การส่งเสริมพัฒนาการควรทำตั้งแต่อยู่ในครรภ์มาเรื่อยๆไปตลอดช่วงชีวิตเด็กๆ แต่ช่วงที่มีการศึกษาวิจัยและมีข้อมูลมากที่สุดว่า สมองไวต่อการรับการกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการคือ ในช่วงปฐมวัยตั้งแต่ 0-6 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่สมองมีการพัฒนาสูงสุดในทุกๆด้าน เป็นพื้นฐานในการเรียนรู้ต่อไปในอนาคตมีผลการศึกษาทางการแพทย์พบว่า 1) เกินกว่า 50% ของสติปัญญาเกิดขึ้นในช่วง 4 ปีแรกหลังจากนั้นจะเกิดขึ้นอย่างช้าๆ 2) ขนาดของสมองจะเติบโตสูงสุดจนมีขนาดใกล้เคียงกับผู้ใหญ่ตอนอายุ 6 ปี 3) สมองของเด็กอายุ 3 ปี มีความสามารถในการเรียนรู้ได้มากกว่าวัยผู้ใหญ่ถึง 2 เท่า ดังนั้นโดยสรุปแล้วภายใน 6 ขวบปีแรกเป็นเวลาทองของการกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการของลูกรัก
ปกติช้างตัวเป็นสีเทา แต่ถ้าวันหนึ่งมีช้างที่ไม่ใช่สีเทา แถมยังเป็นลายตารางหลากสีอีกละ จะเป็นอย่างไรนะ เรื่องราวของ เอลเมอร์ ช้างลายตารางหลากสีแสนซนซึ่งเป็นที่รักของช้างทุกตัว แต่แล้ววันหนึ่งเอลเมอร์กลับไม่อยากดูโดดเด่นและแตกต่างอีกต่อไป เขาจึงทำตัวเองให้เหมือนช้างตัวอื่นๆ แต่เอลเมอร์กลับรู้สึกไม่สนุกเลย ทำไมกันนะ…. ช้างสีไม่เหมือนช้าง ช้างที่ไม่เหมือนเพื่อนช้างตัวอื่นๆ ในฝูง โดดเด่นและแสนเป็นเอกลักษณ์ เพื่อนช้างในฝูงไม่มีใครมองว่าเอลเมอร์แปลก แต่เป็นเอลเมอร์เองที่คิดขึ้นว่า เบื่อแล้วกับการโดดเด่นและแตกต่างเช่นนี้ ช้างก็ต้องสีแบบช้างสิ เหมือนเพื่อนคนอื่นๆ สิ ถึงจะดี ใครจะอยากแตกต่างกันละ … คิดได้ดังนั้น เอลเมอร์จึงออกเดินทาง และทำตัวเองให้ “เหมือน” เพื่อนคนอื่น แต่เมื่อมีสีเหมือนเพื่อนแล้ว ทำไม่ถึงไม่สนุกเหมือนเดิมนะ … เรื่องราวของเอลเมอร์ สะท้อนให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ความแตกต่าวระหว่างตัวเอลเมอร์กับเพื่อน ความแตกต่างระหว่างเพื่อนกับเอลเมอร์ ความแตกต่างที่เอลเมอร์และเพื่อนไม่เคยมองว่าเรา “ต่าง” กัน จึงอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข และเอลเมอร์เองก็ไม่เคยรู้ว่าการเป็นตัวเองเป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน จนกระทั่งได้ลองทำตัวเหมือนคนอื่นแล้วรู้สึกอึดอัดใจแบบแปลกๆ เมื่อนั้นเอลเมอร์จึงได้รู้ว่าไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเป็นตัวเอง แล้วความภูมิใจในตนเองจึงเกิดขึ้น เอลเมอร์กลับมาเป็นช้างลายตารางหลากสีที่สดใสร่าเริง และเล่นสนุกกับเพื่อนเหมือนเดิม เอลเมอร์ได้สอนเราว่า ไม่มีอะไรดีไปกว่าการเป็นตัวของตัวเอง และจงภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น ในขณะเดียวกันเพื่อนของเอลเมอร์ก็สอนให้เราได้รู้ว่า การไม่ตัดสินคนอื่นจากความไม่เหมือน เป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน เราทุกควรล้วนมีเอกลักษณ์และมีความแตกต่างระหว่างกัน ไม่มีใครเหมือนกันเลยสักคน การอยู่ร่วมกันท่ามกลางความแตกต่างอย่างเข้าใจ […]
เมื่อหนังสือบ้าน 100 ชั้น พาเด็กๆ สำรวจและผจญภัย พบเพื่อนใหม่บนฟ้า สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ได้รู้จักแมงมุม ค้างคาวและสัตว์ตัวอื่นๆ แล้ว ตามด้วยหนังสือบ้านใต้ดิน 100 ชั้นที่พาไปตะลุยและผจญภัยสู่ใต้ดิน ไปพบว่าลึกลงไปใต้ดินมีสัตว์ชนิดไหนอาศัยอยู่บ้างนะ และสนุกกับภาพสีสันสดใสของบ้านใต้ทะเล 100 ชั้น ออกตามหาสิ่งของที่หายไป เรียนรู้การแบ่งปันและแลกเปลี่ยน กับบรรดาเพื่อนใต้ทะเล ไม่ว่าจะเป็นคุณโลมา คุณปลาหมึกยักษ์ ฯลฯ จากบ้าน 100 ชั้น บ้านใต้ดิน 100 ชั้น และบ้านใต้ทะเล 100 ชั้น ที่ชวนให้เด็กๆ สนุกกับการสังเกตในบ้านแต่ละชั้น ได้เรียนรู้สัตว์ เรียนรู้การปฏิบัติตนต่อผู้อื่น เรียนรู้การแลกเปลี่ยนแบ่งปัน เรียนรู้ที่จะวางแผนและมุ่งเป้าหมายกันมาแล้ว การผญจภัยครั้งใหม่ที่จะทำให้เด็กๆ สนุกกับรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ก็กลับมาอีกครั้ง … คราวนี้เป็นการผจญภัยขึ้นไปบนบ้านลอยฟ้า 100 ชั้น! เรื่องราวของเล่มนี้เกิดขึ้นท่ามกลางฤดูหนาว นกติ๊ดตัวจ้อยชื่อ จิ๊บคุง ออกหาอาหารจนเจอเมล็ดทานตะวัน แต่เมล็ดทานตะวันเล็กนิดเดียว กินไม่อิ่ม จิ๊บคุงอยากกินเยอะๆ เขาจึงจะปลูกเมล็ดทานตะวันเมล็ดนั้น แต่จะปลูกที่ไหนดีนะ […]
บริษัท เอเอ็มอี อิมเมจิเนทีฟ จำกัด
ในเครือ บริษัท อมรินทร์ คอร์เปอเรชั่นส์ จำกัด (มหาชน)
Tel : 0-2422-9999 ต่อ 4510
Tel : 02-422-9999 ต่อ 4775
Email : [email protected]
0-2422-9999 ต่อ 4180
(จันทร์ - ศุกร์ เวลา 09.00 - 18.00 น)
[email protected]