เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวส่งเสริม โครงการสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ ด้วยวิตามินแสนวิเศษ เพื่อเพิ่มจำนวนการเกิด ทดแทนจำนวนประชากร โดยส่งเสริมให้เกิดในผู้หญิง 20-34 ปี ที่มีความพร้อม
โครงการสาวไทยแก้มแดง มีลูกเพื่อชาติ
นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะเน้น 3 เรื่อง คือ
1.เพิ่มจำนวนการเกิด เพื่อทดแทนจำนวนประชากร โดยส่งเสริมการเกิดในผู้หญิง อายุ 20-34 ปี ที่มีความพร้อม และตั้งใจที่จะมีลูก
2.ต้องมีความพร้อม มีการวางแผน และได้รับความช่วยเหลือในการมีบุตร
3.ทารกเกิดมาอย่างแข็งแรง พร้อมเติบโตมาอย่างมีคุณภาพ โดยส่งเสริมให้ลูกเกิดรอด แม่ปลอดภัย ได้รับการดูแลหลังคลอดที่ดี
โดยจะมีการดำเนินงาน เช่น พัฒนาระบบบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ตั้งแต่ก่อนแต่งงาน ก่อนมีลูก ตั้งครรภ์ และหลังคลอด รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์ให้คนไทยมีลูก ปรับปรุงแก้ไขสิทธิลาคลอด เพื่อส่งเสริมการเลี้ยงดูลูก และภาษีช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดูแลลูก เป็นต้น
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ขณะนี้ผู้หญิงไทยแต่งงานน้อยลง และช้าลง และนิยมอยู่เป็นโสดมากขึ้น เนื่องจากมีการศึกษาที่สูงขึ้น ทำให้อัตราการเกิดน้อยลง 2.7% ในปี 2513 และลดลงเหลือ 0.4% ในปี 2558 ถ้าไม่มีการดำเนินการใดๆ ภายใน 10 ปี จะมีอัตราการเกิด 0%
กระทรวงสาธารณสุขจึงจัดกิจกรรมเสริมธาตุเหล็ก และโฟลิก หรือวิตามินแสนวิเศษ ให้ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 20-34 ปีทุกคน ที่พร้อมหรือตั้งใจว่าจะมีลูก โดยราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ ระบุว่า ช่วงเวลาทองของการมีลูกคือช่วงอายุ 24-29 ปี
โดยแพทย์แนะนำให้รับประทานสัปดาห์ละ 1 ครั้ง อย่างน้อย 3 เดือนก่อนตั้งครรภ์ จะช่วยลดภาวะพิการแต่กำเนิดของลูกน้อยลงได้ ซึ่งในวันที่ 14 กุมภาพันธ์นี้ จะมีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสจำนวนมาก จึงมีการแจกกล่องวิตามินแสนวิเศษ “สาวไทยแก้มแดงพัฒนาสมองและการเรียนรู้ด้วยเหล็กและโฟลิก” พร้อมแผ่นพับความรู้ให้กับคู่รักที่มาจดทะเบียนทั่วประเทศ สำหรับว่าที่คุณพ่อ คุณแม่ที่วางแผนจะมีลูกอยู่แล้ว ก็สามารถไปขอรับวิตามินได้ที่สถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “รายการยาที่ควรได้รับกับปัญหาเด็กด้อยคุณภาพ” คลิกหน้า 2
รายการยาที่ควรได้รับ
1.ยาน้ำแขวนตะกอนธาตุเหล็กสำหรับเด็ก รับประทานสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ป้องกันภาวะโลหิตจางในเด็กปฐมวัย
2.ยาเม็ดวิตามินรวมเหล็ก ไอโอดีน และโฟลิก รับประทานทุกวันตลอดการตั้งครรภ์
3.ยาเม็ดวิตามินรวมเหล็ก และโฟลิก สำหรับผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า การส่งเสริมสุขภาพผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ที่จะให้กำเนิดเด็กไทยรุ่นต่อไป มีความจำเป็นจะต้องเตรียมความพร้อม ทั้งด้านสุขภาพ ครอบครัว เศรษฐกิจ และสังคม สสส.จึงส่งเสริมให้รับประทานผัก และออกกำลังกายให้เหมาะสม รวมถึงรับวัคซีน และอาหารเสริมโดยเฉพาะโฟเลต และธาตุเหล็ก ตลอดจนการเตรียมตัวก่อนแต่งงาน เพื่อป้องกันอัตราการเสียชีวิตของคุณแม่ตั้งครรภ์
ซึ่งในปี 2558 พบว่ามีคุณแม่ 20 ต่อ 1 แสนคนเสียชีวิต สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการตกเลือดหลังคลอด ซึ่งปัญหาที่พบ มีดังนี้
1.คุณแม่ตั้งครรภ์มีภาวะโลหิตจาง เพราะขาดธาตุเหล็ก 39%
2.คุณแม่ตั้งครรภ์ คลอดทารกก่อนกำหนด 10.4%
3.ทารกเสียชีวิตจากภาวะพิการ 7%
4.อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนมีเพียง 23.9% เท่านั้น
5.มีเด็กปฐมวัยขาดสารอาหาร 16.8%
6.มีเด็กพัฒนาการไม่สมวัย 27.3%
7.ผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์ อายุ 15 ปีขึ้นไป มีภาวะโลหิตจาง 29.8%
ปัญหาทั้งหมดนี้ทำให้ประเทศไทยเผชิญกับปัญหา “เด็กเกิดน้อย ด้อยคุณภาพ”
นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันอัตราการเกิดของไทยลดลงอยู่ประมาณ 7 แสนคนต่อปี ในขณะที่อัตราการเสียชีวิตอยู่ที่ 3-4 แสนคนต่อปี ถ้าไม่เพิ่มการเกิด จะทำให้อัตราการเกิดกับอัตราการเสียชีวิตเท่ากัน เมื่อคำนวณแล้ว 1 ครอบครัว ควรมีลูกอย่างน้อย 2 คน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
อ่านต่อ “ส่งเสริมให้มีลูกสวนทางวัยรุ่นมีลูกวันละ 286 คน” คลิกหน้า 3
ส่งเสริมให้มีลูกสวนทางวัยรุ่นมีลูกวันละ 286 คน
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยข้อมูลว่า ในปี 2558 มีเด็กวัยรุ่นอายุ 10-19 ปี คลอดลูก 104,289 คน เฉลี่ยวันละ 286 คน รวมไปถึงมีปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ภาวะแทรกซ้อนจากการทำแท้ง เด็กถูกทิ้ง และเด็กด้อยคุณภาพมาจากการท้องไม่พร้อม
โดยในปีนี้ สสส. ตั้งเป้าลดอัตราการท้องไม่พร้อมลง 50% ภายในปี 2569 โดยเน้น 3 เรื่องคือ
1.เข้าใจวัยรุ่น เข้าใจคนทำงานร่วมกัน
2.เข้าถึงใจวัยรุ่น เพื่อให้วัยรุ่นเข้าใจเรา
3.สามารถเป็นที่พึ่งให้วัยรุ่นได้
“ผมคิดว่าเป็นการดีที่ทำให้วัยรุ่นทราบถึงวิธีป้องกันเรื่องเพศ ทั้งไม่ต้องตั้งครรภ์ในวัยรุ่น และไม่เสี่ยงติดโรคทางเพศสัมพันธ์อีก เพราะยุคนี้หากเราไม่ให้ข้อมูลเขา พวกเขาสามารถหาข้อมูลข่าวสารผ่านโซเชียล อินเทอร์เน็ตอยู่ดี” นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร กล่าว
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติล่าสุด (6 มกราคม 2560) ประเทศไทยมีประชากร 65.7 ล้านคน เป็นประชากรที่มีงานทำ 37.3 ล้านคน และประชากรที่ไม่พร้อมทำงานอีก 17.9 ล้านคน
ถ้าจำนวนประชากรวัยทำงานในอนาคต ลดน้อยลงกว่าปัจจุบัน จะกลายเป็นปัญหาใหญ่ทันที เพราะสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ สภาพสังคมแบบนี้ ไม่เอื้ออำนวยให้คนไทยอยากมีลูก เพราะห่วงอนาคตลูก ซึ่งจะอยู่กันอย่างยากลำบากยิ่งกว่ารุ่นเรา แค่มีลูกเพียงคนเดียวก็เหนื่อยแล้ว ถ้ามีลูกอีก 1 คน คงลำบากยิ่งกว่านี้
เครดิต: ข่าวสด, VoiceTV, กระปุก, ไทยโพสต์, ไทยรัฐ
อ่านเพิ่มเติม คลิก!!
วางแผนมีลูก กับ 10 เรื่องที่ต้องเจอ
วิธีเพิ่มสเปิร์ม สำหรับคุณพ่อคุณแม่วางแผนมีลูก
รังสีจากมือถือ ลดคุณภาพอสุจิของคุณพ่อ
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
Save