ฝากครรภ์ฟรี! คลอดบุตรฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

คุณแม่หลายคนอาจจะมีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายในการฝากครรภ์ และการคลอดบุตร เพราะค่าใช้จ่ายในการดูแลลูกน้อยในครรภ์ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ไปจนถึงเวลาคลอดนั้น รวมๆ แล้วค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง Amarin Baby & Kids จึงรวบรวมข้อมูลสิทธิประโยชน์ดีๆ เรื่องการ ฝากครรภ์ฟรี และสิทธิการคลอดบุตรจากบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า และบัตรประกันสังคมมาฝาก

ฝากครรภ์ฟรี คลอดบุตรฟรี กับบัตรทอง

คุณแม่คงรู้จักกันดีกับบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า โดยคนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับการรักษาพยาบาลจากรัฐบาล สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ บัตรทอง หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค เป็นสิทธิสำหรับคุณแม่ที่มีสัญชาติไทย มีเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก และไม่ได้รับสิทธิข้าราชการ หรือประกันสังคม หรือสิทธิอื่นๆ

ล่าสุด สปสช.ได้จัดสิทธิประโยชน์บัตรทอง ปี 2560 โดยดูแลครรภ์ให้คุณแม่ต่อเนื่องอย่างน้อย 5 ครั้ง ฟรี!

ครั้งที่ 1 จำนวน 1,200 บาทต่อคน

ครั้งที่ 2 – 4 จำนวน 400 บาทต่อครั้งต่อคน

โดยครอบคลุมตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไปจนถึงลูกน้อย เพื่อให้ลูกน้อยได้มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง พร้อมทั้งป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง ภายในระยะเวลา 9 เดือนในการตั้งครรภ์ อย่างน้อย 5 ครั้ง และควรฝากครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ หรือเมื่อทราบว่ากำลังตั้งครรภ์ เพื่อที่จะได้รับบริการตรวจร่างกาย และตรวจครรภ์ ชั่งน้ำหนัก สัดส่วนสูง วัดความดันโลหิต ตรวจสุขภาพช่องปากและฟัน ตรวจภายใน วัดความสูงยอดมดลูก ตรวจปัสสาวะ ตรวจหาเชื้อแบคทีเรีย โปรตีน และน้ำตาลในปัสสาวะ ตรวจเลือด ความเข้มข้นของเม็ดเลือดแดง การคัดกรองโรค เช่น ซิฟิลิส เอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี และโรคโลหิตจางธาลัสซีเมียทั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ และสามี

ตัวอย่างบัตรสุขภาพ

อ่านต่อ “ความคุ้มครองของคุณแม่ที่ใช้บัตรทอง” คลิกหน้า 2

โดยคุณแม่จะได้รับความคุ้มครองดังต่อไปนี้

1.การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เช่น

• บริการวางแผนครอบครัว ได้แก่ การให้คำปรึกษาแก่คู่สมรส รวมทั้งบริการคุมกำเนิด
• การตรวจ และดูแลเพื่อส่งเสริมสุขภาพคุณแม่ตั้งครรภ์ ทารกแรกเกิด ภาวะโภชนาการ และพัฒนาการเด็ก
• บริการวัคซีนเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคตามแผนงานการให้ภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ
• การตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาภาวะความเสี่ยงต่อการเป็นโรค เช่น ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด เมตาบอลิซึม ภาวะซึมเศร้า ตรวจมะเร็งปากมดลูก และมะเร็งเต้านม
• การให้ยาต้านไวรัสเอดส์เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอดส์จากแม่สู่ลูก
• การตรวจสุขภาพประจำปี การตรวจสุขภาพช่องปาก การให้ฟลูออไรด์ และเคลือบหลุมร่องฟันในเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี

2.การคลอดบุตร ใช้สิทธิ์ได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง

3.บริการที่ไม่คุ้มครอง ได้แก่ การรักษาภาวะมีบุตรยาก / การผสมเทียม การปลูกถ่ายตับในเด็กอายุไม่เกิน 18 ปีที่เป็นโรคท่อน้ำดีตีบตันแต่กำเนิด

อ่านต่อ “ฝากครรภ์ฟรีคลอดบุตรฟรี กับบัตรประกันสังคม” คลิกหน้า 3

ฝากครรภ์ฟรีคลอดบุตรฟรี กับบัตรประกันสังคม

สำหรับคุณแม่ที่มีสิทธิประกันสังคม ก็สามารถได้รับความคุ้มครองบริการรักษาพยาบาลได้ตามสิทธิ โดยสามารถเข้ารับบริการได้ที่โรงพยาบาลที่คุณแม่เลือกลงทะเบียน โดยสำนักงานประกันสังคม จะทำหน้าที่ดูแลระบบการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล โดยจะมีข้อมูลการคุ้มครองดังต่อไปนี้

1.ผู้มีสิทธิต้องเป็นลูกจ้างในองค์กร หรือหน่วยงานต่างๆ หรือผู้ที่จ่ายเงินสมทบประกันสังคมด้วยตัวเองหลังจากลาออกจากงาน โดยใช้ความคุ้มครองต่อเนื่องตามมาตรา 39

2.คุณแม่สามารถเลือกโรงพยาบาลคู่สัญญาของภาครัฐได้ 156 แห่ง และเอกชน 86 แห่ง รวมถึงเครือข่ายสถานพยาบาลอีกประมาณ 2,000 แห่ง

3.การจ่ายเงินคือเหมาจ่ายเป็นรายคน ตามระบบประกันสังคม หากมีเหตุฉุกเฉินก็สามารถใช้บริการในโรงพยาบาลอื่นได้ โดยใช้สิทธิฉุกฌแนโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

หลักเกณฑ์และเงื่อนไข

• ผู้ประกันตนจ่ายเงินไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนคลอดบุตร มีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตร
• คลอดที่ใดก็ได้ จ่ายค่าคลอดบุตรให้แก่ผู้ประกันตนในอัตรา 13,000 บาทต่อการคลอดหนึ่งครั้ง
• ผู้หญิงมีสิทธิรับเงินสงเคราะห์หยุดงานเพื่อคลอดบุตรอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเวลา 90 วัน
• สำหรับการใช้สิทธิบุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร
• สามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ใช้สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรรวมกัน ไม่จำกัดจำนวนบุตร/ครั้ง

อ่านต่อ “การตรวจสอบ และขั้นตอนขอรับประโยชน์” คลิกหน้า 4

ตรวจสอบสำเนาสูติบัตรบุตรคนที่จะใช้สิทธิ

• ให้ตรวจสอบชื่อมารดาของบุตรในสูติบัตรว่าถูกต้องตรงกับชื่อ-ชื่อสกุลของผู้ประกันตนหรือไม่
• ให้ตรวจสอบชื่อบิดาของบุตรในสูติบัตรว่าถูกต้อง ตรงกับชื่อ-ชื่อสกุลของผู้ประกันหรือไม่
• ถ้าไม่ถูกต้อง สูติบัตรพิมพ์ผิดให้ผู้ประกันตนนำสูติบัตรกลับไปให้หน่วยงานออกสูติบัตรแก้ไข

ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน

• ผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส. 2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคม
• เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ
• สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา

พิจารณาสั่งจ่าย

• เงินสด/เช็ค (ผู้มีสิทธิมาขอรับด้วยตนเองหรือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นมารับแทน)
• ส่งธนาณัติให้ผู้ประกันตน
• โอนเข้าบัญชีธนาคารตามบัญชีของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน

อ่านต่อ “เอกสารประกอบการยื่น ต้องเตรียมอะไรบ้าง?” คลิกหน้า 5

เอกสารประกอบการยื่นคำขอประโยชน์ทดแทน กรณีคลอดบุตร

1. แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน สปส. 2-01 ผู้ประกันตนกรอกข้อความครบถ้วน พร้อมลงลายมือชื่อผู้ยื่นคำขอ
2. กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ ใช้สูติบัตรต้นฉบับของบุตรพร้อมสำเนา 1 ชุด (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย)
3. กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ ใช้สูติบัตรต้นฉบับของบุตรพร้อมสำเนา 1 ชุด สำเนาทะเบียนสมรส กรณีไม่ได้จดทะเบียนสมรสให้แนบหนังสือรับรองของผู้ประกันตนกรณีไม่มีทะเบียนสมรส
4. สำเนาบัตรประชาชนของผู้ประกันตน หรือบัตรอื่นที่ทางราชการออกให้

สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรก ซึ่งมีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอมี 11 ธนาคาร ดังนี้
1) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
2) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
3) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
4) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
5) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)
6) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
7) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน)
8) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
9) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด (มหาชน)
10) ธนาคารออมสิน (ไม่สามารถใช้งานได้เนื่องจากอยู่ในระหว่างการปรับปรุงโปรแกรม)
11) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) (อยู่ในระหว่างการปรับปรุงโปรแกรม)

เครดิต:สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ, สำนักงานประกันสังคม

อ่านเพิ่มเติม คลิก!!

ค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ ตั้งแต่ฝากจนถึงตอนคลอด ต้องจ่ายเท่าไร?

บัตรทองดูแลครรภ์ฟรี คลอดลูกน้อยปลอดภัย

เบิกค่าคลอดประกันสังคม พร้อมขั้นตอนการยื่น

Save

Save

Save

Save

Save

Save