กฎหมายข่มขืน ตอนนี้ให้ความคุ้มครองทุกคนแล้วไม่ว่าหญิงหรือชาย อ้างอิงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 276 ซึ่งได้ระบุไว้อย่างชัดเจน
เรื่องการ ข่มขืน นั้นอาจเกิดขึ้นได้ในทุกที่ทุกเวลา แถมเกิดขึ้นได้กับทุกคนอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิง ผู้ชาย เพศที่สาม เด็ก คนชรา ฯลฯ จึงได้มีการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 276 ที่ประกาศใช้ตั้งแต่กันยายน 2550 แล้ว ซึ่งข้อกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น หลายคนยังไม่ค่อยทราบกัน เพราะในข้อกฎหมายนั้นได้ครอบคลุมไปเรื่องของสามีภรรยาคู่สมรสด้วย ซึ่งนอกจากหลายคนจะเคยได้ยินมาว่า สามีข่มขืนภรรยา มีโทษ แต่ตอนนี้ภรรยาข่มขืนสามีก็มีโทษแล้วเช่นกัน ซึ่งเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้ไว้ ทาง Amarin Baby & Kids จึงขอชี้แจงแถลงไขให้กระจ่างดังนี้
กฎหมายข่มขืน สามี มีความผิด โทษสูง ทั้งจำและปรับ
ทุกคน…เป็นเหยื่อข่มขืนได้ ก่อนที่จะมีการปรับแก้กฎหมายอาญาที่ว่าด้วยเรื่องความผิดเกี่ยวกับเพศนั้น ได้มีการเรียกร้องจากองค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้านเด็ก สตรี และเพศที่สาม ซึ่งได้มีการประกาศใช้กฎหมายอาญา ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 19 โดยเป็นการแก้ไขในประเด็นเรื่องการข่มขืน ประกาศลงในหนังสือราชกิจจานุเบกษาไปเรียบร้อยเมื่อวานนี้ มีผลบังคับใช้แล้ว
ซึ่งการแก้ไขดังกล่าวนี้ ได้มีการปรับปรุงข้อความเสียใหม่ ให้สอดคล้องกับพฤติการณ์ในปัจจุบัน โดยมิได้จำกัดเรื่องของการข่มขืนไว้เพียงแค่ชายข่มขืนหญิงเท่านั้น แต่หมายถึงชายหรือหญิงก็ตาม ไปข่มขืนกระทำชำเราอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งจะเป็นชายหรือหญิงก็ได้ โดนทั้งหมด หรือแม้แต่กระทั้งภรรยาตนเองก็ตาม
พฤติการณ์ การข่มขืน ที่เปลี่ยนไป!
โดยสถาบันกฎหมายอาญา สำนักงานอัยการสูงสุดก็ได้เคยศึกษาถึงข้อบกพร่องของกฎหมายมาตรานี้ ว่าในปัจจุบัน ทั้งผู้ชาย เด็กผู้ชาย และกะเทยแปลงเพศล้วนตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศเช่นกัน แต่เขาเหล่านี้ไม่สามารถฟ้องร้องผู้กระทำผิดตามมาตรา 276 ได้ ทำได้เพียงฟ้องข้อหาอนาจารตามมาตรา 278 (มีโทษต่ำกว่าการข่มขืนมาก) สิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นที่มาของการปรับเปลี่ยนกฎหมายข้อนี้
และพฤติการณ์การข่มขืนของคนสมัยนี้เปลี่ยนไปมาก มีการข่มขืนเด็กมากขึ้น ไม่ว่าเด็กหญิง เด็กชาย หรืออย่างบางกรณีที่ภรรยาไม่พร้อมที่จะมีสัมพันธ์สวาทกับสามี ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม สามีก็มักจะบังคับให้ภรรยาร่วมประเวณีด้วยความไม่ยินยอม บางครั้งอาจจะมีการลงไม้ลงมือกัน การข่มขืนนั้นก็ไม่มีความผิด
ซึ่งจุดนี้ จึงได้มีการเสนอเรื่องเพื่อแก้ไขกฎหมายเสียใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมการกระทำความผิดได้ครบถ้วน ทันต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ และนับจากวันนี้ไป ใครก็ตาม หากไปข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง สามี ภรรยา ก็มีความผิดทั้งสิ้น
อ่านต่อ >> โทษของกฎหมายมาตรา 276 (ว่าด้วยเรื่องการข่มขืนทั้งสามีและภรรยา) คลิกหน้า 2
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก
- เรียนรู้กฎหมายมรดก เพื่อทุกคนในครอบครัว
- กรณีตัวอย่าง!! สิทธิของหัวใจ ไม่อาจชนะสิทธิทางกฎหมาย” เมียน้อย-เมียเก็บ-กิ๊ก-ชู้ ระวังโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายได้!!
- เผยคลิปวิดีโอ ชายทำอนาจาร 2 ด.ญ.วัยประถม ทำทีเป็นพูดคุย ก่อนฉวยโอกาสกอด-จูบ เด็กไหวตัวทัน วิ่งหนีออกมาได้
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
ในกฎหมายอาญามาตรา 276 เดิม ได้กำหนดให้การข่มขืนกระทำชำเรานั้นเกิดขึ้นได้เฉพาะกรณี
คือ “หญิงอื่นที่มิใช่ภริยาตน หรือเด็กหญิง” เท่านั้นที่ถือเป็นความผิดเกี่ยวกับการขมขืนกระทำชำเรา แต่กฎหมายใหม่ที่ปรับแก้นั้น ได้กำหนดให้การข่มขืนกระทำชำเรา “ผู้อื่น” รวมไปถึงผู้ชาย เด็กชาย และคู่สมรส มีความผิดอาญาด้วย ซึ่งหมายความว่า ผู้หญิงก็อาจเจอข้อหาข่มขืนผู้ชาย ข่มขืนเด็ก ข่มขืนผู้หญิงด้วยกัน ข่มขืนสามี และผู้ชายก็อาจเจอข้อหาข่มขืนผู้ชาย ข่มขืนเด็ก ข่มขืนเมียตัวเองก็ได้ทั้งนั้น
ไม่ใช่แค่กับ…อวัยวะเพศ
นอกจากนี้ เดิมนั้น การข่มขืน หมายถึง การใช้อวัยวะเพศชายกระทำกับอวัยวะเพศหญิง และล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอด ซึ่งจากคำพิพากษาฎีกาได้วางแนวไว้ว่า แม้ล่วงล้ำเข้าไปในช่องคลอดเพียงองคุลีเดียว (ความยาวหนึ่งองคุลีเท่ากับข้อปลายของนิ้วกลาง) ก็ถือว่าเป็นการข่มขืนแล้ว
แต่ข้อกฎหมายใหม่ได้นิยามความหมายของลักษณะการข่มขืนกระทำชำเราเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้มีการบัญญัติไว้แค่อวัยวะเพศ แต่เมื่อแก้ไขเพิ่มเติมใหม่ก็ได้หมายความไปถึงการกระทำกับทวารหนัก ช่องปาก หรือใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศ หรือทวารหนักผู้อื่น โดยไม่จำเป็นจะต้องใช้อวัยวะเพศของตนเองกระทำเท่านั้น
หญิงข่มขืนชาย ย่อมมีความผิดเช่นเดียวกัน….
อ้างอิงประมวลกฎหมายอาญา
มาตรา 276 “ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้ผู้อื่นนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8,000 – 40,000 บาท
ส่วนในวรรค 3 กำหนดไว้ว่าถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิงหรือกระทำกับชายในลักษณะเดียวกัน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 15 – 20 ปี และปรับตั้งแต่ 30,000 – 40,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
และวรรคสี่ มาตราเดียวกัน “ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำความผิดระหว่างคู่สมรส และคู่สมรสนั้นยังประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยา ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความประพฤติแทนการลงโทษก็ได้ ในกรณีที่ศาลมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุก และคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ประสงค์จะอยู่กินด้วยกันฉันสามีภริยาต่อไป และประสงค์จะหย่า ให้คู่สมรสฝ่ายนั้นแจ้งให้ศาลทราบ และให้ศาลแจ้งพนักงานอัยการให้ดำเนินการฟ้องหย่าให้”
กรณีของสามีและภรรยา หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีด้วยเหรอกรณีที่คู่สามีภรรยาข่มขืนกัน ในเมื่อเขาแต่งงานอยู่กินด้วยกันแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ต้องอ้างอิงข้อมูลของสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดลและมูลนิธิผู้หญิงได้เคยทำการสำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ พบว่า ผู้หญิงไทยอายุ 15-49 ปี ในเขตกรุงเทพมหานคร ที่มีหรือเคยมีคู่เคยถูกกระทำความรุนแรงทางเพศจากคู่มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 30 ซึ่งความรุนแรงทางเพศที่พบมากที่สุดในการวิจัยนี้คือ การที่ผู้หญิงต้องยอมมีเพศสัมพันธ์กับสามีหรือคู่ ถูกฝืนใจให้มีเพศสัมพันธ์ที่ผิดธรรมชาติหรือน่ารังเกียจ ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกบังคับจิตใจทางอ้อม โดยที่ผู้หญิงไม่พร้อมหรือไม่ต้องการมากกว่าใช้กำลังบังคับโดยตรง
อย่างไรก็ดีต้องยอมรับว่ารายละเอียดของข้อกฎหมายฉบับนี้คิดเผื่อไปถึงบุคคลทุกเพศทุกวัยให้ได้รับความเท่าเทียมกัน ตามเจตนารมณ์แห่งความยุติธรรมจริงๆ
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็มีบางคนอาจทักท้วงว่า การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเป็นการทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัว และส่งเสริมให้ภรรยาแจ้งความดำเนินคดีกับสามี หรือสามีแจ้งภรรยา และอาจทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมาได้ การแก้ไขกฎหมายได้คำนึงถึงเหตุในข้อนี้เช่นกัน
ดังนั้น จึงบัญญัติต่อในวรรคสุดท้ายของมาตรานี้ว่า ในกรณีความผิดระหว่างคู่สมรส (จดทะเบียนสมรสกัน) ถ้าคู่สมรสยังประสงค์ที่จะอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาต่อไป ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดเพียงใดก็ได้ หรืออาจกำหนดเงื่อนไขคุมประพฤติแทนก็ได้ ส่วนในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ลงโทษจำคุก ถ้าสามีหรือภรรยาไม่ประสงค์จะอยู่ร่วมกันต่อแล้ว ก็สามารถฟ้องหย่าได้ทันที
อ่านต่อ >> ลักษณะ 9 ความผิดเกี่ยวกับเพศ ของกฎหมายอาญาที่พ่อแม่ควรรู้ เพื่อดูแลลูกหลาน คลิกหน้า 3
อ่านต่อ “บทความน่าสนใจ” คลิก
- ถอดรหัส ประโยคขี้ฟ้องของลูก
- เด็ก 7 ขวบ ถูกข่มขืน ต้องกินยาต้านไวรัส พร้อมเล่าเหตุการณ์ผ่านภาพวาดที่สุดสะเทือนใจ
- ข่มขืน ภัยมืดของสังคม กับความเสี่ยงทั้งแม่ลูก
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : เพจ สายตรงกฏหมาย ทนาย รัชพล ศิริสาคร
, www.muslimvoicetv.com , news.mthai.com
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
กฎหมายข่มขืน กับ ลักษณะ 9 ความผิดเกี่ยวกับเพศ
มาตรา 276 (ตามที่กล่าวมาข้างต้น) *หมายเหตุอ่านมาตรา 276 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550
มาตรา 277
ผู้ใดกระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีซึ่งมิใช่ภริยาหรือสามีของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท
การกระทำชำเราตามวรรคหนึ่ง หมายความว่าการกระทำเพื่อสนองความใคร่ของผู้กระทำ โดยการใช้อวัยวะเพศของผู้กระทำกระทำกับอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือช่องปากของผู้อื่น หรือการใช้สิ่งอื่นใดกระทำกับอวัยวะเพศหรือทวารหนักของผู้อื่น
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่งหรือวรรคสามได้กระทำโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกัน อันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิงหรือกระทำกับเด็กชายในลักษณะเดียวกันและเด็กนั้นไม่ยินยอม หรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต
ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้าเป็นการกระทำโดยบุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปีกระทำ ต่อเด็กซึ่งมีอายุกว่าสิบสามปี แต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอม และภายหลังศาลอนุญาตให้ทั้งสองฝ่ายสมรสกัน ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ถ้าศาลอนุญาตให้สมรสในระหว่างที่ผู้กระทำผิดกำลังรับโทษในความผิดนั้นอยู่ ให้ศาลปล่อยผู้กระทำความผิดนั้นไป
*หมายเหตุอ่านมาตรา 277 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550
มาตรา 277 ทวิ
ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรคหนึ่ง หรือ มาตรา 277 วรรคหนึ่งหรือวรรคสาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่ สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
(2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
หมายเหตุอ่านมาตรา 277ทวิ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2550
มาตรา 277 ตรี
ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรคสาม หรือ มาตรา 277 วรรคสี่ เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
(2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต
*หมายเหตุอ่านมาตรา 277ตรี แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 20) พ.ศ.2550
มาตรา 278
ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดย ขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่า ตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*หมายเหตุอ่านมาตรา 278 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2530
มาตรา 279
ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก ผู้กระทำได้กระทำโดย ขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ใน ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดว่าตน เป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบห้าปี หรือปรับไม่เกิน สามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
*หมายเหตุอ่านมาตรา 279 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 8) พ.ศ.2530
มาตรา 280
ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 278 หรือ มาตรา 279 เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ
(1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
(2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต
มาตรา 281
การกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรคแรก และ มาตรา 278 นั้น ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการ กระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ใน มาตรา 285 เป็นความผิดอันยอมความได้
*หมายเหตุมาตรา 281 แก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 ตุลาคม พ.ศ.2514
มาตรา 282
ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคล อายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสามหมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคล อายุไม่เกินสิบห้าปีผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น รับตัวบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไปตามวรรคแรก วรรคสองหรือวรรคสาม หรือสนับสนุนใน การกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ใน วรรคแรกวรรคสอง หรือวรรคสาม แล้วแต่กรณี
*หมายเหตุอ่าน มาตรา 282 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2540
มาตรา 283
ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท
ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต
ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุไม่เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต
ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น รับตัวบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไปตามวรรคแรก วรรคสองหรือวรรคสาม หรือสนับสนุนใน การกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ใน วรรคแรกวรรคสอง หรือวรรคสาม แล้วแต่กรณี
*หมายเหตุอ่าน มาตรา 283 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2540
มาตรา 283 ทวิ
ผู้ใดพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
ถ้าการกระทำความผิดตาม วรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่ เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพา ไปตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ต้องระวาง โทษตามที่บัญญัติในวรรคแรกหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี
ความผิดตามวรรคแรกและ วรรคสามเฉพาะกรณีที่กระทำแก่บุคคลอายุ เกินสิบห้าปี เป็นความผิดอันยอมความได้
*หมายเหตุอ่าน มาตรา 283ทวิ เพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2540
มาตรา 284
ผู้ใดพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธี ข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท
ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่ง ถูกพาไปตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่น เดียวกับผู้พาไปนั้น
“ความผิดตาม มาตรานี้ เป็นความผิดอันยอมความได้”
*หมายเหตุอ่าน มาตรา 284 เพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 14) พ.ศ.2540
มาตรา 285
ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 มาตรา 277 มาตรา 277ทวิ มาตรา 277ตรี
มาตรา 278 มาตรา 279 มาตรา 280 มาตรา 282 หรือ มาตรา 283 เป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน ศิษย์ซึ่งอยู่ ในความดูแลผู้อยู่ในความควบคุม ตามหน้าที่ราชการหรือผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือในความอนุบาล ผู้กระทำต้องระวางโทษหนัก กว่าที่บัญญัติไว้ใน มาตรา นั้น ๆ หนึ่งในสาม
มาตรา 286
ผู้ใดอายุกว่าสิบหกปีดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วนจากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาทหรือจำคุกตลอดชีวิต
ผู้ใดไม่มีปัจจัยอย่างอื่นอันปรากฏสำหรับดำรงชีพ หรือไม่มีปัจจัยอันพอเพียงสำหรับดำรงชีพ
และมีพฤติการณ์อย่างหนึ่งอย่างใดต่อไปนี้ ให้ถือว่าผู้นั้นดำรงชีพอยู่จากรายได้ของผู้ซึ่งค้าประเวณี เว้นแต่จะพิสูจน์ให้เป็นที่พอใจได้ว่ามิได้เป็นเช่นนั้น
(1) อยู่ร่วมกับผู้ซึ่งค้าประเวณี หรือสมาคมกับผู้ซึ่งค้าประเวณีคนเดียวหรือหลายคนเป็นอาจิณ
(2) กินอยู่หลับนอน หรือรับเงิน หรือประโยชน์อย่างอื่น โดยผู้ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้
(3) เข้าแทรกแซงเพื่อช่วยผู้ซึ่งค้าประเวณีในการทะเลาะวิวาทกับผู้ที่คบค้ากับผู้ซึ่งค้าประเวณีนั้น
บทบัญญัติแห่งมาตรานี้มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับค่าเลี้ยงดูจากผู้ซึ่งค้าประเวณีซึ่งพึงให้ค่าเลี้ยงดูนั้น ตามกฎหมายหรือตามธรรมจรรยา
*หมายเหตุอ่านมาตรา 286 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 19) พ.ศ.2550
มาตรา 287
ผู้ใด
(1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้า ในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือ ยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก
(2) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องกับการค้าเกี่ยวกับ วัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่นวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น
(3) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามก ดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการ อันเป็นความผิดตาม มาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของ ลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ
*หมายเหตุอ่านมาตรา 287 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมปอ. (ฉบับที่ 5) พ.ศ.2525
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.kodmhai.com