[Blogger พ่อเอก-45] ปูนปั้น ในวันที่เป็นเจ้าหนูจำไม - Amarin Baby & Kids
blog ครอบครัว

[Blogger พ่อเอก-45] ปูนปั้น ในวันที่เป็นเจ้าหนูจำไม

Alternative Textaccount_circle
event
blog ครอบครัว
blog ครอบครัว

ปูนปั้นเป็นเด็กที่พูดเก่งมาก พูดเยอะ พูดไม่หยุด และด้วยความที่เราสื่อสารกับเขา 3 ภาษา ทำให้ปูนปั้นยิ่งสามารถพูดเล่าเรื่องราวบางเรื่องได้เป็น 3 เท่า (แค่นึกก็เหนื่อยแล้ว!!) เจอของจริงเหนื่อยกว่าทึคุณผู้อ่านกำลังนึกอีกครับ

ถ้าคุณพ่อ คุณแม่มีลูกที่พูดเก่ง และกำลังรู้สึกเหนื่อย ผมขอแนะนำว่านั่นน่าจะเป็นความเหนื่อยที่น่าดีใจกว่าครอบครัวที่กังวลว่าลูกไม่พูดหรือพูดน้อย เยอะเลยฮะ

เด็กพูดเก่งก็มักจะมากับคำถาม และคำถามของเด็กๆ เนี่ยะ หลายๆ คำถาม มันทั้งขำ ทั้งน่ารัก และผมเองชอบจดคำถาม ขำขำ ของเจ้าปูนปั้นไว้ โดยคิดไว้ว่าเมื่อเขาโตขึ้นจะได้เอามาเล่าให้เขาฟังว่าตอนเด็กๆ เขาถามอะไรให้ปะป๊าและหม่าม๊าปวดหัวบ้าง เช่น

 

ปลามีนมมั้ย?? : คำถามนี้เกิดขึ้นตอนที่เราไปเที่ยวเขาใหญ่แล้วเราก็พาเขาไปยืนริมน้ำ แล้วเห็นปลาตัวเล็กๆ ว่ายไปมา จู่ๆ คำถามนั้นก็พรวดออกมา จากนั้นเมื่อตอบกันเสร็จก็จะมีคำถามต่อเนื่องมาว่า ‘แล้วปลากินอะไร?’ ยังไม่ทันจะได้ตอบ เจ้าปูนปั้นก็ตอบให้เราได้อมยิ้มอีกรอบ ‘ปลากินน้ำไง’

 

ชุดคำถามเกี่ยวกับ “นมเต้า” :  อีกหนึ่งคำถามยอดฮิตของปูนปั้นในซีรี่ส์นมเต้า คือ ปะป๊ามีนมเต้ามั้ย / รถยนต์มีนมเต้ามั้ย / ทุกสิ่งในโลกสามารถทำให้ปูนปั้นสงสัยได้ว่ามีนมเต้ามั้ย เพราะถ้ามีมีจะโตมาได้ยังไง ก็ปูนปั้นโตมาได้ด้วยนมเต้าเห็นๆ

 

Lion King มีจุ๊ดจู๋มั้ย?? : ในขณะที่นั่งดูไลอ้อนคิงส์พร้อมปะป๊าและหม่าม๊าเจ้าปูนปั้นก็นึกขึ้นมาได้ว่า ไลอ้อนคิงส์ไม่ใส่เสื้อ แล้วก็สงสัยขึ้นมาทันทีว่า ไลอ้อนคิงส์มีจุ๊ดจู๋เหมือนปูนปั้นมั้ย

 

อันนั้นใช่คอนโดมั้ย?? : หลังจากครั้งหนึ่งที่เราเคยชี้เครนที่ทำงานบนตึกสูงให้เขาได้รู้ว่า นั่นเรียกว่า คอนโดมีเนียม หลังจากนั้น บนท้องถนนจะเต็มไปด้วยคงวามน่าสนใจ พร้อมคำถามที่เราต้องพร้อมจะตอบตลอดเวลา

 

มังกรกินได้มั้ย?? : อันนี้ล่าสุดตรุษจีนที่ผ่านมา ปูนปั้นไปเห็นมังกรตัวโตที่เนอร์สเซอร์รี่ตอนเช้า ทีแรกผงะไปพักนึง แล้วก็พูดสอนตัวเองขึ้นมาว่า ‘ไม่ต้องกลัวน้า’ แล้วก็เอานิ้วไปจิ้มมังกรก่อนจะตบท้ายด้วยคำถามฮาๆนั้น

 

ชุดคำถาม “กินได้มั้ย”?? มีอีกหลายอย่างครับ ที่ซาฟารีเวิล์ด ปูนปั้นก็หมกมุ่นกับการกินมากหลังจากถ่ายรูปคู่กับพี่ปลาโลมาแล้ว เจ้าปูนปั้นก้จะออกมาถามว่า ‘ปลาโลมากินได้มั้ย’ จากนั้นทั้ง ฉลาม จระเข้ สิงห์โต เสือ ก็กลายเป็นอาหารที่เจ้าปูนปั้นหมายมั่นปั้นมือเอามาขึ้นโต๊ะจีนให้เรียบ

 

 

แต่ไม่ว่าคำถามจะยากขนาดไหน ผมขอเสนอว่า

 

เรา ‘อย่าตอบแบบผ่านๆ’ ให้จบๆ ไป เพราะเด็กจะเรียนรู้ไปตามนั้น พยายามอธิบายให้ได้มากที่สุด เช่นปลามีนมมั้ย ผมก็บอกไปว่า ปลาไม่มีนม เพราะปลาเลี้ยงลูกด้วยอาหารอย่างอื่น กินอย่างอื่นไม่ได้กินนม มันก็มีหลายคำถามเหมือนกันที่ยากและเราตอบไม่ได้ ผมก็จะบอกไปว่า “อันนี้ป๊าก็ไม่รู้เหมือนกันแล้วป๊าจะมาตอบหนูอีกที”

 

อย่าหงุดหงิด เพราะหลายๆ คนมองว่าเรื่องเหล่านี้กวนประสาทจะถามทำไม เรียกร้องความสนใจหรือ แต่จริงๆ แล้วผมเชื่อว่าทุกสิ่งในโลกมันคือเรื่องใหม่ทั้งหมดของเขาดังนั้นเขาจึงมีข้อสงสัยเต็มไปหมดหากคุณหงุดหงิดเจ้าตัวเล็กก็อาจจะไม่เข้าใจว่าคุณดุเขาทำไม ซึ่งเด็กอาจจะไม่อยากถูกดุและในที่สุดเขาจะหยุดถาม ซึ่งนั่นคงไม่ใช่สิ่งที่คุณอยากเห็นคนไทยในรุ่นลูกเรา เป็นเหมือนอย่างเรา ที่การถามมากๆ ในห้องจะทำให้เรามีหน้าตาคล้าย Gruffalo (ส่วนการที่เด็กๆถามซ้ำๆ อันนี้ผมตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร อาจจะต้องถามคุณหมอผู้รู้ เพียงแต่ผมรู้ว่านั่นคือธรรมชาติของเด็ก และถ้าเรามองธรรมชาติของเด็กคือความงาม เราก็จะเห็นความงามที่เกิดขึ้นซ้ำๆ และถ้าคุณเคยอ่านเจอ ในวันที่เราแก่เฒ่าลงไป เราก็จะเป็นเช่นนั้นอีกครั้งเราจะถามคำถามอะไรลูกเราซ้ำๆ ถ้าคุณอยากจะให้เขาตอบคุณในยามที่คุณแก่เฒ่าด้วยรอยยิ้ม ก็จงเริ่มทำให้เขาดูในแบบที่คุณอยากเห็นตั้งแต่วันนี้นะครับ)

 

อย่าพยายามให้เขาหยุดถาม ผมเคยเห็นคำดุ คำตะคอกว่าเมื่อไหร่จะหยุดพูดหยุดถามเสียที หรือไปไกลๆ ผู้ใหญ่จะคุยกัน พฤติกรรมเหล่านี้จะไปหยุดความคิดในการตั้งคำถาม การหยุดตั้งคำถามก็เป็นการหยุดพัฒนาการของเด็ก หยุดพัฒนาการในการใช้สมองของเขา แล้วเมื่อเขาโตขึ้นมาในแบบนั้น เราควจจะโทษใครกันแน่

 

การพูดคุย นอกจากจะทำให้เด็กมีพัฒนาการทางสมอง ก็จะทำให้เด็กมีการใช้ภาษาที่ดีขึ้น ศัพท์หลายๆคำที่เราใช้อธิบาย โดยนึกคำง่ายๆ ไม่ออก เด็กก็เรียนรู้การใช้ได้ เช่นเช้าวันนี้เอง ขณะที่หม่าม๊ากำลังเล่นอยู่กับเจ้าปูนปั้นเจ้าปูนปั้นก็ใช้คำว่า Continue  ในการคุยกับหม่าม๊า ซึ่งก็ทำให้หม่าม๊าหันมาหาปะป๊าว่า เขาผูกคำนี้มาใช้เป็นด้วยแฮะ หรือเช้าวันเสาร์เมื่อวานนี้เจ้าปูนปั้นปลุกเราให้ตื่นแล้วบอกว่า ‘Mama wake up please. Cooking for Poonpun’ เมื่อหม่าม๊าทำท่าบิดไปบิดมาไม่ยอมลุกปูนปั้นก็พูดต่อว่า ‘Mama cooking for Poonpun ไปกินข้าวกินปลากัน’ ทำเอาหม่าม๊าขำลุกพรวดจากเตียง เพราะไม่รู้ไปจำคำว่า ‘กินข้าวกินปลา’ มาจากไหน

        ไว้จะมาเล่าเรื่อง ปูนปั้น-เด็กชายที่มาพร้อมกับคำวิเศษณ์ ให้ฟังกันครับ เพราะเจ้าตัวป่วนชอบมีคำวิเศษณ์ต่อท้ายในการพูดซึ่งนั่นก็คงมาจากการพุดคุยกับเขาเยอะๆแล้วก็ถูกเจ้าตัวป่วนเลียนแบบเอาไปใช้

        อ่านจบแล้ว กลับไปนั่งตอบคำถามเจ้าตัวป่วนกันต่อด้วยรอยยิ้มนะฮะ

 

 

บทความโดย: บรรทัดที่สิบเอ็ด (พ่อเอก-จิรัฏฐ์ สิริเฉลิมพงศ์)

เรื่องที่คนอ่านมากสุด

keyboard_arrow_up