจากท่านที่มีความรู้ด้วยค่ะคือเด็กไม่ยินยอมที่จะไปกับทางฝ่ายพ่อเรยเพราะไม่มีความผูกพันธ์กัน ทางทนายเราก้อไม่ทราบว่าเค้าเป็นทนายจริงหรือป่าวเพราะเค้าไม่เคยแสดงหลักฐานว่าเค้าเป็นทนายให้ทางเราทราบเรย #และทนายไม่มีทางออกที่ดีกว่านี้หรือค่ะที่จะมาเอาเด็กไปแต่คุณเป็นทนายกลับดึงกระชากเด็กไปขึ้นรถ เด็กร้องไห้แทบจะตาย แต่พวกคุณไม่สงสารเรยหรอค่ะ #ทั้งที่เหตุเกิดขึ้นที่สถานีตำรวจอุทมพรพิสัยจังหวัดศรีสะเกษทำไมทางตำรวจจึงยืนดูเฉยๆไม่ช่วยมาไก่เกลี่ย หรือให้มาเจรจากันใหม่แต่คุณกลับมองดูเฉยๆ ทางเราได้มอบสิทธิให้ฝ่ายพ่อโดยชอบธรรม เพราะฝ่ายพ่อเด็กบอกว่าถ้าไม่มอบสิทธิให้เค้าแสดงว่าทางเรากีดกัน แต่ทางเรายินยอมให้เด็กไปแต่ต้องไปโดยยินยอมไม่ใช่การบังคับใจ #เหตุเกิดที่สถานีตำรวจอุทุมพรพิสัยจังหวัดศรีสะเกษ#ทางเราสู้เพื่อเด็กไม่ได้สู้เพื่อตัวเอง#ขอความเห็นใจทุกท่านด้วยนะค่ะ#ขอความช่วยเหลือด้วยค่ะ#ฝากกดไลน์กดแชร์ด้วยค่ะ#ขอบคุณค่ะ
โพสต์โดย Eggnoid Thanapat Boonaree บน 22 เมษายน 2017
อยากทราบว่าผุหญิงในภาพคนที่ดึงเด็กไว้เป็นใคร.. มีสิทธิอะไรมาดึงเด็กออกจากอกของยายที่เลี้ยงมาตั้ง 7 ปี แค่ขึ้นรถยังร้องขนาดแร้วตอนนั่งรถไปจะขนาดไหน ฝ่ายทางคนเลี้ยงดูไม่ได้ไปด้วยสักคนไม่รุ้ว่าตอนนี้หยุดร้อยหรือยัง่!!เด็กร้องขนาดนี้คนเป็นพ่อยังยืนดู ทำอะไม่ได้เรยมองดูเฉยๆ เป็นภาพที่แย่มาก#สภาพจิตใจของเด็กเป็นยังไง สงสารเด็กค่ะ#ช่วยแชร์ด้วยค่ะ#เหตุเกิดที่สถานีตำรวจอุทุมพรพิสัย จังหวัดศรีสะเกษ
โพสต์โดย Eggnoid Thanapat Boonaree บน 22 เมษายน 2017
สงสารเด็กค่ะ ดึงเด็กทั้งๆที่เด็กไม่ยินยอมจะไปเรามอบสิทธิทางกฎหมายให้ทางพ่อแร้ว คำว่าความผูกพันธ์กับเด็กยังไม่มี #เด็กยังไม่รุ้จักพ่อเรย เป็นพ่อแค่ทางกฎหมาย #ถ้าเด็กยอมไปแบบไม่ร้องไห้เราก้อพร้อมจะให้ไปแต่เด็กร้องไห้หัวอกคนดูแลและผูกพันธ์ไม่มีใครอยากให้ไป ้ป็นพ่อก้อจริงแต่คุณไม่ให้ความอบอุ่นแต่ลูกคุณกลังคุณแบบนี้เค้าเรียกว่าพ่อหรอค่ะ #พวกเราไม่อยากให้เด็กไปโดยที่พวกคุณบังคับนะค่ะ #ฝากแชร์ด้วยค่ะ#ขอบคุณทุกท่านนะค่ะที่ช่วยแชร์#ไม่ต้องห่วงคนเลี้ยงนะค่ะห่วงจิตใจเด็กด้วยค่ะ
โพสต์โดย Eggnoid Thanapat Boonaree บน 22 เมษายน 2017
ความเป็นพ่อคน!! ลูกจะตายยังจะดึงไปอีก#แชร์ด้วยค่ะกฎหมาย
โพสต์โดย Eggnoid Thanapat Boonaree บน 22 เมษายน 2017
โดยผู้เป็นป้าของน้องแฝดทั้ง 2 กล่าวว่า นับตั้งแต่แม่ หรือน้องสาวของตนได้คลอดลูกสาวฝาแฝด ก็เสียชีวิตไป ตั้งแต่ปี2553 ตน ก็ได้นำหลานฝาแฝดทั้ง 2 คนมาเลี้ยงดูตั้งแต่เกิด กับผู้เป็นยายของเด็กแฝดทั้ง 2 จนกระทั่งน้อง อายุได้ 7 ขวบและขณะนี้กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.1 ซึ่งหลานสาวทั้ง 2 คน เป็นเด็กที่น่ารัก สุภาพเรียบร้อยทำให้เป็นที่รักของตนและญาติพี่น้องทุกคนเป็นอย่างมาก
แต่ต่อมาเมื่อวันที่ 22 เม.ย.2560 ผู้เป็นพ่อของน้องทั้ง 2 ก็ได้นำตำรวจและคนที่อ้างว่าเป็นทนายความ มาที่บ้านและจะมานำเอาเด็กทั้ง 2 คนไปเลี้ยงดูทำให้ป้าและยายไม่ยินยอม เนื่องจากว่าได้เลี้ยงดูหลานทั้ง 2 คน มาตั้งแต่แบเบาะ จึงทำให้มีความรักความผูกพันหลานฝาแฝดเป็นอย่างมาก สุดท้ายพ่อของเด็กได้ให้ตำรวจมานำตนและยายพร้อมด้วยหลานสาวทั้ง 2 คนไปที่ สภ.อุทุมพรพิสัย เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าจะยินยอมให้หลานสาวฝาแฝดไปอยู่ด้วย แต่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรับไม่ได้กับการที่กลุ่มคนที่อ้างว่าเป็นทนายความกับพ่อพากันมากระชากเอาเด็กหญิงฝาแฝดทั้ง 2 คน ไปซึ่งเด็กทั้ง 2 คน จะเรียกตนซึ่งเป็นป้าว่าแม่เพราะว่ารักตนเหมือนกับแม่แท้ๆ ที่เลี้ยงดูมา
ทั้งนี้ด้าน ตร.ระบุ เหตุการณ์นี้เป็นการใช้สิทธิตามกฎหมายของผู้เป็นพ่อ ที่มารับตัวเด็กไปเลี้ยงดู และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น โดยผู้เป็นพ่อมีความยินยอมให้ทั้งยายและป้า สามารถไปดูสภาพความเป็นอยู่และไปเยี่ยมหลานสาวทั้ง 2 คน โดยไม่ได้ปิดกั้นใดๆ
ซึ่งหลังจากที่คลิปวีดีโอและเรื่องราวดังกล่าวได้ถูกแชร์ออกไป โลกโซเชียลต่างแสดงความคิดเห็นว่าสงสารเด็กมาก ๆ เข้าใจหัวอกคนเลี้ยงเห็นคลิปแล้วร้องไห้เลย และยังบอกว่าถึงแม้จะเป็นเด็ก แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะเลือกอยู่กับคนที่อยากอยู่ด้วย พร้อมต่างให้กำลังใจยายที่เลี้ยงดูเด็กน้อยมาตั้งแต่แบเบาะ ซึ่งก่อนหน้านั้นพ่อแท้ ๆ ก็ไม่เคยมาใส่ใจลูกของตัวเองเลย
***ทั้งนี้ล่าสุด พ่อของเด็กหญิงแฝดทั้ง 2 ก็ได้ชี้แจงฝากผ่านทางเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ว่า… ที่ผ่านมาพยายามจะนำลูกไปเลี้ยงตั้งแต่ภรรยาเสียชีวิต แต่ผู้เป็นยายและป้าเด็กไม่ยอม!!
อ่านต่อ >> “ฝั่งพ่อขอชี้แจง” ติดต่อขอลูกคืนมาตลอด 7 ปี พร้อมข้อกฎหมายว่าด้วยเรื่อง “ลูกเป็นสิทธิของใคร” คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ขอบคุณข้อมูลจาก : แหม่มโพธิ์ดำ
พอดีคนรู้จักของฝ่ายพ่อที่เป็นลูกเพจควีนติดต่อมา ขอให้เพจให้ความเป็นธรรมกับฝั่งพ่อที่ถูกกระแสสังคมกดดันหนัก เมื่อสักครู่ทางควีนเลยได้มีโอกาสคุยกับคุณพ่อของน้องฝาแฝดและพี่ทนายวรยุทธ บุญวงศ์ใส เรียบร้อยแล้วค่ะ
เขาแจ้งว่าที่กระแสสังคมตำหนิว่าพวกเขาหายไปเจ็ดปีไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ตั้งแต่แม่ของน้องเสียชีวิต พ่อก็พยายามขอลูกมาเลี้ยงเองตลอด แต่ทางยายก็ยื้อเพราะรักหลาน ห่วงหลาน จนเวลาล่วงเลยมาถึง 7 ปี ท้ายสุดพ่อเลยติดต่อพี่ทนายวรยุทธให้ดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งพี่ทนายก็เห็นใจยาย แต่มองว่าเพื่ออนาคตทางการศึกษาของเด็ก การไปอยู่กับพ่อน่าจะดีกว่า ยายก็ขอเวลาเพิ่มอีก 7 เดือนให้น้องจบป.1 ทางฝ่ายพ่อก็ตกลง
ซึ่งตอนนี้ถึงกำหนดแล้ว พ่อเขาเลยมารับตามนัด แต่ทางยายยังอาลัย ส่วนหลานก็รักยาย ก็ต้องร้องไห้เป็นปกติ ซึ่งพ่อยืนยันกับยายหลายครั้ง คิดถึงหลานเมื่อไหร่ก็แวะมาหาได้ มาเจอได้ตลอดไม่ได้กีดกัน แต่เขาก็รักลูกของเขาเช่นกัน อยากให้สังคมเห็นใจกันด้วยนะคะ ซึ่งวันเสาร์นี้พ่อและทนายจะออกรายการช่องคดีตีความ ช่องไทยวิชั่นค่ะ
อย่างไรก็ตามจากคำชี้แจงของฝ่ายพ่อ ที่ทางเพจ แหม่มโพธิ์ดำ ได้ เผยแพร่ออกมานั้น ก็เป็นอีกหนึ่งเสียงที่ผู้เป็นพ่อคงอยากจะบอกให้ประชาชนได้รับรู้ หลังจากที่เห็นคลิปวีดีโอ ทางฝ่ายของคุณยายและป้า ที่ได้ไปนำตัวลูกสาวฝาแฝดทั้งสองคนมาเทื่อ 3 วันก่อน
♦ กรณี “แม่ตาย” พ่อมีสิทธิในตัวลูกไหม! ยาย มีสิทธิเอาไปเลี้ยงหรือไม่?
ซึ่งเรื่องนี้ ทนายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ ได้ให้ข้อมูลคดีลักษณะนี้ไว้ว่า…
- กรณีพ่อแม่ จดทะเบียนสมรสกัน
เมื่อแม่เสียชีวิตลง พ่อก็มีสิทธิในการปกครองบุตรทันที ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1566 (1)
- กรณีพ่อแม่ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่มีจดทะเบียนการรับรองบุตร
เมื่อแม่เสียชีวิตลง พ่อก็มีสิทธิในการปกครอง
- กรณีพ่อแม่ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส และไม่ได้จดรับรองบุตร
ประเด็นนี้ละต้องมีการต่อสู้คดีกันอย่างดุเดือด ผลงานคดีก็จะดูว่าเด็กอยู่กับใครแล้วมีโอกาสมากกว่ากัน
- ส่วน ยาย หรือ แม่ของฝ่ายหญิง ถ้าจะมีโอกาสเลี้ยง
ก็ต้องอาศัยหลักเกณฑ์ตามมาตรา 1582 นั้นคือ การเพิกถอน การปกครองบุตร
1. ถ้าผู้ใช้อำนาจปกครอง (พ่อ) เป็นคนไร้ความสามารถ
2. ถ้าผู้ใช้อำนาจปกครอง (พ่อ) เป็นคนเสมือนไร้ความสามารถโดยคำสั่งของศาล
3. ถ้าผู้ใช้อำนาจปกครอง (พ่อ) ใช้อำนาจปกครอง เกี่ยวแก่ตัวผู้เยาว์โดยมิชอบ เช่น ทอดทิ้งบุตร ไม่สนใจเลี้ยงดู หรือ ไม่ให้การศึกษา เป็นต้น
4. ถ้าผู้ใช้อำนาจปกครอง (พ่อ) ใช้อำนาจปกครอง ประพฤติชั่วร้าย เช่น ถูกศาลพิพากษาลงโทษจำคุก ในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ซึ่งส่วนนี้ก็ต้องไปยื่นคำฟ้องต่อศาล แต่เอาเข้าจริงๆ ลองพูดคุยกันดีที่สุด
ขอบคุณข้อมูลกฎหมายจาก ทนายวิรัช หวังปิติพาณิชย์ www.tanaiwirat.com
ในขณะที่ ทนายประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ระบุว่าถึงแม้ว่าเด็กจะไม่เคยเจอพ่อ แต่พ่อก็มีสิทธิตาม กม.ที่จะดูแลบุตร แต่ทั้งนี้ผู้เป็นพ่ออาจมีความผิดใน มาตรา 309 ความผิดต่อเสรีภาพใด ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือ จำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียงหรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น หรือโดยใช้ กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
ทั้งนี้ทั้งนั้น เรื่องราวเล่านี้จะว่าด้วยเรื่องตัวบทกฎหมายในเรื่องสิทธิ์ของความเป็นพ่ออยู่ ก็สามารถใช้ได้ แต่ในทางด้านจิตใจแล้วไม่ว่าจะเป็นจิตใจของคุณยายคุณป้าที่เลี้ยงเด็กทั้งสองมา หรือจิตใจของน้องฝาแฝดทั้งสองที่ต้องถูกพรากไปจากอกของผู้ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิดไป ก็คงทำร้ายจิตใจมิใช่น้อยเช่นกัน แต่อย่างไรตามเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องภายในครอบครัวผู้อื่นและมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ทาง Amarin Baby & Kids ก็ได้เพียงแต่เป็นกำลังใจและเอาใจช่วยให้น้องฝาแฝดทั้งสองคนอยู่ในที่ที่ควรอยู่ และมีความสุขนะคะ
อ่านต่อบทความอื่นน่าสนใจ คลิก!
- เรียนรู้กฎหมายมรดก เพื่อทุกคนในครอบครัว
- คุณแม่ควรรู้ไว้!! ประโยชน์ของ ทะเบียนสมรส ที่คุณอาจไม่เคยรู้
- สิทธิการเลี้ยงดูบุตร เมื่อไม่ได้จดทะเบียน
- ผลระยะยาวของการแต่งงานแล้วไม่จดทะเบียน
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Eggnoid Thanapat Boonaree
ขอบคุณข่าวจาก : www.khaosod.co.th , morning-news.bectero.com , www.tnews.co.th