บทความโดย Amarin Baby & Kids - Page 134 of 259

เด็กวัย 13 ทำเก่งบอกแม่อย่ายุ่งกับชีวิตผม เจอแม่ทวงค่าเช่าบ้าน-อาหาร สิ้นลายเลย

เว็บไซต์เมโทรของอังกฤษ เปิดเผยเรื่องราวไม้เด็ดของคุณแม่ ที่งัดออกมาจัดการกับลูกชายตัวแสบ หลังจากเขาทำเก่งประกาศตัวเป็นอิสระ แม่อย่ามายุ่งกับชีวิตผม! . . .เรื่องนี้เกิดจาก 2 แม่ลูกได้มีปากเสียงกันในวันหนึ่ง และลูกชายตัวแสบก็ได้ลั่นวาจาว่าเขาเป็นอิสระแล้ว ขอให้แม่อย่ามายุ่งกับชีวิตผมอีก >> แต่ใครเลยจะไปคาดคิดว่าเด็กชายตัวแสบจะสิ้นลายเมื่อเจอไม้เด็ดของแม่ ที่ส่งจดหมายระบุเงื่อนไขในการอยู่ในบ้าน หากเขาคิดว่าตัวเองเป็นอิสระแล้ว โดยเธอเขียนจดหมายทวงค่าเช่าบ้าน ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต แถมยังยึดเสื้อผ้าอีก  “ถึง.. อารอน จากการที่ลูกลืมไปแล้วว่าตัวเองอายุ 13 และแม่ก็คือผู้ปกครองของลูก และลูกก็ไม่อยากจะถูกควบคุมใด ๆ แล้ว แม่คิดว่าลูกจะต้องได้รับบทเรียนของการเป็นอิสระ สำหรับเรื่องที่ลูกบอกแม่ว่าตอนนี้ลูกหาเงินเองได้แล้ว ดังนั้นมันก็คงง่ายเลยที่จะซื้อของที่แม่เคยซื้อให้ลูกกลับคืนไป ต่อไปนี้ถ้าลูกอยากจะใช้ไฟหรือเข้าอินเทอร์เน็ต ลูกจะต้องแชร์ค่าใช้จ่ายกับแม่ดังนี้                 – ค่าเช่าบ้าน 430 ดอลลาร์                 – ค่าไฟ  116 ดอลลาร์                 – ค่าอินเทอร์เน็ต  21 ดอลลาร์ […]

สุดทึ่ง! หนูน้อยวัย 2 ขวบ ปีนหน้าผาจำลอง (มีคลิป)

คลิปนี้ถูกโพสต์ผ่านโพสต์ลงเฟซบุ๊ก แสดงให้เห็นภาพหนูน้อย เอลลี อายุ 2 ขวบ วัยหัดเดิน ซึ่งกำลังปีนบนหน้าผาจำลอง โดยมีคุณพ่อและคุณแม่คอยดูแลอยู่อย่างใกล้ชิด เอลลี สามารถใช้แขนและขาน้อยๆ ของตนเองป่ายปีนหน้าผาจำลองได้อย่างคล่องแคล่ว แถมยังส่งเสียงร้องออกมาเหมือนกับจะบอกพ่อแม่ว่า ‘ดูนะ! หนูทำได้’ ทางด้านผู้เป็นพ่อและแม่ของหนูน้อยเอลลี ซึ่งเคยเข้าแข่งขันการปีนหน้าผากันมาทั้งคู่ เล่าว่า เอลลีสามารถปีนหน้าผาจำลองก่อนจะเดินได้เสียอีก ตั้งแต่อายุแค่เพียง 8 เดือนเท่านั้น โดยพ่อของเด็กหญิงได้สร้างหน้าผาจำลอง สูง 8 ฟุต ไว้ในห้องนอน เพื่อให้เอลลีหัดปีน หวังสร้างกล้ามเนื้อของลูกให้แข็งแรง …ทุกวันนี้ เอลลี กลายเป็นเด็กหญิงที่รักในการออกกำลังกายแม้จะมีอายุไม่ถึง 2 ขวบ โดยจะติดตามพ่อกับแม่ไปโรงยิม ถึงสัปดาห์ละ 5 วันและบางครั้ง ยังเรียกความสนใจให้แก่ผู้มาออกกำลังกาย ด้วยการเล่นห่วงยิมนาสติกโชว์อีกด้วย ว่าแล้วก็ตามไปดูความแข่งแกร่งน้องแม่หนูน้อยเอลลีกันดีกว่าค่ะ   ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : thairath  

“เด็กเห็น เด็กทำตาม” แคมเปญให้ผู้ใหญ่ระมัดระวังพฤติกรรมก้าวร้าวต่อหน้าเด็ก

มูลนิธิ Child Friendly ประเทศออสเตรเลียได้ปล่อยแคมเปญรณรงค์ภายใต้ชื่อ “Children see Children do” หรือแปลเป็นไทยว่า “เด็กเห็น เด็กทำตาม” โดยมีเนื้อหาจะกล่าวถึงพฤติกรรมแย่ๆ ของผู้ใหญ่ที่แสดงออกมาในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ระดับเบาๆ อย่างการตะโกนใส่กัน ไปจนระดับรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ซึ่งขณะที่ผู้ใหญ่แสดงกิริยาเหล่านี้ เด็กที่เดินตามก็จะเลียนแบบสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำด้วย การที่เด็กเรียนแบบพฤติกรรมผู้ใหญ่ หรือ เลียนแบบพฤติกรรมจากพ่อแม่และคนรอบข้าง ก็เปรียบเสมือนเด็กคือกระจกของผู้ใหญ่ พฤติกรรม  การพูด อารมณ์ หลายสิ่งอย่าง เด็กจะซึมซับจากคนรอบข้างและแสดงออกมาโดยที่เขาไม่รู้ตัว ผู้ใหญ่เองควรรู้จักเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับพวกเขาเสียก่อน ไม่เช่นนั้นลูกหลานของคุณอาจเป็นแบบนี้! ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : NAPCAN  

ชาวเน็ตยกนิ้วให้! คลิปหนูน้อย 6 ขวบพูดเตือนสติแม่ ขอให้เป็นเพื่อนกับพ่อแม้เลิกกัน

  คำขอร้องใส ๆ ที่จริงจังและจริงใจจากสาวน้อยวัย 6 ขวบ เมื่อได้เห็นพ่อกับแม่ที่แยกทางกันแล้วทะเลาะกันอีก “หนูอยากให้แม่กับพ่อเป็นเพื่อนกันนะ..อยากให้ทุก ๆ คนเป็นเพื่อนกันค่ะ”           ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดที่ทำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ตัดสินใจแยกทางกัน โปรดจงจำไว้เถิดว่าเด็กน้อยของคุณก็ยังหวังจะได้เห็นคุณและอดีตคนรัก กลับมาพูดจากันดี ๆ มีน้ำใจไมตรีแก่กันบ้าง ลองมาฟังคำพูดง่าย ๆ ใส ๆ และกินใจอย่างที่สุดของ สาวน้อยทิอาน่า วัย 6 ขวบคนนี้ ที่ร่ายยาวออกมาเกือบ 3 นาที หลังได้เห็นพ่อและแม่ที่แยกทางกันไปแล้วมีปากเสียงใส่กัน           คลิปวิดีโอนี้มาจาก Facebook Cherish Sherry  คุณแม่จากเซอร์เรย์ประเทศแคนาดา เธอบอกว่า ก่อนจะมานั่งคุยกับลูกสาวในคลิปนี้ ทิอาน่าดันเห็นเธอและอดีตสามีทะเลาะหัวเสียใส่กัน แล้วลูกสาวก็พูดออกมาตอนนั้นว่า “ทำไมพ่อกับแม่ไม่ลองทำดี ๆ ใส่กันบ้างล่ะคะ เหมือนที่เพื่อนเขาช่วยเหลือกัน ไม่หัวเสียใส่กัน แล้วก็มีความสุขกัน…” หลังจากเคลียร์กันเสร็จแล้ว เชอรี่ก็เลยจูงมือลูกสาวเข้าบ้านไปนั่งตรงบันได ก่อนที่หนูน้อยจะเริ่มร่ายคำขอร้องแกมสอนคุณแม่นิด ๆ ฟังแล้วทั้งเอ็นดูในท่าทางจริงจัง แต่ก็อดน้ำตาคลอไปเบา ๆ กับสิ่งที่อยู่ในใจเธอด้วยไม่ได้ “แม่พร้อมจะเป็นเพื่อนของพ่อรึยังคะ งั้นแม่อย่าตั้งกำแพงสูง ๆ […]

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย

    แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว : พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งเต็มไปด้วยหุ่นจำลองคนสำคัญในประวัติศาสตร์มากมาย และยังมีหุ่นที่จัดแสดงเพื่อบอกเล่าเรื่องราวในอดีตและวรรณคดีเอกของไทย คุณพ่อคุณแม่สามารถแนะนำให้ลูกน้อยรู้จักบุคคลสำคัญเหล่านั้นได้ด้วยป้ายประวัติความเป็นมาของบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าที่ผู้รู้ และเสียงบรรยายที่มีเพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ อยู่เป็นระยะ แถมด้วยกิจกรรมน่าสนใจอย่างการจำลองตลาดน้ำสี่ภาคริมบึงขนาดย่อม ซึ่งจะเปิดอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้ค่ะ ชวนลูกเล่น : ลองชวนลูกน้อยสังเกตสีหน้าของบุคคลในอดีตที่ศิลปินแสดงผ่านฝีมือการปั้นหุ่นขี้ผึ้งดูสิคะ ทายว่าพวกเขากำลังเเสดงสีหน้าแบบไหนและสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกใด แล้วลองชวนกันเลียนแบบสีหน้าพวกเขาเหล่านั้นดู เพื่อให้ลูกน้อยได้เรียนรู้จักอารมณ์ต่างๆ และการแสดงออกผ่านทางสีหน้า อันเป็นกระบวนการหนึ่งในการพัฒนาทักษะทางอารมณ์ได้ด้วยนะคะ คำเตือน / สิ่งที่ควรรู้หรือควรเตรียมก่อนไปเที่ยว : เด็กบางคนเมื่อเจอหุ่นขี้ผึ้งหน้าตาดุๆ ในห้องมืดๆ อาจรู้สึกกลัวได้ คุณพ่อคุณแม่ลองอธิบายและบอกลูกน้อยล่วงหน้าด้วยนะคะว่าในห้องต่อไปอาจมืด และเราจะเจอหุ่นของใครบ้าง บุคคลเหล่านั้นใจดีอย่างไร หรือมีความสำคัญอย่างไร (แอบถามจากเจ้าหน้าที่ก่อนได้เลยค่ะ) นอกจากลูกน้อยจะได้ความรู้แล้วยังช่วยคลายความกังวลของลูกได้ด้วยค่ะ Tip : เมื่อลูกน้อยอยากพิสูจน์และสัมผัสหุ่นขี้ผึ้งด้วยตัวเอง จะห้ามลูกน้อยอย่างไรเพื่อไม่เป็นการขัดขวางกระบวนการเรียนรู้ของลูกน้อยดีนะ ราคาค่าเข้า : ผู้ใหญ่ 70 บาท เด็กนักเรียนในเครื่องแบบและเด็กสูงไม่เกิน 130 ซม. 30 บาท วัน-เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ – วันศุกร์ 9.00 – […]

ชื่นชมหมอหนุ่มใจดี กอดปลอบหนูน้อยวัย 2 ขวบ ร้องไห้ไม่ยอมเข้าห้องผ่าตัด

ชาวเน็ตจีนแห่ชื่นชมคุณหมอหนุ่มปลอบขวัญคนไข้เด็กหญิงวัย 2 ขวบ ที่กำลังร้องไห้ก่อนพาเข้าห้องผ่าตัด ซึ่งหนูน้อยวัย 2 ขวบ ที่ต้องเข้ารับการผ่าตัด ร้องไห้จ้าเพราะไม่กล้าเข้าไปในห้อง โดยที่ไม่มีพ่อแม่อยู่ด้วย ทำให้คุณหมอต้องพยายามกอดปลอบหนูน้อยด้วยการให้เด็กดูคลิปวิดีโอตลกในสมาร์ตโฟนของคุณหมอ จนสร้างความประทับใจแก่ผู้พบเห็น ซึ่งเหมือนว่าวิธีการของคุณหมอจะได้ผล ทั้งนี้คุณหมอฉีโจวก็มีลูกสาวเช่นกัน อายุ 6 ขวบ ทำให้คุณหมอรู้จักวิธีการรับมือกับเด็กๆเป็นอย่างดี คุณหมอกล่าวว่า “ปกติแล้วหมอต้องคอยปลอบคนไข้อยู่เสมอ ด้วยการกอดหรือคำพูดดีๆ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมาก” ที่มา Shanghaiist ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : www.khaosodonline.com

สามพรานริเวอร์ไซด์

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว : สามพรานริเวอร์ไซด์มีบรรยากาศร่มรื่นจากต้นไม้สวยงามมากมาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสืบสานวัฒนธรรมไทยและการเกษตรแบบออร์แกนิคไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ร่วมกิจกรรม คุณพ่อคุณแม่จะเลือกพาลูกน้อยไปชมสวนออร์แกนิค หรือชมสวนลุงเขียด (เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากแพ็คเกจคนละ 500 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบฟรี) เพื่อชมสวน เก็บผัก และทำอาหารรับประทานร่วมกันในครอบครัวก็ได้ค่ะ หรืออยากให้ลูกน้อยเรียนรู้วิถีไทย ทางสามพรานริเวอร์ไซด์ก็มีกิจกรรมให้ร่วมสนุกมากมาย อาทิ การแสดงศิลปะวัฒนธรรมไทย วาดร่ม จักสาน ปั้นเครื่องปั้นดินเผา ร้อยมาลัย แกะสลัก ทำขนมไทย ฯลฯ ซึ่งทั้งครอบครัวจะได้ชื่นชมวัฒนธรรมและวิถีอย่างไทย รวมทั้งสามารถลงมือปฏิบัติได้ด้วยตัวเอง แล้วตบท้ายกิจกรรมด้วยการเที่ยวชมตลาดสุขใจ เพื่อซื้อสินค้าเพื่อสุขภาพและสินค้าออร์แกนิคก็เพลิดเพลินไม่น้อยเลยนะคะ ชวนลูกเล่น : ที่นี่มีกิจกรรมให้ทำมากมายอยู่แล้ว เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่ช่วยกระตุ้นให้ลูกน้อยกล้าลงมือปฏิบัติหรือแสดงออก ด้วยการร่วมกิจกรรมไปด้วยกัน ไม่ปล่อยให้ลูกน้อยเล่นแบบเหงาๆ อยู่คนเดียว เท่านี้ก็สนุกได้ทั้งครอบครัว ลูกน้อยได้เรียนรู้ แถมยังได้สานสัมพันธ์และเสริมสร้างความสามมัคคีในครอบครัวด้วยค่ะ คำเตือน / สิ่งที่ควรรู้หรือควรเตรียมก่อนไปเที่ยว (ล้อมกรอบ) : ในวันที่อากาศร้อนมาก ลูกน้อยอาจไม่สบายได้ เตรียมร่ม พัด หรืออุปกรณ์คลายร้อนต่างๆ ไปให้พร้อมได้เลยค่ะ Tip : เมื่อลูกน้อยขี้อาย ไม่กล้าร่วมกิจกรรมสักอย่าง […]

ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพราน

ลานแสดงช้างและฟาร์มจระเข้สามพรานมีการจัดแสดงสัตว์ต่างๆ ให้ชมอย่างใกล้ชิด แต่ที่เป็นทีเด็ดของที่นี่คงหนีไม่พ้นช้างและจระเข้ค่ะ ซึ่งมีทั้งแบบเดินชมและให้อาหาร รวมถึงการแสดงต่างๆ

[Blogger พญ.พิชญา ตันธนวิกรัย] ตำหนินิสัยไม่น่ารักของลูก..ไม่ช่วยอะไร ‘คำชม’ ต่างหาก เปลี่ยนลูกอยู่หมัด!

หลายๆครั้งที่หมอพูดคุยกับคุณผู้ปกครอง หมอจะพบว่าหลายท่านมีความเข้าใจผิดว่า.. การแก้ปัญหาพฤติกรรมเด็ก คือการคิดหาวิธีลงโทษเพื่อลดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พอเวลาเด็กเกิดปัญหาพฤติกรรมขึ้น คุณพ่อคุณแม่จึงทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปกับการจับจุดที่เด็กทำผิดเพื่อคอยตักเตือนและลงโทษ แต่ความจริงแล้วการปรับพฤติกรรมเด็กประกอบด้วย 2 องค์ประกอบใหญ่ๆค่ะ นอกจาก การปรับลดพฤติกรรมที่เป็นปัญหา แล้ว อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญพอๆกัน ก็คือ การส่งเสริมเพื่อเพิ่มพฤติกรรมดีๆของเด็ก เช่นการให้คำชม และให้รางวัลกับพฤติกรรมที่ดีของเด็กค่ะ หมอพูดแบบนี้ คุณพ่อคุณแม่อาจจะงงนะคะ ว่าการชมจะช่วยแก้ปัญหาพฤติกรรมของเด็กได้อย่างไร.. แต่หมอยืนยันค่ะว่าทำได้จริงๆ เพราะหลายๆครั้ง การให้คำชมเพื่อส่งเสริมให้เด็กมีความสุขกับการทำดี จะไปป้องกันการเกิดพฤติกรรมแย่ๆที่เป็นฝ่ายตรงข้ามกันได้อัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องไปเสียเวลารบกับเด็กให้มากความค่ะ เช่น เวลาที่เด็กทำท่าหวงของอยู่นานแต่สุดท้ายก็ยอมแบ่งของบางอย่างให้น้อง แทนที่เราจะตำหนิเด็กที่อิดออด แต่เปลี่ยนเป็นให้คำชมความมีน้ำใจของเขาแทน เมื่อเด็กรู้สึกดีที่ได้เป็นคนมีน้ำใจและแบ่งปัน ก็จะลดพฤติกรรมหวงของ (ซึ่งเป็นพฤติกรรมตรงข้ามกับการแบ่งปัน) ไปได้เองค่ะ เพราะข้อสำคัญที่หมออยากฝากก็คือ เด็กทุกคนมีพฤติกรรมดีและไม่ดีปะปนสลับกันไป ฉะนั้นแล้วจากเดิมที่เราอาจจะเผลอมองแต่ส่วนที่เขายังทำไม่ดีเพื่อคอยตักเตือน จากนี้ไป เราอย่าลืมจับจุดพฤติกรรมดีๆของเด็กเพื่อคอยบอกให้เขารู้ว่าเรามองเห็นและอยากส่งเสริมให้เขาทำต่อไปด้วยนะคะ เพราะการปรับพฤติกรรมที่ได้ผลจะต้องอาศัยองค์ประกอบทั้งสองส่วนให้มีความสมดุลกันค่ะ     เรื่องโดย : พญ.พิชญา ตันธนวิกรัย จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น รพ.พหลพลพยุหเสนา ภาพ : ShutterStock    

Kidchen ครัวตัวจิ๋ว โดย คุณแม่อุ้ม สิริยากร พุกกะเวส (สูตรที่ 3) Oishii Kare Raisu ข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแสนอร่อย

ลองถามเด็กญี่ปุ่นว่าชอบอาหารจานไหนมากที่สุด รับรองว่าต้องได้ยินชื่อ “คาเหระ ไรสึ!” มากเป็นอันดับต้นๆ เป็นแน่ค่ะ คงเพราะความเข้มข้นนุ่มนวลของน้ำซอส และรสชาติกลมกล่อมหวานอร่อย ที่ทำให้ข้าวหน้าแกงกะหรี่แบบญี่ปุ่น (Japanese Curry Rice) ถูกใจเด็กๆ นัก และไม่ใช่แต่เฉพาะเด็กญี่ปุ่นเท่านั้นนะคะ เด็กไทยหรือเด็กชาติไหนๆ พอได้ ลองชิมก็เป็นอันต้องติดใจขอหม่ำจนเกลี้ยงจาน ยิ่งถ้าเสิร์ฟกับหมูทอดหรือปลาชุบขนมปังทอด ยิ่งเพิ่มคุณค่าและความ อร่อยให้เจ้าตัวน้อยต้องร้อง “โออิชิ… อร่อยจังเล้ย!” ให้คุณพ่อคุณแม่ได้อมยิ้มกันเป็นแถวเลยล่ะค่ะ ส่วนผสม หอมใหญ่สับละเอียด 1 หัว มันฝรั่งปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นๆ* 2-3 หัว แครอทปอกเปลือกหั่นเป็นชิ้นๆ 2-3 หัว เนื้อหมูหรือไก่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ½-1 กก. น้ำเปล่า 4 ถ้วย แอ๊ปเปิ้ลปอกเปลือก 1 ลูก น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ เกลือ 2 ช้อนชา ซุปแกงกะหรี่ญี่ปุ่นแบบก้อน 1-2 ก้อน (200 กรัม) ซีอิ๊วญี่ปุ่น […]

[Blogger พ่อเอก-58] เกร็ดดี จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก

เกร็ดดี จากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก             ช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสขึ้นเวทีเสวนาเรื่องการเลี้ยงลูกคู่กับคุณหมอจิราภรณ์ อรุณากูร (หรือหมอโอ๋เจ้าของเพจเลี้ยงลูกนอกบ้าน) และคุณหมอธีรชัย บุญยะลีพรรณ ส่วนผมไปในฐานะคุณพ่อรุ่นใหม่ที่เลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจ จึงได้มีโอกาสสนทนาเรื่องลูก กับคุณหมอทั้ง 2 ท่าน ซึ่งก็ได้ให้เคล็ดลับดีๆ ที่น่าสนใจในการเลี้ยงลูก ที่น่าสนุก และอยากเอามาแบ่งปันให้อ่านกันฮะ ความสม่ำเสมอ คุณหมอธี แนะนำว่า การสอนอะไรขอให้ทำให้สม่ำเสมอ ไม่ใช่อารมณ์ดีสอนอย่างหนึ่ง อารมณ์เสียสอนอย่างหนึ่ง เด็กจะไม่รู้ว่าที่ถูกคืออะไร นอกจากนั้นต้องตกลงกันให้ดีระหว่างพ่อและแม่ด้วย เช่น การรื้อกระเป๋า หากคุณแม่ดุ แต่คุณพ่อไม่ดุ เด็กจะเรียนรู้ว่าต่อหน้าคุณพ่อรื้อได้ แต่ถ้าคุณแม่อยู่ห้ามรื้อ ดังนั้นเด็กไม่ได้เรียนรู้ว่าการรื้อกระเป๋าไม่ดี ซึ่งหากไปรื้อกระเป๋าคุณครูที่โรงเรียนอาจจะกลายเป็นขโมยไป การให้รางวัลต่างกับการให้สินบน เด็กๆ ต้องการคำชมเมื่อเขาทำในสิ่งที่ดีดังนั้นถ้าเด็กทำดีต้องให้รางวัล ซึ่งก็คือคำชม เช่น ถ้าเจ้าตัวเล็กทานข้าวเอง ก็ให้ชมเชยเขาด้วย ถือเป็นการให้รางวัล แต่ในอีกกรณีถ้าเจ้าตัวลงไปนอนดิ้นกลางห้างสรรพสินค้าแล้วเราบอกว่าหยุดดิ้นเดี๋ยวซื้อของเล่นให้ ในกรณีหลังเข้าข่ายให้สินบนนะฮะ ซึ่งเจ้าตัวเล็กเรียนรู้เร็วซะด้วยนะ ตีลูกได้เฉพาะเวลาฉุกเฉินเท่านั้น เด็กกำลังเล่นปลั๊กไฟอาจจะรีบตีมือจะมามัวพูดดีๆ คงไม่ทัน และคุณหมอไม่ได้มองว่าการตีเป็นสิ่งที่ผิด (ตรงนี้ปะป๊าเอกเสริมคุณหมอว่าผมก็ตีนะฮะ แต่ไม่ได้ตีให้เจ็บ แต่ตีด้วยความเมตตา ตีเชิงสัญลักษณ์ให้รู้ว่าถูกตำหนิ) คุณหมอเสริมว่า เพราะหลายๆ […]

[Blogger – พลอย ชิดจันทร์] ตอนที่ 5 พลอยเลี้ยงลูกให้พี่น้องรักกันก่อนอย่างอื่น

ตอนนี้ “ทาชิโน่” 5 ขวบ “ชิลี่” 3 ขวบ “‘ชีต้าร์'” 2 ขวบ และ “‘ชิลิน'” เพิ่ง 5 เดือน (คนสุดท้องเกิดเดือนมีนาคม 2558) พลอยมีความสุขที่ได้เห็นลูกๆเล่นกันสนุก พี่น้องรักกัน อยากเก็บเวลาแบบนี้ไปนานๆ

How to watch movie with your kids ดูหนังกับลูกต้องสอนอะไรบ้าง?

การชวนลูกดูการ์ตูนหรือภาพยนตร์ร่วมกัน ไม่ว่าจะดูกันทั้งครอบครัว ดูกับคุณพ่อ หรือคุณแม่ก็ตามเป็นกิจกรรมที่หลายๆ ครอบครัวมักทำร่วมกันในวันว่าง ตอนเย็นหลังทานข้าว หรือก่อนนอน …

หนูน้อยอินจัด ทำท่าเลียนแบบคอนดักเตอร์ ในพิธีสวดมนต์ภายในโบสถ์

คลิปนี้ เป็นเรื่องราวของสาวน้อยแสนน่ารัก ที่สวมบทตัวเอง ว่ากำลังเป้นคอนดักเตอร์ หรือ วาทยกรตัวน้อย ผู้ควบคุมการร้องประสานเสียงในวงออร์เคสตรา ซึ่งท่าทางของหนูน้อยเหมือนจริงแถมฟีลลิ่งก็มาเต็ม น่ารักน่าเอ็นดู ฉายแววคอนดักเตอร์สาวในอนาคตออกมาให้เห็นเลยทีเดียว . . . จะน่ารักขนาดไหนไปชมกันเลยค่ะ ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : Sans Déconner  

เห็นแล้วร้องว้าว! เจ้าหนูวัย 2 ขวบเล่นยิมนาสติกสุดคล่องแคล่ว (มีคลิป)

 “อารัต” เจ้าหนูชาวอิหร่านแสนอัจฉริยะคนนี้ วัยเพียง 2 ขวบ ซึ่งเขาฝึกฝนยิมนาสติกตั้งแต่อายุ 9 เดือน โดยในคลิปจะเห็นว่าเจ้าหนูโชว์ท่วงท่าได้อย่างมีพรสวรรค์ ทั้งนี้พ่อแม่ของเจ้าหนูเปิดเผยว่า ลูกชายไม่ได้ฝึกอย่างมืออาชีพ แต่ซ้อมทุกวันวันละ 10-20 นาที โดยครอบครัวของเจ้าหนูได้โพสต์วิดีโอลงบน Instragram โชว์การเล่นยิมนาสติก ซึ่งเจ้าหนูจะแสดงให้เห็นท่วงท่าที่สมดุลและถูกต้องตามหลักยิมนาสติก และได้โชว์การเล่นในสถานที่ต่างๆภายในบ้าน พ่อของเจ้าหนูยังได้กล่าวอีกว่า วันหนึ่งตอนที่ผมกลับจากทำงาน อารัตเดินมาจับมือผมแล้วค่อยๆยกตัวขึ้นจากพื้น ตอนนั้นผมเห็นอย่างชัดเจนว่า แขนของอารัตมีพลังอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็เริ่มตีลังกาม้วนหลังเขาชอบเล่นอะไรแบบนี้มากหลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลาออกกำลังกายแบบนี้วันละ 20 นาที ว่าแล้วก็ตามไปชมคลิปของเจ้าหนูอัจฉริยะลีลาพริ้ว กันดีกว่าค่ะ ขอบคุณข้อมูลจาก : www.prachachat.net ขอบคุณคลิปวีดีโอจาก : Flash News , Daily News  

ฝรั่งถึงกับอึ้ง! พ่อแม่ญี่ปุ่นให้เด็กไปโรงเรียนเองตั้งแต่ 6-7 ขวบ [มีคลิป]

สื่อออสเตรเลียแพร่สารคดีสะท้อนภาพสังคมญี่ปุ่นฝึกเด็กให้แกร่ง ปล่อยเดินทางไปโรงเรียนเองระยะทางไกลๆ ตั้งแต่เริ่มเรียนประถมศึกษา แม่ชี้เป็นการฝึกให้เด็กพึ่งพาและแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ขณะที่ฝรั่งเผยแม้แต่ชุมชนในเมืองซิดนีย์ที่ว่าปลอดภัยก็ยังไม่กล้า คลิปวีดีโอนี้เป็นสารคดีเรื่อง “เด็กพึ่งตัวเองของญี่ปุ่น (Japan’s independent kids)” ในช่วงรายการเดอะฟีด (The Feed) ซึ่งเผยแพร่ผ่านทาง youtube ด้วย โดยเนื้อหาเป็นคลิปวิดีโอความยาว 8.21 นาที กล่าวถึงสังคมญี่ปุ่นที่ พ่อแม่ผู้ปกครองมีธรรมเนียมปฏิบัติให้ลูกช่วยเหลือพึ่งพาตัวเอง และเดินทางไปโรงเรียนเองตั้งแต่ยังเล็ก ในสารคดีดังกล่าวได้ยกตัวอย่างชีวิตประจำวันของสามพ่อแม่ลูกแห่งครอบครัวอันโด ที่คุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกสาววัย 7 ขวบเดินทางไปโรงเรียนเองทุกเช้าเป็นระยะทางไกลทั้งเดินด้วยเท้า และขึ้นรถไฟต่อเนื่องหลายสายกว่าจะถึงจุดหมาย “เธออาบน้ำ แปรงฟัน สระผมด้วยตัวเอง … ฉันคิดว่าก็นอกจากการดูแลบ้านแล้ว เธอก็ดูแลตัวเองได้เกือบหมด” ซาโตโกะ อันโด คุณแม่วัย 39 ปีบอก “เนื่องจากโรงเรียนของเธออยู่ไกล ทำให้เธอต้องเดินทางไปเรียนด้วยรถไฟ ซึ่งเธอเดินทางไปเอง” “หนูเดินไปสถานีรถไฟเอง ก่อนขึ้นรถไฟสายยามาโนเตะไปที่ชินจูกุ จากชินจูกุก็เปลี่ยนไปรถไฟสายชูโอ เพื่อไปปลายทางที่โคคุบันจิ” ดญ.โนเอะ อันโด สาธยายวิธีการเดินทางไปเรียนของเธอให้ฟังอย่างละเอียด ขณะที่คุณแม่ยืนยันว่าลูกสาวต้องเดินทางไปโรงเรียนด้วยตัวคนเดียวโดยไม่มีพ่อแม่ ซึ่งการกระทำเช่นนี้จะทำให้เธอต้องเรียนรู้ในการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเกิดหลงทางหรือขึ้นรถไฟผิดขบวนก็ต้องแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็จะกลับบ้านไม่ได้ ด้านสื่อออสเตรเลียระบุว่า ครอบครัวอันโดไม่ได้เป็นครอบครัวญี่ปุ่นครอบครัวเดียวที่ปล่อยให้เด็กๆ เดินทางไปและกลับโรงเรียนเป็นระยะทางไกลๆ เอง แต่ครอบครัวชาวญี่ปุ่นมีการปลูกฝังเด็กให้พึ่งพาตัวเองตั้งแต่ยังอายุน้อยมากๆ เช่นนี้เป็นเรื่องปกติ […]

Dyson digital slim เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย ตัวช่วยดีๆสำหรับแม่บ้านยุคใหม่

เชื่อว่าทุกวันนี้มีแม่บ้านหลายคนที่กำลังปวดหัวอยู่กับการกำจัดฝุ่น ทำอย่างไรก็ทำความสะอาดได้ไม่หมดสักที?

keyboard_arrow_up