AMARIN Baby And Kids – เพื่อลูกฉลาดและมีความสุข

“ลูกซน” คือ “เด็กฉลาด” จริงหรือ?

เมื่อ ลูกซน จน ลูกหัวติดรั้ว ทำให้คุณพ่อพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเอาหัวลูกออกมา ซึ่งก็ไม่สำเร็จ แต่สุดท้ายเจ้าหนูใช้ปฏิภาณไหวพริบได้อย่างน่ารักน่าชัง จะด้วยวิธีไหน มาชมคลิปกันค่ะ

ขึ้นชื่อว่า “เด็ก” กับ “ความซน” เป็นของคู่กันอยู่แล้ว และด้วยความอยากรู้ อยากลอง ก็อาจทำให้บางครั้งก็ส่งผลกับตัวลูกน้อยเอง ซึ่งก็เกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดขึ้นมาได้ ดังที่คุณพ่อคุณแม่จะเห็นอยู่ในข่าวบ่อยๆ

ลูกซน คือธรรมชาติของเด็ก

ลูกน้อยในวัย 3-5 ขวบ เป็นวัยเซย์โน เด็กวัยนี้จะพยายามเป็นตัวของตัวเอง เริ่มมีความคิด และการแสดงออกตามความต้องการขอตัวเองมากขึ้น

ทั้งนี้ ดร.วรนาท รักสกุลไทย หรือ “ครูป้าหนู” นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาเด็กปฐมวัย และนักจิตวิทยาด้านการพัฒนาศักยภาพเด็ก ให้ความเห็นว่า… เรื่องลูกซนเป็นเรื่องธรรมชาติ เด็กซนไม่น่ากลัว หากเด็กไม่ซน ไม่ดื้อ ไม่พูดนี่น่ากลัวกว่า เพียงแต่ซนก็ต้องมีขอบเขต ไม่ใช่เห็นอะไรแล้วรื้อ อยากจะหยิบของโดยไม่ขออนุญาตผู้ใหญ่ก็ทำ พ่อแม่จึงควรคุยกับเด็กให้รู้ว่า พวกเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง ส่วนอะไรที่ทำไม่ได้ ไม่ควรทำ พ่อแม่ก็ต้องให้เหตุผลกับเขา ต้องเปลี่ยนความซนของลูกให้เป็นพลังทางบวก เปลี่ยนให้เขาเป็นคนที่อยากรู้ แล้วพ่อแม่ก็ทดลองเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กัน

…เช่นเดียวกับเด็กน้อยคนนี้ ที่มีชื่อว่า โจอี้ ที่กำลังอยู่ในซน และไม่รู้ว่าไปเล่นทำอีท่าไหน หัวถึงได้เข้าไปติดกับลูกรงเหล็กหน้าบ้าน ซึ่งทำอย่างไรเจ้าหนูก็ไม่สามารถเอาหัวออกมาได้

ด้านคุณพ่อก็กังวลใจเป็นอย่างมาก และพยายามเข้ามาช่วยโดยใช้มือและเท้าเพื่อจะง้างออก แต่เจ้าหนูโจอี้ ก็ยังไม่สามารถเอาหัวตัวเองออกมาจากลูกกรงไม่ได้สักที (แถมคุณแม่ผู้ถ่ายคลิปยังขำอีกด้วย)

แต่สุดท้าย… เจ้าหนูโจอี้ ก็สามารถเอาหัวออกมาได้ด้วยตัวเอง ด้วยวิธีที่คาดไม่ถึง!!! และยังไม่ทำให้เจ็บปวดเลยสักนิด จะทำวิธีใดนั้นตามมาดูคลิปกันเลย…

คลิกชมคลิป “เจ้าหนูเล่นซน หัวติดรั้วราวบันได สุดท้ายใช้ไหวพริบพาตัวเองรอดออกมาได้” คลิกหน้า 2

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

วิธีแก้ปัญหาเมื่อ ลูกซน เล่นจนหัวติดรั้วลูกกรง

ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ร้ายเล็กน้อยหรือใหญ่โตใด จากการที่ลูกซน หรือไปวิ่งเล่นจนหัวติดรั้วลูกกรง *สิ่งสำคัญ คือ ให้คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็น ๆ อย่าพยายามดึงหรือจับศีรษะลูก วิธีง่ายๆ เลย คือ ต้องให้ลูกตะแคงตัวเพื่อลอดช่องลูกกรงออกมา เพียงเท่านี้ก็จะช่วยทำให้ลูกหลุดออกมาจากลูกกรงได้

เพราะลักษณะของคนเราทั่วไป บริเวณโครงกระดูกด้านข้างจะไม่ใหญ่ไปกว่ากระดูกส่วนหัวแน่นอน ซึ่งถึงแม้บางคนอาจมีบริเวณก้นที่ดูใหญ่ แต่นั้นก็เพราะมีเนื้อและไขมันอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นก็สามารถยืดหยุ่นได้ จึงทำให้วิธี แก้ปัญหาเมื่อลูกซน เล่นจนหัวติดรั้วลูกกรง ที่กล่าวมาข้างต้นใช้ได้ผลนั่นเอง

คลิป วิธีแก้ เมื่อ ลูกซน จนหัวติดรั้วราวบันได


ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : game symbol channel

แต่ทางที่ดีแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่มีเจ้าตัวน้อยวัยซนอยู่ในบ้าน ก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกเล่นคนเดียว เพราะอันตรายที่ไม่คาดคิดอาจอยู่ใกล้ตัว และสามารถเกิดขึ้นได้เสมอนะคะ ด้วยความปรารถนาดีจาก แม่น้องฮันน่าห์ เว็บไซต์ Amarin Baby & Kids #แก๊งแม่abk

 

อ่านต่อ >> “ผลวิจัยชี้ เด็กซนคือเด็กฉลาดจริงหรือ?” คลิกหน้า 3

เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่

Amarin Baby & Kids

 

ว่ากันว่า เด็กซน คือ เด็กฉลาด จริงหรือ?

อย่างไรก็ตามแม่น้องฮันน่าเชื่อว่า มีคุณพ่อคุณแม่หลายคนที่มีลูกน้อยอยู่ในวัยซุกซน คงทำเอาเหนื่อยอกเหนื่อยใจกันน่าดู เพราะลูกซนแต่ละอย่าง ทั้งเลอะเทอะ เละเทะ ทำเอาคุณแม้อยากจะกรี๊ดสลบวันละหลายๆ ตลบ แต่ก่อนจะสลบไปนั้น เรามีข่าวดีมาบอกค่ะ นักวิจัยเขาค้นพบว่า การที่เด็กเล็กมีนิสัยซุกซน ถือเป็นเรื่องดี เพราะยิ่งซนมากก็ยิ่งเรียนรู้ได้ดีกว่า

ผลการศึกษาของดอกเตอร์ลาริสซา ซามูเอลสัน และ ลินน์ เพอร์รี่ 2 ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยา จากมหาวิทยาลัยไอโอวา ที่ได้รับการเผยแพร่ในวารสาร Developmental Science ภายใต้หัวข้อ Highchair Philosophers หรือ นักปราชญ์บนเก้าอี้เด็ก เผยว่า…

เด็กซุกซนกว่ามีการเรียนรู้ได้ดีกว่าจริง ๆ 

ซึ่งทั้งคู่ได้ทำการทดลองความฉลาดเฉลียวของเด็กซุกซน จากเด็กวัย 16 เดือนทั้งหมด 72 คน โดยเด็ก ๆ เหล่านี้ถูกแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ

โดยเด็กแต่ละคนจะได้รับวัตถุที่ไม่แข็ง (แน่นอนว่าไม่อันตรายกับเด็กด้วย) จำนวน 14 รายการ เช่น แยมสตรอว์เบอร์รี ซอสบัตเตอร์สก็อต ซอสช็อกโกแลต ชีส ข้าวโอ๊ต เป็นต้น และ เด็ก ๆ จะได้รับการบอกชื่อของของแต่ละอย่าง โดยเป็นชื่อสมมุติที่ตั้งขึ้นมาเพื่อให้เด็กเรียกได้ง่าย เช่น แทนชื่อแยมสตรอว์เบอร์รีว่า “อิ๊ก”, แทนชื่อชีสว่า “ก้า” เป็นต้น

จากนั้นจึงปล่อยให้เด็ก ๆ ทำอะไรกับวัตถุเหล่านั้นก็ได้ตามใจภายในเวลาที่กำหนด ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะกลับมาใหม่พร้อมกับ ตัวอย่าง 14 รายการเหมือนข้างต้น แล้วให้เด็ก ๆ แต่ละคน บอกชื่อของที่พวกเขานำมาว่าคืออะไรบ้าง

ผลวิจัยชี้ ลูกซน คือเด็กฉลาด

จากการทดลองปรากฏว่า เด็ก ๆ ที่มีพฤติกรรมแบบฉบับเด็กซุกซนช่างป่วน ที่จะทั้งจิ้ม บีบ ขยำ ละเลง เอามาชิม ปาของลงกับพื้น หรืออื่น ๆ สามารถระบุชื่อของวัตถุตัวอย่างได้ถูกต้องถึง 70%  >> เมื่อเทียบกับเด็กที่ทำแค่เอานิ้วจิ้ม ๆ แล้วก็เลิกสนใจ ที่ตอบได้ถูกอยู่ที่ 50% เท่านั้น!!

นอกจากนี้ยังพบอีกว่า…

การได้นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงสำหรับเด็กมีส่วนช่วยให้เด็ก ๆ ตอบได้ถูกต้องมากกว่าเด็กที่นั่งบนชุดโต๊ะเก้าอี้ธรรมดาด้วย เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า… เก้าอี้เด็กนั้นเป็นโต๊ะอาหารสำหรับเด็กเล็กไปในตัว และพฤติกรรมการเรียนรู้ของเด็กวัยนี้บ่อยครั้งก็เกิดขึ้นยามรับประทานอาหาร ที่เด็ก ๆ ชอบที่จะเล่นกับอาหารในถาดตรงหน้าพวกเขาด้วยการจิ้ม บีบ คลำ นำเข้าปาก หรือว่าเอาอาหารมาขว้างปาเลอะเทอะ

ซึ่งนั่นเป็นพฤติกรรมการเรียนรู้นั่นเอง!!! เมื่อได้ถูกนำมาวัดความสามารถในการเรียนรู้ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยเช่นนี้ เด็กกลุ่มนี้จึงมีแนวโน้มทำได้ดีกว่า

เห็นผลการวิจัย ลูกซน คือ เด็กฉลาด ออกมาแบบนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ที่มีตัวน้อยในวัยแสบซน ก็คงจะหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง เพราะความแสบแบบนี้ ก็คือตัวบ่งบอกว่าเขามีแนวโน้มจะโตไปเป็นเด็กฉลาดเฉลียวดีทีเดียว ทั้งนี้สิ่งสำคัญส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับการปลูกฝังเลี้ยงดู และส่งเสริมของคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ

อ่านต่อ “บทความดี ๆ น่าสนใจ” คลิก!


ขอบคุณข้อมูลจาก: baby.kapook.com