ร่วมหาคำตอบ เงินสงเคราะห์บุุตรย้อนหลัง ได้หรือไม่ ไขข้อข้องใจไปพร้อม ๆ กันได้ที่นี่ค่ะ
สำหรับคุณแม่ที่ยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับเงินสงเคราะห์บุตรนั้น อาจจะกำลังสงสัยกันอยู่ว่า หากยังไม่ได้ยื่นเรื่องขอรับเงินดังกล่าวสามารถทำได้หรือไม วันนี้ทีมงาน Amarin Baby and Kids จะขอยกตัวอย่างคำถามของคุณแม่ท่านนึง พร้อมกับคำตอบที่จะมาช่วยไขข้อข้องใจของคุณแม่ทุกคนกันค่ะ
แต่ก่อนที่เราจะไปดูคำถามและคำตอบนั้น เรามาทำความรู้จักกับ เงินสงเคราะห์บุตรกันก่อนดีกว่านะคะ
ทำความรู้จักกับเงินสงเคราะห์บุตร
เงินสงเคราะห์บุตรคือเงินที่รัฐบาลได้จัดเตรียมไว้ให้กับคุณแม่เพื่อเป็นลดเบาภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละเดือน ซึ่งคุณสมบัตรของคุณแม่ที่จะสามารถได้รับเงินนั้น จะต้องมีหลักเกณฑ์และเงื่อนไขดังนี้
1.ต้องเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 หรือ มาตรา 39
2.จ่ายเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 12 เดือน ภายในระยะเวลา 36 เดือน ก่อนเดือนที่มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทน สิทธิที่ท่านจะได้รับเงินสงเคราะห์บุตรเหมาจ่ายเดือนละ 600 บาทต่อบุตรหนึ่งคน
3.ต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ยกเว้น บุตรบุญธรรมหรือบุตรซึ่งยกให้เป็นบุตรบุญธรรมของบุคคลอื่น
4.อายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จำนวนคราวละไม่เกิน 3 คน เว้นแต่ผู้ประกันตนเป็นผู้ทุพพลภาพหรือถึงแก่ความตาย ในขณะที่บุตรมีอายุแรกเกิดจนถึง 6 ปีบริบูรณ์ จะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนต่อจนอายุ 6 ปีบริบูรณ์
การหมดสิทธิรับเงินกรณีสงเคราะห์บุตร
– เมื่อบุตรมีอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์
– บุตรเสียชีวิต
– ยกบุตรให้เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่น
– ความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
หลักฐานการยื่นขอรับเงินสงเคราะห์บุตรจะมีอะไรบ้าง คลิก>>
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอ
1.แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01)
2.กรณีผู้ประกันตนเคยยื่นใช้สิทธิแล้วและประสงค์จะใช้สิทธิสำหรับบุตรคนเดิม ให้ใช้หนังสือขอใช้สิทธิบุตรคนเดิมกรณีกลับเข้าเป็นผู้ประกันตน จำนวน 1 ฉบับ
3.กรณีผู้ประกันตนหญิงใช้สิทธิ ให้เตรียม สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วย) จำนวน 1 ชุด
4.กรณีผู้ประกันตนชายใช้สิทธิ ให้เตรียม
-สำเนาทะเบียนสมรส หรือสำเนาทะเบียนหย่าพร้อมบันทึกแนบท้ายของผู้ประกันตนหรือสำเนาทะเบียนรับรองบุตร หรือสำเนาคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย จำนวน 1 ชุด
-สำเนาสูติบัตรบุตร (กรณีคลอดบุตรแฝดให้แนบสำเนาสูติบัตรของคู่แฝดด้วยจำนวน 1 ชุด)
5.กรณีเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้แนบสำเนาเอกสารใบเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลด้วย จำนวน 1 ชุด
6. กรณีผู้ประกันตนต่างชาติขอรับประโยชน์ทดแทนให้ใช้สำเนาบัตรประกันสังคมและสำเนาหนังสือเดือนทาง หรือสำเนาหนังสือเดินทางชั่วคราวหรือเอกสารรับรองบุคคลที่ทางราชการออกให้ จำนวน 1 ชุด
7.สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ยื่นคำขอ จำนวน 1 ฉบับ ผ่านทางบัญชีธนาคารของผู้ประกันตน 11 ธนาคาร ดังนี้
1) ธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)
2) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด(มหาชน)
3) ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน)
4) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
5) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)
6) ธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน)
7) ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน)
8) ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
9) ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย จำกัด(มหาชน)
10) ธนาคารออมสิน
11) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรห์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
8.เอกสารประกอบการยื่นคำขอฯ ที่เป็นสำเนาให้รับรองความถูกต้องของสำเนาทุกฉบับ และแสดงเอกสารที่เป็นต้นฉบับเมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบ กรณีเอกสารหลักฐานสำคัญต่อการพิจารณาเป็นภาษาต่างประเทศให้จัดทำคำแปลเป็นภาษาไทยและรับรองความถูกต้องให้ครบถ้วน
จะยื่นคำขอ มีขั้นตอนอะไรบ้าง อ่านต่อได้ที่หน้าถัดไปค่ะ >>
ขั้นตอนการขอรับประโยชน์ทดแทน
1. ผู้ประกันตนต้องกรอกแบบ สปส.2-01 พร้อมลงลายมือชื่อและนำมายื่นที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา หรือยื่นขอรับทางไปรษณีย์โดยมีหลักฐานครบถ้วน (กรณีผู้ประกันตนยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรสำหรับบุตร 3 คน ในคราวเดียวกันสามารถใช้แบบคำขอฯ ชุดเดียวกันได้)
2. เจ้าหน้าที่ตรวจหลักฐานและพิจารณาอนุมัติ
3. สำนักงานประกันสังคมมีหนังสือแจ้งผลการพิจารณา
4. พิจารณาสั่งจ่าย จ่ายเป็นรายเดือนโดยโอนเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ของผู้ขอรับประโยชน์ทดแทน
โดยที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำการยื่นเรื่องได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขา ที่สะดวก (ยกเว้นสำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) นะคะ
สำหรับคำถามที่คุณแม่สงสัยกันนั้นว่า หากลูกคลอดมาได้สักพักแล้ว แต่ยังไม่ได้ไปยื่นเรื่องนั้น สามารถทำย้อนหลังได้หรือ คำตอบก็คือ
สามารถทำได้ค่ะ หากมีการนำส่งเงินสมทบครบ 12 เดือน ภายใน 36 เดือนก่อนบุตรคลอด จึงจะมีการย้อนหลังให้ไม่เกิน 1 ปี ตามที่กฎหมายกำหนด ยกเว้น กรณีผู้ประกันตนมิได้นำส่งเงินสมทบตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ทางสำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินให้ผู้ประกันตน ณ วันที่สิทธิเกิดขึ้นเท่านั้น
เครดิต: ประกันสังคม
อ่านต่อเรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
- เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด กับ เงินสงเคราะห์บุตร ต่างกันอย่างไร?
- มีลูกคนที่ 2 เป็นต้นไปได้ ค่าลดหย่อนบุตร เพิ่มจากเดิมเป็น 30,000 บาท
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่