ทีมงาน Amarin Baby & Kids มี 5 สิทธิประโยชน์ ดีๆ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส มาฝากกัน ใครยังไม่มีคู่รีบเลย ส่วนคนมีครอบครัวแล้ว หรือกำลังวางแผนมีครอบครัว ไปดูกันเลยค่ะ ว่าจะมีข้อไหน โดนใจกันบ้าง
5 สิทธิประโยชน์ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส
- แต่งงานแล้วลดหย่อนภาษี คู่สมรส ได้
สำหรับผู้หญิงที่แต่งงาน แล้วเป็นแม่บ้านอย่างเดียว โดยที่ไม่มีรายได้เลย ต้องบอกว่า ยินดีกับคุณสามีม๊ากมากค่ะ เพราะคุณสามีสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีภรรยา ได้ถึง 60,000 บาท ซึ่งรวมกับค่า ลดหย่อนภาษีของคุณสามีเองอีก 60,000 บาท เท่ากับ ได้ค่าลดหย่อนภาษี รวมกัน 120,000 บาท
เช่นเดียวกัน ถ้าหากคุณสามีไม่มีรายได้ ภรรยาก็สามารถใช้สิทธิ หักลดหย่อนภาษีสามีได้ 60,000 บาท รวมทั้งคู่สมรสม ที่มีเงินได้จาก ดอกเบี้ยเงินฝาก หรือ เงินปันผล แต่เงินได้ก้อนนี้ภาษีหัก ณ ที่จ่ายไปแล้ว และยื่นภาษีร่วมกัน โดยไม่นำเงินได้จากดอกเบี้ย หรือ เงินปันผลมาคำนวณรวมกับเงินได้อื่น ก็ให้ถือว่า เป็นคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ ดังนั้น ก็สามารถใช้สิทธิลดหย่อนคู่สมรสที่ไม่มีรายได้ ได้เหมือนเดิม
*** ที่สำคัญมากๆ คือ คู่สามี ภรรยา ที่จะใช้สิทธินี้ได้ต้อง จดทะเบียนสมรส เท่านั้น ถ้าแต่งงานเฉยๆ โดยที่ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส จะใช้สิทธินี้ไม่ได้ค่ะ ถ้าแต่งงานแต่ไม่จดทะเบียนสมรส เมื่อเวลายื่นแบบแสดงรายการจะต้องแจ้งสถานะ โสด แต่ถ้าจดทะเบียนสมรสแล้ว แต่คู่สมรสไม่มีรายได้ ก็ต้องแจ้งว่า คู่สมรสไม่มีเงินได้ และที่สำคัญที่สุด คือ ใช้สิทธิ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส ได้สูงสุดเพียง 1 คนเท่านั้น นะคะ
อ่านต่อหน้า 2 >>> สิทธิประโยชน์ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5 สิทธิประโยชน์ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส
- พ่อแม่คู่สมรส ก็ลดหย่อนได้
เรารักพ่อแม่ตัวเองแล้ว ก็ต้องรักพ่อแม่แฟนด้วย จริงมั้ยคะ? ซึ่งถ้าพ่อแม่ของคู่สามี ภรรยา อายุ 60 ปีขึ้นไป สามารถใช้สิทธิ ลดหย่อนภาษี ได้ โดยได้สิทธิลดหย่อนภาษี พ่อแม่ของตัวเอง คนละ 30,000 บาท และถ้าอีกฝ่าย (สามี หรือ ภรรยา) ไม่มีรายได้ จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีพ่อแม่ของคู่สมรส อีกคนละ 30,000 บาทอีกด้วย
ดังนั้น สิทธิลดหย่อนภาษีพ่อแม่ สูงสุดที่ใช้สิทธิได้ คือ 4 คน รวม 120,000 บาท ถ้าเข้าเงื่อนไขครบทุกข้อต่อไปนี้…
- คู่สมรสไม่มีรายได้
- คู่สมรสเป็น “บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย” ของพ่อแม่ เพราะลูกบุญธรรมใช้สิทธิลดหย่อนไม่ได้
- พ่อแม่คู่สมรสอายุ 60 ปีขึ้นไป และอยู่ในความดูแลของเรา แต่ไม่จำเป็นต้องมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านเดียวกันก็ได้
- พ่อแม่คู่สมรส มีรายได้ทั้งปี ไม่เกิน 30,000 บาท
*** แต่ถ้าพ่อแม่แฟน มีลูกหลายคน อาจจะเกิดเหตุ ใช้สิทธิซ้ำซ้อน ได้ เพราะพ่อแม่ 1 คน ลูกจะนำไปใช้สิทธิได้ 1 สิทธิ เท่านั้น และหากมีการใช้สิทธิซ้ำซ้อนกัน เช่น พี่น้องของคู่สมรส ใช้สิทธิลดหย่อนพ่อแม่ไปแล้ว แล้วเราไปใช้สิทธิซ้ำอีก จะไม่มีใครได้สิทธิลดหย่อนเลย เพราะฉะนั้นต้องให้แฟนไปตกลงกับพี่น้อง ให้ดีก่อนว่า ใครจะเป็นคนใช้สิทธิ
- ซื้อประกันสุขภาพให้พ่อแม่คู่สมรส ก็สามารถลดหย่อนภาษี คู่สมรส ได้
ลูกๆหลายคนเลือกที่จะซื้อประกันสุขภาพ ให้ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ซึ่งบอกเลยว่า หากซื้อประกันสุขภาพให้กับพ่อแม่ ของเรา และพ่อแม่ของแฟน จะได้สิทธิลดหย่อนภาษีด้วยเช่นกัน โดยที่หักลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน 15,000 บาท (รวมทั้งพ่อแม่เรา และพ่อแม่แฟน) เงื่อนไขในการใช้สิทธิลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพพ่อแม่ของคู่สมรส จะคล้ายๆ กับสิทธิลดหย่อนพ่อแม่ เพียงแต่ไม่กำหนดอายุพ่อแม่เท่านั้น ดังนั้น ถ้าเข้าเงื่อนไขต่อไปนี้ ก็สามารถใช้สิทธิ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส ได้
- คู่สมรสไม่มีรายได้
- คู่สมรสเป็น “บุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย” ของพ่อแม่ เพราะลูกบุญธรรมใช้สิทธิลดหย่อนไม่ได้
- พ่อแม่คู่สมรสมีรายได้ทั้งปีไม่เกิน 30,000 บาท
ในกรณีที่พ่อแม่มีลูกหลายคน จำนวนเงินที่ลดหย่อนภาษีได้ จะต้องเฉลี่ยกันไปตามจำนวนลูกที่ใช้สิทธิ และรวมแล้วไม่เกิน 15,000 บาท ที่สำคัญคือ ทุกคนรวมกันไม่เกิน 15,000 บาท ไม่ใช่คนละ 30,000 บาทค่ะ
คลิกต่อ หน้า 3 >>> 5 สิทธิประโยชน์ ลดหย่อนภาษี คู่สมรส
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
- มีลูกแล้วลดหย่อนภาษีลูกได้
เมื่อแต่งงานแล้ว มีลูกน้อย จะมีสิทธิหักลดหย่อนบุตรคนละ 30,000 บาท โดยจะต้องเป็น บุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้มีเงินได้ หรือของคู่สมรส และบุตรบุญธรรมของผู้มีเงินได้ โดยมีเงื่อนไข คือ
- บุตรอายุไม่ถึง 20 ปี หรือ ยังไม่บรรลุนิติภาวะโดยการสมรส
- บุตรอายุ 20-25 ปี แต่ยังศึกษาอยู่ในมหาวิทยาลัย หรือ ระดับอุดมศึกษา
- ศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถ หรือเสมือนไร้ความสามารถ
- มีเงินได้พึงประเมินไม่เกิน 30,000 บาท และอยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูของผู้มีเงินได้
ดังนั้น ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน คุณสามีจะไม่มีสิทธิหักลดหย่อนบุตร ถ้าไม่ได้จดทะเบียนรับรองบุตร เพราะจะยังไม่ถือว่าเป็น บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง ถ้าไม่ได้จดทะเบียนสมรส คุณพ่อจะต้องไปจดทะเบียนรับรองบุตร หรือ จดทะเบียนสมรสกันในภายหลังก็ได้
ในกรณีที่เป็นบุตรบุญธรรมของผู้มีเงินได้ ก็ใช้สิทธิลดหย่อนได้ แต่ไม่เกิน 3 คน หรือรวมกันลูกแท้ๆ แล้วไม่เกิน 3 คน แต่ถ้ามีลูกแท้ๆ อยู่ 3 คนแล้วจะใช้สิทธิบุตรบุญธรรมไม่ได้อีก ถ้าเป็น บุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่อยู่ในเงื่อนไขที่กำหนดสามารถใช้สิทธิกี่คนก็ได้
นอกจากนี้ ถ้าคู่สมรสมีเงินได้ทั้งคู่ แต่แยกกันยื่นภาษี จะได้สิทธิลดหย่อนบุตรคนละ 30,000 บาท เช่น มีลูก 1 คน สามีจะได้สิทธิลดหย่อน 30,000 บาท ภรรยาก็จะได้อีก 30,000 บาท (ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะต้องแบ่งกันคนละ 15,000 บาท)
- ปีนี้เป็นต้นไป มีลูกคนที่2 ได้ลดหย่อนภาษีเพิ่ม
เมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2561 ที่ผ่านมาได้มี มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร โดยให้สิทธิลดหย่อนภาษีเพิ่มอีกคนละ 30,000 บาท สำหรับลูกคนที่ 2 เป็นต้นไป แต่ต้องเป็นลูกที่เกิดตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไปเท่านั้น (และยื่นภาษีในปี 2562)
ดังนั้น ครอบครัวที่มีลูกคนที่ 1 แล้ว ถ้าปีนี้มีลูกเพิ่ม สิทธิลดหย่อนลูกคนที่ 2 จะเพิ่มเป็น 60,000 บาท (ลูกคนที่ 1 ได้ลดหย่อน 30,000 บาท และลูกคนที่ 2 ได้ลดหย่อน 60,000 บาท) นอกจากนี้ ยังมีการอนุมัติให้ผู้มีเงินได้หรือ คู่สมรสสามารถนำ ค่าฝากครรภ์ หรือ ค่าคลอดบุตร ไปหักเป็นค่าลดหย่อนได้ ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 60,000 บาท สำหรับค่าฝากครรภ์ และค่าคลอดบุตรที่จ่ายไปตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป โดยมีเงื่อนไขว่า จะให้เฉพาะคนที่ไม่ได้มีการเบิกค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ และคลอดบุตรจากแหล่งอื่นๆ เช่น สิทธิประกันสังคม สิทธิข้าราชการ ส่วนรายละเอียดอื่นๆ ต้องรอให้ประกาศเป็นกฎหมายเสียก่อน
แหม…แค่ 5 ข้อที่นำมาฝากนี้ ก็น่าจะเป็นเหตุผลดีๆ ที่อยากให้หลายคน มาสร้างครอบครัวกัน ลดหย่อนภาษี คู่สมรสไปได้เยอะเลยล่ะค่า
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.jeban.com
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจ
พ่อแม่เฮได้! เพิ่มค่าลดหย่อนภาษี “ลูกคนที่ 2 – ค่าฝากครรภ์ – ค่าคลอด”
แม่ดีใจได้! รัฐเตรียมขยายสิทธิ ให้ลาคลอด ได้ 6 เดือน
อยากมีลูก ต้องอ่าน! 7 ข้อแพทย์แผนจีน ช่วยให้มีลูกสมใจ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่