ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “การเล่น” ของเด็ก ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่คนเป็นพ่อเป็นแม่จะมองข้ามไม่ได้ มี กิจกรรมเล่นกับลูก มากมายที่จะช่วยกระตุ้นสมองให้เกิดวงจรการเรียนรู้และพัฒนาด้านร่างกาย จิตใจ สังคม ภาษา และสติปัญญาผ่านความรู้สึกสนุกสนานได้เป็นอย่างดี การให้ลูกได้เล่นตั้งแต่ยังเล็ก ๆ ถือเป็นการเตรียมลูกน้อยให้มีพัฒนาการดี ๆ ความสามารถในการวางแผน การบริหารจัดการ จินตนาการ การทำงานเป็นที่ม สื่อสารเป็น มีความยืดหยุ่น และแก้ปัญหาได้ ล้วนเป็นพัฒนาที่ผ่านกระบวนการ “เล่น” ตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็ก ๆ โดยการเล่นนั้นมีหลายรูปแบบ แม้แต่การเล่นแบบธรรมดา ๆ ด้วยของเล่นจากธรรมชาติรอบบ้านหรือรอบตัว ก็สามารถสร้างพัฒนาการดี ๆ ให้กับเจ้าตัวน้อยได้ ถ้าหากได้ทุกกิจกรรมเหล่านี้บ่อย ๆ ทุกวัน
7 กิจกรรมเล่นกับลูก ได้จินตนาการ เสริมพัฒนาการลูกดีทุกด้าน
1.เล่นทราย ดิน หิน น้ำ เล่นธรรมชาติรอบตัว
การให้ลูกได้เล่นกับธรรมชาติอย่างทราย ดิน หิน น้ำ ที่ดูธรรมดาที่สุด แต่กลับเป็นผลดีต่อพัฒนาการของลูกที่สุดเช่นกัน เพราะการเล่นกับธรรมชาติเหล่านี้เป็นการเล่นที่ไม่มีรูปแบบขั้นตอนและวิธีการใด ๆ เป็นการเล่นแบบอิสระ หรือ free play ที่ไม่มีขอบเขตจำกัด ทำให้เด็ก ๆ ได้ใช้จินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ในการเล่นด้วยตัวเอง สามารถที่จะก่อกองทรายเป็นรูปอะไรก็ได้ เอาหินมาสร้างเป็นเขื่อน เอาดินมาปั้นนู้นปั้นนี่ หรือการเล่นน้ำ ตักน้ำ ตวงน้ำ ฯลฯ การเล่นเหล่านี้ที่นอกจากจะสร้างจินตนาการไม่รู้จบแล้ว ยังเป็นการเล่นที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงกล้ามเนื้อ ที่ต้องใช้นิ้วมือทั้งสิบนิ้ว ใช้มือทั้งสองข้าง เท้าสองข้าง หรือใช้ทั้งตัวลงไปเล่น เป็นการปล่อยพลังและปลดปล่อยอารมณ์ที่จะช่วยคลายเครียด ส่งผลให้ลูกอารมณ์ดี สดใส รวมถึงช่วยกระตุ้นกลไกระบบประสาทและสมองเพื่อรับรู้สัมผัสที่แตกต่าง และสั่งการการเคลื่อนไหวร่างกายให้ทำงานประสานสอดคล้องกัน
นอกจากเด็กจะได้สนุกสนานกับการเล่นไร้กรอบแล้ว คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ของเล่นธรรมชาติเหล่านี้สอดแทรกวิชาวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์เข้าไปได้อย่างแนบเนียนอีกด้วย เช่น ทรายเม็ดเล็ก ๆ พอกำแล้วหล่นลงมาเป็นสาย ดินที่มีความหนืดมากกว่าสามารถปั้นเป็นรูปได้มากกว่า หินมีน้ำหนัก มีความแข็ง มีขนาดที่หลากหลาย น้ำเป็นของเหลวที่แทรกซึมไปได้ทุกที่และอยู่ในภาชนะได้ทุกขนาด ส่วนการนำทราย ดิน หิน น้ำ มาใส่ในภาชนะขนาดต่าง ๆ กัน ก็สามารถสอนเรื่องการชั่ง ตวง วัด ในวิชาคณิตศาสตร์ให้กับลูกได้ สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีพื้นที่ก็สามารถประยุกต์พื้นที่เล็ก ๆ เล่นได้ อย่างการนำทราย หรือถุงเล็ก ๆ มาใส่ในกระบะ กะละมัง ใช้แป้งโดว์ปั้นแทนดินจริง หรือจะพาลูกออกไปเล่นกับธรรมชาตินอกบ้าน เปิดประสบการณ์เรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ ก็ช่วยเพิ่มเติมทักษะอื่น ๆ สำหรับเจ้าตัวเล็กขึ้นได้อีก
2.เล่นในห้องหรือในบ้านก็สนุกได้
วันไหนฝนตก อากาศร้อน หรือวันหยุดอยากอยู่กับบ้าน คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเนรมิตพื้นที่ในบ้านให้เป็นสนามเด็กเล่น ด้วยกิจกรรมง่าย ๆ เช่น
- เล่นซ่อนแอบ เกมการเล่นที่คลาสสิคที่สุดแต่ก็ทำให้เจ้าตัวเล็กสนุกได้เช่นกัน แค่ลูกได้หาที่ซ่อน ไปแอบหลังผ้าม่าน ใต้โต๊ะ หลบเข้าห้องนอน สนามหญ้าหน้าบ้าน หรือการได้เป็นคนหาคุณพ่อคุณแม่เท่านี้ก็เรียกเสียงหัวเราะ สร้างความสุขให้ลูกได้เป็นอย่างดี
- เกมหาสมบัติ นำของเล่น ตุ๊กตาตัวโปรดไปซ่อนเพื่อให้ลูกหา ทำปริศนาเพื่อเพิ่มความสนุกและตื่นเต้นเข้าไป
- ฝ่าด่านอุปสรรค ด้วยการนำเก้าอี้ โซฟา มาต่อกันให้ลูกได้เดินทรงตัว หรือถ้ามีเจ้าตัวเล็กในวัยหัดคลานก็ให้ลูกมุด ๆ คลาน ๆ ลอดใต้เก้าอี้ ปีนโซฟาขึ้น ๆ ลง ๆ เท่านี้ก็เป็นการช่วยเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ฝึกความแข็งแรงของกล้ามเนื้อแขน ขา ฝึกการทรงตัว
โดยหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่นอกจากจะเล่นไปพร้อม ๆ กับลูกแล้ว คือการดูแลความปลอดภัย ส่งเสียงเชียร์อยู่ใกล้ ๆ ในขณะลองปล่อยให้ลูกได้เล่นด้วยตัวเอง แค่พื้นที่ในบ้านก็สร้างความสนุกไปอีกแบบให้ลูกได้
3.เล่นสร้างเมือง สร้างประสาทจากกล่องลัง โต๊ะ เก้าอี้ สารพัดของใช้ในบ้าน
การเล่นสร้างบ้าน สร้างเมืองจำลอง ด้วยกล่องกระดาษลัง กระดาษแข็ง กล่องนม เก้าอี้ โต๊ะ ผ้าห่ม บล็อกไม้ ฯลฯ การนำอุปกรณ์ของใช้ ของเล่นภายในบ้านที่ใช้แทนของเล่นสำเร็จรูป และสามารถให้ลูกมาวางต่อกันหรือวางซ้อนกัน ออกแบบ สร้างเป็นบ้าน เป็นห้องนอน หรือจะสร้างปราสาทให้กับตุ๊กตาตัวโปรดของลูกสาว เมืองสัตว์ประหลาดพร้อมกองกำลังทหารของลูกชาย ฯลฯ การเล่นประเภทนี้เป็นการพัฒนาความฉลาดให้ลูกได้แบบปลายเปิด เพราะลูกจะหยิบสิ่งของมาสร้างต่อเติมเป็นอะไรก็ เป็นการเล่นที่เสริมจินตนาการแบบไม่รู้จบ ให้อิสระทางความคิดสร้างสรรค์ ช่วยกระตุ้นให้ลูกเกิดการวางแผนและวิเคราะห์ว่าจะทำให้ออกเป็นรูปร่างอย่างไร ได้เรียนรู้มิติพัฒนาเรื่องการจัดวางและเปลี่ยนตำแหน่ง และช่วยเสริมพัฒนาการประสานระหว่างมือและสายตาได้ดีอีกด้วย ทั้งนี้ในระหว่างคุณพ่อคุณแม่ควรปล่อยให้ลูกได้ตัดสินใจในการสร้างสิ่งต่าง ๆ ตามจินตนาการของตัวลูกเอง และอาจมีการชวนคุย สอดแทรกบทเรียนต่าง ๆ ทั้งวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ตั้งคำถามเป็นระยะว่าลูกกำลังสร้างอะไร อันนี้อะไร เพื่อให้ลูกได้อธิบายระหว่างเล่น ซึ่งก็จะเป็นการช่วยฝึกทักษะด้านภาษา ให้ลูกได้สื่อสารจากการพูดคุย และทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจความคิดลูกมากขึ้นด้วย
4.วาด ระบาย ละเลงสี ปะ ฉีก ประดิษฐ์
การเล่นอีกประเภทที่ส่งเสริมให้ลูกได้ CQ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จินตนาการกว้างไกล คือการชวนลูก ๆ มาเล่นศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นงานประดิษฐ์ วาดภาพ ระบายสีเทียน สีน้ำ สีโปสเตอร์ ฉีก ปะ ติด พับกระดาษ ฯลฯ โดยไม่ต้องกังวลว่าผลงานจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง เพราะสิ่งที่ลูกได้จากการเล่นประเภทนี้คือการได้ใช้นิ้วมือทั้งห้า ใช้ร่างกาย ใช้ประสาทสัมผัสในการทดลองวาด ระบาย หรือละเลง ใช้ความคิดในการออกแบบ จินตนาการให้ออกมาเป็นสีสัน เป็นรูปร่าง ในขณะที่เจ้าตัวเล็กกำลังวาด คุณพ่อคุณแม่อาจลองถามว่า “ลูกกำลังวาดรูปอะไรอยู่จ๊ะ” และเสริมความภาคภูมิใจให้ลูกด้วยคำชมเชย
การเล่นแบบนี้อาจจะมาพร้อมกับการเลอะ แต่ก็จะทำให้ลูกได้ประสบการณ์ที่เยอะขึ้น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรจัดสถานที่ สภาพแวดล้อม และอุปกรณ์ที่เตรียมเลอะให้กับเจ้าตัวน้อยได้เป็นศิลปินอย่างเต็มที่ เช่น เตรียมกระดาษหนังสือพิมพ์ ปูพลาสติก ใส่ผ้ากันเปื้อนให้เรียบร้อย แล้วปล่อยให้ลูกได้เล่นเพลิน ๆ ไป
อ่านต่อ 7 กิจกรรมเล่นกับลูกส่งผลดีต่อพัฒนาการ คลิกหน้า 2
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่
5.พาลูกเข้าครัว
เด็ก ๆ มักสนใจอยากมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ทำอยู่แล้ว การพาลูกเข้าครัวให้เป็นลูกมือคุณแม่ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องเล่นที่น่าสนุกไม่น้อยของเจ้าตัวเล็ก ลองให้ลูกได้ช่วยงานบ้านในชีวิตประจำวัน ได้ทดลองจับใช้อุปกรณ์ที่ผู้ใหญ่ใช้ ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะกลัวว่าลูกยิ่งทำยิ่งเลอะกลายเป็นงานหนักเข้าไปอีก หรือบางคนกลัวลูกเลอะเทอะเป็นเรื่องวุ่นวาย แต่กิจกรรมบางอย่างคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถออกแบบและดูแลลูกอย่างใกล้ชิดได้ เช่น ชวนลูกเข้าครัวช่วยแม่ทำกับข้าว ทำขนม อาจจะให้เจ้าตัวเล็กช่วยหยิบส่งอุปกรณ์ ตะหลิว กระบวย ช่วยล้างผัก หยิบจับคู่ช้อนส้อมช่วยจัดโต๊ะกินข้าว รองน้ำ หุงข้าว สอนให้ลูกถึงการใช้อุปกรณ์ ข้อควรระวัง การทำงานบ้านก็จัดเป็นงานเล่นอีกประเภทหนึ่งที่ลูกจะได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์การลงมือปฏิบัติจริง และส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านอื่น ๆ เข้าไปด้วย เช่น รู้จักกะระยะ รู้จักการกะ วัด ชั่งตวง ส่วนผสมอาหาร รวมถึงการช่วยกระตุ้นให้ลูกได้ใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก เมื่อลูกช่วยงานบ้านได้สำเร็จ คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถให้คำชมเชยเพื่อทำให้ลูกเกิดความภาคภูมิใจและมั่นใจในตัวเองตามมาด้วย
6.ให้เพลงพาไป
กิจกรรมร้องเพลง เต้นตามจังหวะ เป็นการเล่นที่คู่กับเด็ก ๆ มาตั้งแต่อยู่ในท้องของคุณแม่เลยก็ว่าได้ การเปิดเพลงให้ลูกฟังตั้งแต่ยังเป็นทารก ทั้งดนตรีคลาสสิค เพลงกล่อมนอน เพลงเด็กภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ ที่มีเสียงเมโลดี้ที่แตกต่างกัน ล้วนช่วยทำให้เจ้าตัวน้อยมีพัฒนาการด้านการรับรู้ ได้ฝึกทักษะด้านการฟัง มีพัฒนาการทางภาษาได้เรียนรู้คำศัพท์จากการฟังเพลง เนื่องจากเพลงเด็กส่วนใหญ่จะเป็นคำคล้องจอง และมีคำศัพท์หลากหลายนอกเหนือไปจากที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ถ้าได้ฟังบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ก็จะทำให้ลูกร้องตามได้ยิ่งคุณพ่อคุณแม่ร้องให้ลูกฟังเองจะทำให้เจ้าตัวน้อยคุ้นชินกับเสียงพ่อแม่ ทำให้ลูกเกิดความอุ่นใจและความผูกพันที่แน่นแฟ้นขึ้น และเมื่อลูกโตขึ้น เสียงเพลงของลูกจะเน้นเพลงที่มีจังหวะ ประกอบท่าทางตามเนื้อหาเพลง เพื่อให้ลูกได้ร้องเล่นเต้นตามที่เพลงที่เขาชอบ ประกอบกับคุณพ่อคุณแม่อาจจะหาอุปกรณ์เครื่องใช้ในบ้านมาให้ลูกได้ลองเคาะ ตี ดีดเป่า ก็จะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้ความแตกต่างของเสียง และเสริมพัฒนาการด้านร่างกาย ได้ความสนุกสนาน ทำให้ลูกไม่เครียด เป็นเด็กอารมณ์ดีแจ่มใส
นพ.อุดม เพชรสังหาร จิตแพทย์เด็กและเยาวชน ได้กล่าวไว้ว่าการ “ฟังเพลงอย่างตั้งใจ” การเล่นดนตรี การร้องเพลง การเต้นรำ ต้องใช้สมาธิเพื่อติดตาม “จังหวะ” ของเพลง เพื่อที่จะได้สามารถควบคุมและปรับจังหวะในการเล่น การร้อง และการเต้นรำให้เข้ากับจังหวะของเพลง จึงจำเป็นต้องใช้สมาธิเพื่อจดจ่ออยู่กับทำนองเพลงและเนื้อร้อง ทั้งหมดนี้ต้องใช้สมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับ Brain Executive Functions ทั้งสิ้น” ดังนั้นการให้ลูกได้ร้องเพลงจึงมีส่วนช่วยทำให้เกิดพัฒนาการดี ๆ และกระตุ้นให้เกิดพัฒนาการของ EF ได้ด้วย
7.เล่นเป็นผู้ช่วยคุณแม่ฝึกทักษะชีวิต
การให้เจ้าตัวเล็กได้ลองช่วยเหลืองานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เหมาะสมตามวัย เช่น กวาดบ้าน เช็ดถูโต๊ะ เก้าอื้ พับเสื้อผ้า ตากผ้า นำผ้าไปใส่ในตะกร้า รดน้ำตันไม้ การเก็บของเล่นให้เข้าที่ ฯลฯ ถือเป็นงานเล่นของเด็กที่จะทำให้ลูกรู้สึกตื่นเต้นและภูมิใจที่รู้สึกว่าตัวเองนั้นสามารถที่จะช่วยเหลือผู้อื่นได้ อีกทั้งยังเป็นการช่วยฝึกให้ลุกมีวินัยและปลูกฝังคุณธรรมความมีน้ำใจ คอยช่วยเหลือผู้อื่น ที่จะติดตัวไปอนาคตได้
นอกจากงานบ้านแล้วการสอนให้ลูกรู้จักรับผิดชอบตัวเองในชีวิตประจำวัน เช่น การกินข้าว อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัว ถอดรองเท้า ถุงเท้า ติดกระดุม ฯลฯ ก็จัดเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ให้ลูกเล่นได้ นอกจากเป็นการฝึกทักษะชีวิตแล้วยังช่วยในการฝึกฝนทักษะการใช้นิ้ว กล้ามเนื้อมัดเล็ก การทำงานประสานของอวัยวะส่วนต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กัน ซึ่งการเล่นในข้อนี้นอกจากจะทำให้ลูกหัดช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว ยังเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้ลูกรู้จักหน้าที่ของตัวเอง ทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าและเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองอีกด้วย
จะเห็นได้ว่ากิจกรรมทั้งหมดนี้เป็นการเล่นกับลูกแบบธรรมดา ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถออกแบบได้เองง่าย ๆ เล่นกับลูกที่บ้าน ตามความชอบ ความถนัดของลูก โดยสังเกตว่าอะไรที่ลองให้ทำแล้วลูกไม่ถนัด หรือไม่ชอบทำกิจกรรมแบบนี้ เพราะเด็กแต่ละคนมีศักยภาพ ความถนัด และความสนใจ แตกต่างกัน บางคนชอบวิ่งเล่น ชอบปืนป่าย ห้อยโหน เด็กบางคนขี้กลัว บางคนชอบเล่นลุย ๆ บางคนชอบศิลปะ บางคนชอบดูธรรรมชาติ ดูสัตว์ตัวเล็กๆ เงียบๆ ไม่ชอบเสียงดัง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ก็สามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมให้ลูกเล่นได้ตามวัยและความเหมาะสมนะคะ
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก : www.unicef.org
อ่านต่อบทความที่น่าสนใจอื่นๆ
14 วิธีเล่นกับลูก กระตุ้นพัฒนาการตามวัย ให้ฉลาด อารมณ์ดี ตั้งแต่เบบี๋
จับ หนีบ เล่น 20+ กิจกรรมพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็ก เล่นกับลูกในบ้านง่ายๆ
6 กิจกรรมเล่นกับลูกสไตล์ มอนเตสเซอรี่ เสริมทักษะให้ลูกง่ายๆ ได้ที่บ้าน
เลี้ยงลูกให้ เก่ง ดี มีสุข ไปกับเรา คลิกติดตามที่