เมื่อพูดถึงการเลี้ยงลูกใครๆ ก็นึกถึงคนเป็นแม่ แต่วันนี้ Amarin Baby & Kids มีข้อดีของคุณพ่อในการช่วยดูแลเจ้าตัวน้อยมาฝาก แล้วคุณแม่จะต้องประหลาดใจว่าในมุมการเลี้ยงลูกของคุณพ่อก็มีข้อดีมากมายแฝงอยู่ เพราะคุณพ่อก็มีความสำคัญกับเจ้าตัวน้อยเหมือนกัน
ความสำคัญของคุณพ่อกับลูกน้อยวัยขวบแรก
พ่อ…คือ ผู้ช่วยผู้สนับสนุนคนสำคัญ
โดยทั่วไปแล้วในสังคมไทย คุณพ่อมักถูกคาดหวังให้เป็นเสาหลักของครอบครัว ด้วยบทบาทเพศชาย ด้วยความแข็งแรง ที่สามารถปกป้องคุ้มครองให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เรื่องของอารมณ์ คุณพ่อก็ถูกคาดหวังว่าจะใช้เหตุผลมากกว่า รวมทั้งเป็นเสาหลักเวลาที่มีวิกฤติต่างๆ เกิดขึ้นในครอบครัว … นอกจากนั้น คุณพ่อยังเป็นกำลังสำคัญในการช่วยแบ่งเบาภาระ ผลัดเปลี่ยนบทบาท หน้าที่กับคุณแม่ได้เช่น ในช่วงหลังคลอด 3-4 เดือน คุณแม่ที่ให้ลูกกินนมแม่จะต้องอยู่กับลูกตลอด 24 ชม. ซึ่งหากคุณพ่อเข้ามาช่วยดูแล ให้คุณแม่ได้พักผ่อน นอนหลับ ให้มีเวลาได้ดูแลตัวเองบ้าง คุณแม่ก็จะมีกำลังกาย กำลังใจ เกิดความผ่อนคลาย ไม่หงุดหงิดง่าย ซึ่งจะเป็นผลดีต่อทั้งตัวคุณแม่และลูกน้อยค่ะ
พ่อ…คือ ต้นแบบพัฒนาการลูก
สิ่งที่เด็กวัยขวบแรกต้องการ คือมีผู้ใหญ่สักคนดูแลอย่างใกล้ชิด ให้ความรัก เรียกว่า mother figure เพราะว่าส่วนใหญ่จะเป็นแม่ แต่ในขวบปีแรก เด็กยังแยกไม่ได้การดูแลจะต้องมาจากเพศไหน ถ้าคุณแม่เป็น single mom แล้วตอบสนองลูกได้ดีทั้งหมด ก็ไม่มีปัญหาค่ะ แต่พอเริ่มที่จะมีเรื่องบทบาทของเพศ ประมาณสัก 2-3 ขวบ แล้วไม่มี model เช่น เด็กผู้ชายที่แม่เลี้ยงดูมาตลอด ไม่มีลุง ไม่มีลูกพี่ลูกน้องเพศเดียวกัน ให้ได้เลียนรู้การแสดงบทบาทของการเป็นเพศชาย ก็อาจเกิดปัญหาได้ แต่ก็ไม่เสมอไปค่ะ
- คุณพ่อกับลูกสาว คุณพ่อเป็นผู้ชายคนแรกที่ลูกได้สัมผัส และมีบทบาทสำคัญกับชีวิตเพราะเป็นตัวแทนเพศชาย เป็นต้นแบบให้เด็กมี concept ของเพศชาย และเรียนรู้ความแตกต่างของเพศ รวมทั้งวิธีการที่พ่อปฏิบัติต่อแม่
- ถ้าพ่อใช้ความรุนแรง ลูกก็ได้เห็นตัวอย่างและมีภาพลักษณ์ของเพศชายในทางไม่ดีว่าชอบใช้กำลังใช้ความก้าวร้าวในการจัดการปัญหา ในอนาคตหากลูกสาวมองเพศชาย หรือจะหาคู่ครอง เขาก็จะเอาพ่อเป็นมาตรฐานในการเทียบ ถ้าคุณพ่อแสดงบทบาทได้ดี มีความอบอุ่น ให้เกียติผู้หญิง มีน้ำใจช่วยเหลือคุณแม่ มีความอ่อนโยน ลูกสาวก็จะมีทัศนคติที่ดีต่อเพศชาย เวลาที่จะหาคู่ครองก็จะพยายามเลือกเฟ้นคนที่คล้ายกับพ่อซึ่งเป็นสิ่งที่ดี
- แต่ถ้าคุณพ่อมีความก้าวร้าว ลูกก็จะมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อเพศชายและอาจมองว่าการมีครอบครัวเป็นสิ่งไม่ดี และอาจทำให้ลูกหลีกเลี่ยงการมีครอบครัว หรือพยายามมองหาผู้ชายที่มีลักษณะแตกต่างจากพ่อมาเป็นคู้ครอง เป็นต้น
- คุณพ่อกับลูกชาย ก็มีความสำคัญมากไม่แพ้กันค่ะ เพราะเด็กผู้ชายจะเรียนรู้การแสดงออกและบทบาทของเพศชาย ทั้งเรื่องอารมณ์ ความรู้สึก การกระทำ ความคิดต่างๆ เช่น เวลาพ่อโกรธ เศร้า ผิดหวัง กลัว ฯลฯ พ่อแสดงออกอย่างไร รวมทั้งเรื่องการแสดงออกของการวางตัวต่อเพศตรงข้าม ท่าทีที่พ่อแสดงออกกับแม่ การที่เด็กผู้ชายจะเติบโตขึ้นมาเป็นแบบไหน ส่วนใหญ่จะมี model มาจากพ่อของเขาค่ะ
- ถ้าพ่อใช้ความรุนแรง เช่น ในการลงโทษ หรือในการดูแลลูกชาย เพราะเห็นว่าเป็นผู้ชาย เด็กก็จะซึมซับความรุนแรง คือ ยอมรับว่าวิธีการนี้คือวิธีการจัดการปัญหา เวลาที่ลูกมีปัญหาก็จะใช้วิธีนี้ต่อไป เมื่อเขาเติบโตขึ้นก็จะซึมซับความคิดที่ว่า ผู้ชายที่ตัวโตกว่า มีพละกำลังมากกว่า สามารถที่จะใช้ความรุนแรงจัดการกับคนที่ด้อยกว่า ตัวเล็กกว่า ซึ่งก็เป็นต้นแบบที่ไม่ดีค่ะ
- หากคุณพ่อใส่ใจช่วยเหลือคุณแม่ดูแลลูก สร้างความรักความอบอุ่นให้ลูกและกระตุ้นพัฒนาการผ่านทางประสาทสัมผัสทั้ง 5 รวมทั้งตอบสนองเวลาที่ลูกต้องการ เพียงเท่านี้ลูกน้อยก็จะเติบโตมีพัฒนาการดีสมวัยไร้ปัญหาแล้วละค่ะ
อ่านต่อ >> “ความสำคัญของคุณพ่อกับลูกน้อยวัยขวบแรก
และข้อดีของคุณพ่อในการช่วยดูแลเจ้าตัวน้อย” คลิกหน้า 2
พ่อ…ช่วยพัฒนาการลูกดี
พัฒนาการของเด็กทารกจะถูกกระตุ้นโดยระบบประสาทสัมผัสทั้ง 5 คือการมองเห็น การได้กลิ่น การได้ยิน การรับรส และการสัมผัส ซึ่งคุณพ่อสามารถเข้ามาช่วยเหลือคุณแม่ได้ และยังเป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการลูกอีกด้วยค่ะ เช่น
- อุ้ม-กอดเวลาลูกวัยทารกร้องอยากให้อุ้ม คุณพ่อควรมาอุ้มแล้วพาเดิน ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกนอนอยู่กับเปลอย่างเดียว การอุ้มเดินจะทำให้ลูกได้เห็นวิวทิวทัศน์ และสิ่งต่างๆ ในตำแหน่งที่ต่างไปจากการนอนอยู่ในเปล ซึ่งเป็นการช่วยกระตุ้นสมองของลูกค่ะ
- ช่วยอาบน้ำระหว่างอาบน้ำก็อาจจะมีนวดตัว เป็นการสัมผัสธรรมดาไม่ต้องอาศัยความชำนาญอะไรมาก คุณพ่อสามารถทำได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความรักความผูกพัน เป็นสิ่งสำคัญของทารกวัยขวบแรกค่ะ
- พูดคุย ร้องเพลงเด็กทารกยังแยกเพศไม่ได้ และยังแยกตัวตนออกจากแม่ไม่ได้เพราะแม่เป็นคนที่ดูแลเขามากที่สุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือถ้าเรายิ่งมีสิ่งกระตุ้นที่หลากหลายก็จะช่วยให้เขามีพัฒนาการที่ดีขึ้น เช่น การพูดคุยหรือการร้องเพลง เมื่อลูกได้ฟังเสียงจากแม่เขาก็จะได้รับการกระตุ้นแบบหนึ่ง ฟังเสียงจากพ่อก็จะได้รับการกระตุ้นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งเป็นการกระตุ้นที่ให้ความรักกับเด็กด้วย ก็จะยิ่งทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ดีในอนาคตต่อไป
- เล่นกับลูกการที่คุณพ่อเล่นกับลูก ก็สามารถช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกได้ค่ะ เพราะคุณพ่ออาจจะมีวิธีการอุ้มหรือเล่นกับลูกแตกต่างจากคุณแม่ที่อาจจะนุ่มนวลกว่า ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นพัฒนาการที่หลากหลายเช่นกัน
ข้อดีของคุณพ่อในการช่วยดูแลเจ้าตัวน้อย
1.คุณพ่อกล้าปล่อยให้ลูกได้เสี่ยงมากกว่า
ความเป็นแม่ ด้วยความใกล้ชิดที่ดูแลกันมาตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ มักทำให้ปกป้องลูกน้อยมากจนเกินไป แต่บางครั้งเด็กๆ ก็ต้องการการเรียนรู้จากความผิดพลาดบ้าง อย่างการหกล้ม หรือทำบางสิ่งไม่สำเร็จ เพื่อให้รู้จักระมัดระวังตัวต่อไป และบ่อยครั้งความกล้านี้จำเป็นต้องอาศัยคุณพ่อที่จะกล้าปล่อยให้เจ้าตัวน้อย ลองผจญภัยดูบ้าง คุณแม่จึงควรปล่อยวาง ไม่ดุคุณพ่อที่ปล่อยให้ลูกน้อยได้ลองด้วยตัวเอง ตราบใดที่คุณพ่อคอยจับตาดูอย่างเหมาะสม
2.คุณพ่อมักมีความเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่าเชื่อผู้เชี่ยวชาญ
ความพยายามที่จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด มักทำให้คุณแม่เกาะติดตำรา และคำแนะนำต่างๆ แต่อย่าลืมว่าเด็กทุกคนก็ไม่ได้เหมือนกันแม้แต่ในเรื่องพัฒนาการ คนที่จะรู้เกี่ยวกับลูกของคุณดีที่สุดก็คือคนที่ใกล้ชิดเขาที่สุดอย่างคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง และความมั่นใจในตัวเอง หรือเชื่อในสัญชาตญาณของคุณพ่อก็จำเป็นในกรณีที่จะช่วยทัดทานคุณแม่ได้ในเรื่องนี้
อ่านต่อ >> “ข้อดีของคุณพ่อในการช่วยดูแลเจ้าตัวน้อย” คลิกหน้า 3
3.คุณพ่อมักไม่สนใจเรื่องหยุมหยิม
ความเป็นคุณนายเจ้าระเบียบอาจทำให้คุณแม่ดูแลความเรียบร้อยไปเสียทุกเรื่อง แต่หลายๆ เรื่องก็ไม่ได้จำเป็นต้องระเบียบจัดเกินไปนัก อย่างการแต่งตัวของลูกน้อย หากเขาอยากแต่งตัวแปลกๆ หรือสีเสื้อไม่เข้ากับกางเกง กระโปรงบ้าง ก็ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด แถมยังเป็นการเพิ่มความมั่นใจในตัวเองให้ลูกน้อยมีความคิดสร้างสรรค์เป็นของตัวเองอีกด้วย ซึ่งความกล้าที่จะปล่อยให้ลูกน้อยเป็นตัวของตัวเองนี้ คุณพ่อมักเป็นฝ่ายที่ยืดหยุ่นมากกว่า
4.คุณพ่อมีความเป็นเด็กสูงนะ
ลูกน้อยไม่ได้ต้องการคุณพ่อคุณแม่เท่านั้น แต่เขายังต้องการเพื่อนเล่นด้วย แต่การเล่นแบบเด็ก ๆ ต้องการการเลอะเทอะบ้างเป็นครั้งคราว ฝ่ายคุณแม่ซึ่งขี้อายกว่า เจ้าระเบียบกว่า อาจทำได้ยากกว่าฝ่ายคุณพ่อ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในจินตนาการ หรือเล่นซน การที่พ่อลงมาคลุกคลีตีโมง เล่นหัวกับเขา นอกจากจะช่วยเพิ่มความสนิทสนมแล้ว ยังช่วยให้ลูกมีความกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเองต่อไปด้วย
5.คุณพ่อปล่อยให้ลูกแก้ปัญหาด้วยตัวเอง
เมื่อได้ยินเสียงลูกร้องไห้ คุณแม่มักเป็นคนแรกที่จะพุ่งเข้าไปหาเสมอ แม้อาบน้ำอยู่ก็ถึงกับออกจากห้องน้ำทีเดียว แต่ฝ่ายคุณพ่อมักจะใจเย็นกว่า และปล่อยให้ลูกร้องไห้ได้ จนอาจทำให้คุณแม่หงุดหงิดได้ ซึ่งอันที่จริงบางครั้งการปล่อยให้เด็กๆ ได้แก้ปัญหาด้วยตัวเองบ้างก็เป็นทักษะที่สำคัญสำหรับการเติบโตต่อไป
6.คุณพ่อใจเย็นแม้ในสถานการณ์ชวนหงุดหงิด
ยกตัวอย่างเช่นเมื่อเจ้าตัวน้อยไม่อยากอาบน้ำ และร้องไห้โวยวาย คุณแม่อาจรู้สึกหงุดหงิด แต่บ่อยครั้งคุณพ่อมักเป็นฝ่ายที่ใจเย็นพอและยืดหยุ่นได้มากกว่า ฉะนั้นเมื่อจะต้องรับมือกับเจ้าตัวน้อย ปล่อยให้คุณพ่อเป็นฝ่ายจัดการบ้างก็ได้ค่ะ
อีกทั้งยังมีผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ออนไลน์ใน Proceedings of the National Academy of Sciences เผยว่า คุณพ่อที่มี “อัณฑะเล็ก” มักมีส่วนร่วมในการดูแลลูกน้อยได้เป็นอย่างดี มีแนวโน้มจะเปลี่ยนผ้าอ้อม ป้อนข้าวลูก และอาบน้ำให้ลูกเก่งกว่าผู้ชายที่มีลูกอัณฑะใหญ่ … นักวิจัยได้ศึกษาทฤษฎีวิวัฒนาการ ในประเด็นการจับคู่สืบเผ่าพันธุ์ รวมถึงความทุ่มเทในการเลี้ยงดูบุตร พบว่า ผู้ชายที่มีลูกอัณฑะใหญ่ มีแนวโน้มที่จะสนใจแต่เรื่องการจับคู่สืบเผ่าพันธุ์ มากกว่าการทุ่มเทเวลาเลี้ยงดูบุตร (อ่านต่อ >> ผลวิจัยพบ!! คุณพ่ออัณฑะเล็ก เลี้ยงลูกเก่ง คลิก)
จากความสำคัญของคุณพ่อและข้อดีของการให้คุณพ่อได้เลี้ยงลูกข้างต้น ก็ทำให้รู้ว่าทุกครั้งที่คุณแม่ปล่อยลูกน้อยไว้กับคุณพ่อขอให้ไว้ใจได้เลยว่าทุกการเลี้ยงดูแม้มันจะแปลกหรืออาจมีเรื่องขัดใจขัดหูขัดตาคุณแม่ แต่ทุกเรื่องก็เป็นเรื่องดี เพราะพ่อที่พร้อมเลี้ยงลูกน้อยทุกคนล้วนแล้วแต่มีสัญชาตญาณความเป็นพ่อและความรักที่มีให้กับลูก ไม่แพ้คุณแม่เหมือนกันค่ะ
Amarin Baby & Kids หวังว่าความสำคัญและข้อดีของคุณพ่อข้างต้นจะช่วยให้เหล่าคุณพ่อมั่นใจที่จะช่วยคุณแม่ดูแลเจ้าตัวน้อยมากขึ้นนะคะ และหวังว่าคุณแม่ก็คงไว้ใจคุณพ่อมากขึ้นด้วยนะคะ
ขอบคุณข้อมูลจาก : www.manager.co.th , www.iammomsociety.com