ในหลายครอบครัวที่กำลังวางแผนอยากมีลูก แต่กลัวในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ ดังนั้นเพื่อให้ทุกครอบครัวคู่รักที่อยากจะมีลูกได้สามารถเตรียมตัววางแผนการเงินค่าใช้จ่ายตั้งแต่ตอนท้อง ฝากครรภ์ ไปจนถึงตอนคลอดกันกันไว้ล่วงหน้าได้อย่างสบายใจ ทีมงาน Amarin Baby & Kids มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในเรื่องนี้มาบอกให้ทราบกันค่ะ
ค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ ท้องนี้ ต้องจ่ายเท่าไร?
รู้ไหมว่าการเตรียมพร้อมในเรื่องของ ค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมีคำกล่าวที่ว่า “มีลูกหนึ่งคน จนไปสิบปี” แม้ว่าการตั้งครรภ์จะเป็นเรื่องน่ายินดี แต่ก็มีหลายบ้านที่ต้องปวดหัวกับตัวเลขในบัญชีที่ติดลบหรือสถานะการเงินที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เนื่องจากไม่ได้เตรียมเงินส่วนนี้ไว้ล่วงหน้า ดังนั้นเพื่อไม่ให้การมีลูกเป็นเรื่องที่สบายๆ ของทุกครอบครัวจึงอยากจะพาไปทำความเข้าใจกันว่า ถ้าจะตั้งครรภ์ลูกหนึ่งคนจะต้องออมเงินกันไว้เท่าไร และจะวางแผนการเงินอย่างไรให้สบายกระเป๋ากันค่ะ
1. ฝากครรภ์
เมื่อคุณเห็นสองขีดขึ้นบนที่ตรวจครรภ์เมื่อไร ก็เตรียมตัวเสียสตางค์ได้เลย เพราะเมื่อทราบว่าตั้งครรภ์ ทุกคนต้องไปหาคุณหมอและฝากครรภ์โดยเร็วที่สุด หากใครวางแผนเก็บเงินเพื่อมีลูกล่วงหน้าก็หายห่วงหน่อย แต่ใครที่ไม่ได้วางแผนไว้เลยอาจจะต้องรีบเก็บเงินกันตัวเป็นเกลียว
สำหรับค่าฝากครรภ์นั้นมีเรทราคาแตกต่างกันไป อย่างที่ทราบกันดีว่าโรงพยาบาลรัฐนั้นถูกกว่า แต่ไม่สะดวกสบายเพราะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปรอคิว ส่วนโรงพยาบาลเอกชนราคาจะสูงขึ้นตามความสะดวกสบายเช่นกัน รวมถึงคลินิกฝากพิเศษด้วย นอกจากนี้บางคนอาจมีค่าใช้จ่ายที่มากกว่าปกติ เพราะมีปัจจัยเรื่องสุขภาพหรือภาวะแทรกซ้อนที่ต้องได้รับการตรวจมากเป็นพิเศษ
เมื่อคุณแม่ฝากครรภ์ คุณหมอจะนัดตรวจครรภ์โดยเฉลี่ยประมาณ 9-12 ครั้ง (บางคนอาจมากหรือน้อยกว่า ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแม่และลูกในครรภ์) ซึ่งแต่ละครั้งมีค่าตรวจของแพทย์ ค่ายาบำรุง ค่าอัลตราซาวนด์ ค่าวัคซีน ค่าตรวจเลือด เจาะน้ำคร่ำ ตรวจพิเศษอื่นๆ เป็นต้น เพื่อให้เห็นภาพ ลองมาดูตัวอย่างกันค่ะ
โรงพยาบาลรัฐ
ค่าฝากครรภ์ครั้งแรก (รวมค่าตรวจเลือด ตรวจปัสสาวะ ค่าแพทย์ ฯลฯ) ประมาณ 1,500 บาท
ค่าตรวจครรภ์ ครั้งละประมาณ 80-300 บาท
ค่ายาตลอดการตั้งครรภ์ ประมาณ 1,000 บาท
ค่าอัลตราซาวนด์ ครั้งละประมาณ 500 บาท
ค่าวัคซีน ประมาณ 200 บาท
หมายเหตุ ราคาข้างต้นเป็นราคาโดยประมาณเท่านั้น และยังไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ กรณีที่คุณแม่มีภาวะเสี่ยงต่างๆ
โรงพยาบาลเอกชน
ส่วนมากจะเป็นแพ็คเกจเหมาจ่าย โดยครอบคลุมการตรวจทั้งหมด และแบ่งชำระเป็นงวด ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละโรงพยาบาล บางแห่งรวมการฝากครรภ์ไว้กับแพ็คเกจคลอดด้วยก็มี ส่วนค่าใช้จ่ายนั้นเริ่มต้นที่ 10,000-30,000 บาท
หมายเหตุ ราคาข้างต้นเป็นราคาโดยประมาณเท่านั้น และยังไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษอื่นๆ กรณีที่คุณแม่มีภาวะเสี่ยงต่างๆ
อ่านต่อ ค่าใช้จ่ายในการคลอด ต้องเตรียมเงินไว้เท่าไร? คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
2. คลอด
สำหรับค่าคลอด ราคาแตกต่างกันไปตามลักษณะโรงพยาบาล ซึ่งแน่นอนว่าโรงพยาบาลรัฐราคาย่อมถูกกว่าเอกชน รวมไปถึงรูปแบบการคลอดด้วย หากคลอดธรรมชาติจะราคาก็จะถูกกว่าการผ่าตัดคลอด เพราะการผ่าคลอดมีขั้นตอนที่ยุ่งยากกว่า อีกทั้งคุณแม่ต้องนอนพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานกว่า ค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้นค่ะ
สำหรับโรงพยาบาลรัฐค่าคลอดอยู่ที่ประมาณ 5,000-10,000 บาท กรณีคลอดธรรมชาติ หากผ่าคลอดราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 -25,000 บาท ราคานี้รวมค่าห้องแล้ว โดยราคาห้องมีตั้งแต่ 500-3,000 บาท สำหรับจำนวนวันที่นอนโรงพยาบาล หากคลอดธรรมชาติจะนอนโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน หากผ่าคลอดประมาณ 4-5 วัน
ส่วนโรงพยาบาลเอกชน กรณีคลอดธรรมชาติ ราคาประมาณ 30,000-50,000 บาท กรณีผ่าตัดคลอด ราคาประมาณ 60,000-100,000 บาท (ส่วนมากจะรวมค่าห้องแล้วในแพ็คเกจ) หากคลอดธรรมชาติจะนอนโรงพยาบาลประมาณ 2-3 วัน หากผ่าคลอดประมาณ 4-5 วันเช่นกัน
สิทธิประกันสังคม กรณีคลอดบุตร
หลักเกณฑ์และเงื่อนไข
- เมื่อผู้ประกันตนจ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 เดือน ภายใน 15 เดือนก่อนเดือนคลอดบุตร มีสิทธิเบิกค่าคลอดบุตรได้
- คลอดบุตรที่ใดก็ได้ ให้วินิจฉัยจ่ายค่าบริการทางการแพทย์เหมาจ่ายกรณีคลอดบุตรให้แก่ผู้ประกันตนในอัตรา 13,000 บาทต่อการคลอดบุตรหนึ่งครั้ง
- สำหรับผู้ประกันตนหญิงมีสิทธิรับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน
- สำหรับการใช้สิทธิบุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับสิทธิเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตรเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้างเฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน
หมายเหตุ : กรณีสามีและภรรยาเป็นผู้ประกันตนทั้งคู่ให้ใช้สิทธิในการเบิกค่าคลอดบุตรรวมกัน ไม่จำกัดจำนวนบุตร/ครั้ง โดยบุตรที่นำมาใช้สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรแล้วไม่สามารถนำมาขอรับค่าคลอดบุตรได้อีก[1]
Must Read >> รวม ค่าคลอด โรงพยาบาลรัฐ ปี 2560
Tips
- การเลือกใช้สิทธิเบิกค่าคลอดบุตรต่อครั้ง ให้เลือกใช้สิทธิของคุณแม่หรือของคุณพ่อคนเดียวเท่านั้น จะใช้ซ้ำกันไม่ได้
- สามารถเลือกใช้บริการโรงพยาบาลใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นโรงพยาบาลที่คุณแม่ใช้สิทธิประกันสังคม และสามารถเบิกค่าคลอดได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง
- กรณีที่คุณพ่อหรือคุณแม่ลาออก ยังสามารถใช้สิทธิจากประกันสังคมได้ภายใน 6 เดือน ซึ่งหากคลอดบุตรภายในระยะเวลาดังกล่าว ยังสามารถเบิกค่าคลอด
- สำหรับบุตรคนที่ 3 จะไม่ได้รับสิทธิค่าชดเชยค่าจ้างจากการหยุดงาน
- รายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานประกันสังคม sso.go.th หรือสายด่วน 1506
สิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง 30 บาท
ก็สามารถใช้สิทธิได้ทั้งการฝากครรภ์และคลอดบุตร โดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง และหากคุณแม่มีสิทธิบัตรทอง คุณพ่อมีสิทธิประกันสังคม สามารถใช้สิทธิของคุณพ่อเบิกค่าคลอดบุตรได้ ทั้งนี้ บัตรทองจะไม่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดจากข้อบ่งชี้ทางการแพทย์ เช่น การอัลตราซาวนด์ดูเพศบุตร เป็นต้น ที่สำคัญอย่าลืมตรวจสอบสิทธิและรายละเอียดต่างๆ ของโรงพยาบาลที่ไปเข้ารับการรักษาก่อน รายละเอียดเพิ่มเติม สำนักงานหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า http://www.nhso.go.th หรือสายด่วน 1330
สรุปแล้ว ไม่ว่าใครมีสิทธิอะไรหรือไม่ ก็อย่าลืมตรวจสอบสิทธิของตัวเองก่อนทุกครั้ง เพราะจะช่วยบรรเทาและลดภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ลงได้ไม่มากก็น้อย
อ่านต่อ ค่าใช้จ่ายหลังคลอด ต้องใช้เท่าไร? คลิกหน้า 3
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
3. หลังคลอด
หลังจากคลอดแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็ยังนอนรอคุณพ่อคุณแม่อยู่ค่ะ ทั้งค่าเสื้อผ้าลูก รวมถึงค่าข้าวของเครื่องใช้ของเด็กและผู้ใหญ่อีกจุกจิกจิปาถะ ซึ่งหลายคนมักจะลืมเผื่อเงินไว้ ทำให้ช็อตกันได้ง่ายๆ ยิ่งคุณแม่ต้องลาคลอด หยุดงานไป 3 เดือน รายได้ยิ่งหดหายกันไปใหญ่ หรือบางครอบครัว ลูกมีปัญหาสุขภาพ ไม่สามารถกินนมแม่ได้ ต้องใช้นมพิเศษอีก
Must Read >> ฝากครรภ์ฟรี! คลอดบุตรฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
แต่ถึงแม้รายได้ประจำของคุณแม่จะหายไป แต่คุณแม่ที่เป็นผู้ประกันตนของประกันสังคม จะได้รับค่าชดเชยจากการหยุดงานร้อยละ 50 เป็นเวลา 90 วัน (ฐานเงินเดือนสูงสุดไม่เกินเดือนละ 15,000 บาท) นอกจากนี้ยังได้ค่าสงเคราะห์บุตรอีกเดือนละ 400 บาทต่อบุตรหนึ่งคน ไปจนลูกอายุ 6 ขวบเลย แต่มีข้อแม้ว่าต้องส่งเงินสมทบไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือนก่อนบุตรคลอด และใช้สิทธิค่าสงเคราะห์บุตรได้ไม่เกิน 3 คน แต่ใครลืมใช้สิทธิ สำนักประกันสังคมจะโอนงินค่าสงเคราะห์บุตรย้อนหลังให้รวมไม่เกิน 1 ปี
ค่าใช้จ่ายในการตั้งครรภ์ ตั้งแต่ฝากครรภ์จนถึงตอนคลอด สรุปค่าใช้จ่าย…
ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็ยังนึกไม่ออกว่า สรุปแล้วหากจะมีลูกสัก 1 คน ค่าใช้จ่ายตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึงคลอดนั้นต้องมีในบัญชีอย่างน้อยเท่าไร หากคุณพ่อคุณแม่เลือกใช้บริการโรงพยาบาลรัฐ อาจจะต้องเตรียมเงินออมไว้อย่างน้อย 30,000-50,000 บาท หากเลือกโรงพยาบาลเอกชน ประมาณ 80,000-150,000 บาท แต่ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายต่างๆ อาจเพิ่มไปตามปัจจัยอื่นๆ ที่มีเข้ามาได้ เช่น ค่ารักษาพยาบาลกรณีป่วยฉุกเฉินหรือมีภาวะแทรกซ้อน เป็นต้น รวมถึงค่าใช้จ่ายแฝงที่เราอาจลืมคิดไป เช่น ค่ารถ ค่าน้ำมันจากบ้านมาโรงพยาบาล ค่าข้าวของเครื่องใช้สำหรับการตั้งครรภ์และหลังคลอด เป็นต้น
ดังนั้น วิธีที่ดีที่สุดคือ วางแผนการเงินและลงมือออมเสียตั้งแต่วันแรกที่แต่งงาน เพราะการมีลูกหนึ่งคน นอกจากให้ความรักความอบอุ่นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้เงินเลี้ยงดูเขาตั้งแต่วันแรกที่อยู่ในท้องไปจนเขาเรียนจบเลยล่ะค่ะ เพื่อไม่ให้ครอบครัวมีปัญหา อย่าลืมวางแผนการเงินกันนะคะ …ด้วยความใส่ใจและห่วงใย
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อบทความเรื่องอื่นที่น่าสนใจคลิก
ค่าใช้จ่ายสำหรับลูก ตั้งแต่ แรกเกิด – ป.ตรี ต้องใช้เงินเท่าไหร่? รู้หรือยัง?
ค่าใช้จ่ายในโรงพยาบาล ที่พ่อแม่ควรรู้
ฝากครรภ์ฟรี! คลอดบุตรฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสาร Amarin Baby & Kids
สำนักงานประกันสังคม. www.sso.go.th
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ. www.nhso.go.th